ขยาดม็อบ!เลื่อนถ่านหินกระบี่3ปี


เพิ่มเพื่อน    

  "ศิริ" ลั่นเลื่อนโรงไฟฟ้าถ่านหินอีก 3 ปี  สั่งทำอีเอชไอเอที่กระบี่และศึกษาความเหมาะสมพื้นที่เทพาใหม่ พร้อมผุดแผนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชน 300 เมกฯ เพิ่มกำลังผลิตในภาคใต้ เครือข่ายไม่เอาถ่านหินย้ำการชะลอไม่ใช่คำตอบ ต้องเลิกการใช้ถ่านหินในภาคใต้ทั้งหมด ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาที่หอศิลป์ 3 ก.พ.นี้

    เมื่อวันศุกร์ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีแผนที่จะเพิ่มเวลาในการศึกษาและตัดสินใจในการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และในพื้นที่อำเภอเทพาทั้งสองโครงการไปอีกประมาณ 3 ปี เพื่อทำการศึกษารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ของโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ และพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ปัจจุบัน และทางเลือกพื้นที่อื่นๆ ของโรงไฟฟ้าเทพา ทั้งในฝั่งอ่าวไทย ฝั่งอันดามันที่เหมาะสมกว่า เมื่อได้ข้อมูลครบแล้วภายใน 3 ปีจึงจะกลับมาตัดสินใจอีกครั้งว่าจำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ในภาคใต้อีกหรือไม่
     รมว.พลังงานกล่าวว่า กระทรวงพลังงานสั่งให้เร่งพัฒนาสายส่งและโรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชน 300 เมกะวัตต์  ใน 3 ชายแดนภาคใต้ให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอกับความต้องการในพื้นที่ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตส่วนนี้ประมาณเกือบ 20-30 เมกะวัตต์ รวมถึงสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ด้วย ขณะเดียวกันสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มจำนวนและขนาดของสายส่งแรงดันเชื่อมโรงไฟฟ้าหลักปัจจุบัน ได้แก่ โรงไฟฟ้าขนอม จ.สุราษฎร์ธานี และโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา และส่งตรงสู่เมืองที่มีการใช้ไฟฟ้ามากในบริเวณฝั่งอันดามัน
    "ให้ดำเนินการควบคู่กับการเพิ่มจำนวนและขนาดสายส่งแรงดันเชื่อมสายส่งหลักจากภาคกลางที่สถานีจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพิ่มขึ้นอีก 600 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันส่งเข้าพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 460 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการสูงสุดในพื้นที่ 2,624 เมกะวัตต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน" นายศิริกล่าว
    นายศิริกล่าวอีกว่า ความจำเป็นการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ในอนาคตอาจน้อยลงหรือยังจำเป็นต้องดำเนินการต่อไป ขึ้นอยู่กับบริบทที่ศึกษานำมาประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสมก็เลิก แล้วจึงศึกษาแนวทางอื่นควบคู่ เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเร่งรัดให้ตัดสินใจว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง โดยจะให้เวลาทุกฝ่ายทำงานเพื่อศึกษาข้อมูลตามหลักวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ก่อนตัดสินใจในอีก 3 ปีข้างหน้า
    วันเดียวกัน เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ร่วมกันออกแถลงการณ์ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแถลงทางออกปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้มีการชะลอโครงการออกไปก่อน ซึ่งได้หารือเรื่องนี้กับ รมว.พลังงานเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเครือข่ายฯ ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีเพื่อสื่อสารถึงเจตนาของเครือข่ายฯ ต่อเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับทราบถึงความต้องการของเครือข่ายฯ ที่ได้เดินทางขึ้นมาถึงทำเนียบรัฐบาลในครั้งนี้
    แถลงการณ์ระบุว่า เราต้องประกาศย้ำอีกครั้งว่าการชะลอโครงการไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา และไม่น่าจะเป็นทางออกต่อเรื่องนี้ จึงหวังว่าการแถลงของรัฐมนตรีจะมีสาระสำคัญที่แตกต่างจากสิ่งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้ ด้วยเพราะท่านได้เคยแถลงแนวนโยบายด้านพลังงานในตอนต้นหลังจากที่ท่านเข้ารับตำแหน่งใหม่ไว้ว่า จะดำเนินการทบทวนแผนการจัดการด้านพลังงาน หรือแผน PDP เสียใหม่ และจะยกเลิกการใช้พลังงานถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด คือทั้งกระบี่ และเทพา จึงถือเป็นแนวคิดที่มีความสอดคล้องกันกับแนวคิดของเครือข่ายฯ เราจึงยังเฝ้ารอคำตอบและคำแถลงของรัฐมนตรีจนถึงวันนี้
    “หากแต่จนถึงบัดนี้แล้วยังไม่มีถ้อยแถลงใดๆ จากท่านรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่าได้สั่งการและมอบหมายไว้แล้ว และในวันนี้พวกเราได้สรุปร่วมกันแล้วว่าเราต้องการความชัดเจนจากเรื่องนี้ตามหนังสือที่ได้ส่งไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เราจึงเรียกร้องให้ท่านได้แถลงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเพื่อให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น หรือไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเราทั้งหมดจะเดินทางไปกระทรวงพลังงานพร้อมกันในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ เพื่อรับฟังถ้อยแถลงของท่านโดยตรง ในโอกาสนี้เราจึงขอเชิญชวนมวลมิตรผู้ร่วมเทใจให้เทพา ได้โปรดร่วมเดินทางไปกับพวกเราในวันดังกล่าวนั้นด้วย” แถลงการณ์ระบุ
    นายมัธยม ชายเต็ม แกนนำเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า ชาวบ้านของเครือข่ายได้ระดมพลเข้ามานั่งรอฟังคำตอบจากนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ใน 2 ข้อเรียกร้อง คือ ให้ยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และยุติการดำเนินคดีกับ 17 แกนนำเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ถูกดำเนินคดีจากการทำกิจกรรมเดินเทใจให้เทพาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา หลังจากได้นั่งรอฟังคำตอบอยู่ด้านข้างทำเนียบรัฐบาลมานาน 5 วัน โดยในวันที่ 3 ก.พ. มีกำหนดที่จะเข้าร่วมนิทรรศการภาพถ่าย แววตาชาวบ้าน โดย วันชัย พุทธทอง ที่หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีกิจกรรมหลากหลายนอกเหนือจากการชมนิทรรศการภาพ มีการจัดเวทีเสวนา รวมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีในคดีเทใจให้เทพา ก็จะร่วมในกิจกรรม ร่วมแสดงออก แสดงความคิดเห็นในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ในการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินก็จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"