ถ้าหากเป็นการ เชียร์มวย...มันก็อาจ มันซ์ซ์ซ์ พอสมควรนั่นแหละทั่น สำหรับการได้เห็นนักมวยฝ่ายเรา หรือฝ่ายที่เราเชียร์ๆ กำลังไล่ทุบ ไล่กระทืบ ไล่เล่นงานนักมวยฝ่ายตรงกันข้ามแบบสะบักสะบอม ชนิดไปแหล่-มิไปแหล่ อย่างที่บรรดาแฟนมวยไม่ว่าเวทีราชดำเนิน เวทีสำโรง หรือเวทีไหนๆ ต่างอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางกระหึ่มรอบๆ เวทีว่า ตี...ตี...ตี อะไรประมาณนั้น...
-------------------------------------------------
แต่สำหรับ การเมือง แล้ว...คงต้องคิดหน้า คิดหลัง คิดให้รอบคอบ ให้ถ้วนถี่ ว่า ชัยชนะ หรือ ความพ่ายแพ้ ที่กำลังจะปรากฏต่อหน้า ต่อตา นั้น มันเป็นชัยชนะที่น่าเชียร์ น่าส่งเสียงครางกระหึ่ม ตีจั๊กกะแร้พั่บๆๆ กันเลยหรือไม่ อย่างไร เป็นชัยชนะที่เป็นจริง เป็นจัง ที่ยั่งยืน ถาวร เพียงไร เป็นชัยชนะเพียงแค่ยกแรก หรือไม่ทันถึงยกแรก ที่ยังต้องตามมาด้วยยกสอง ยกสาม ยกสี่ ยกห้า เผลอๆ อาจแถมยกหก หรือยกที่กรรมการชูมือให้นักมวยเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว แต่ยังต้องเจอกับเก้าอี้ รองเท้าแตะ ขวดน้ำพลาสติก ปลิวขึ้นมาบนเวที ชนิดพี่เลี้ยง กรรมการบนเวที ตัวนักมวย อาจหัวร้าง ข้างแตก เอาง่ายๆ...
----------------------------------------------------
เพราะ ปรากฏการณ์พายุ หรือ ฝงอวิ๋น...ขี่พายุทะลุฟ้า อะไรก็ตามที ที่อาจารย์ สังศิต แห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ท่านออกมาป่าวประกาศ แบบเสียงดัง-ฟังชัด โดยอาศัยการคิดคำนวณ สรุปเอาจากคำถาม คำตอบ จากผลสำรวจ วิจัย อารมณ์ ความรู้สึกของผู้คน ไม่ว่าจะระดับร้อยคน พันคน ไปจนถึงแปดพันคน เอาเลยก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะจริง-ไม่จริง เป็นไปตามนั้น-หรือไม่เป็นไปตามนั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว...มันคงไม่ถึงกับน่าตีจั๊กกะแร้พั่บๆๆ กันมากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าหากมันมีที่มา-ที่ไป จากรายการแจกแหลก แจกสะบั้น แบบที่นักมวยฝ่ายตรงกันข้าม เคยประพฤติ ปฏิบัติ และหวังว่าจะแลนด์สไลด์ จะแอฝะลานช์ กันไปอีกนานเท่านาน...
-------------------------------------------------------
คือมันออกจะเป็นชัยชนะแบบหยาบๆ ง่ายๆ แบบไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก ไม่ได้สะท้อนลีลาศิลปะอันอ่อนช้อย งดงาม ละเมียดละไม ตามแบบฉบับแม่ไม้มวยไทย ประเภทหนุมานถวายแหวน หักงวงไอยรา หรือจระเข้ฟาดหาง มากมายซักเท่าไหร่ ไม่ต้องฝึก ไม่ต้องซ้อม ไม่ต้องเข้าถึงและเข้าใจ แค่ควักเงินในเก๊ะออกมาสาดไป-สาดมา ก็เรียบโร้ยย์ย์ย์ประชานิยม ประชารัฐเอาง่ายๆ แบบเดียวกับการดูด การอม การเคี้ยว การกลืน ใครต่อใครในช่วงนี้กันเป็นกระบิๆ แม้จะไม่ต่างอะไรไปจากเคล็ดวิชา ยืมหอกสนองคืน ของตระกูลมู่ย้ง คือในเมื่อฝ่ายตรงข้ามทำได้ เราก็เอามั่ง แต่การไม่สนใจคลำหัว คลำหาง ว่าจะเป็นสปีชีส์เดียวกันหรือไม่ หรือต่างออกไปคนละไฟลัม คนละแฟมิลี่ ชัยชนะอันเกิดการ ผสมข้ามสายพันธุ์ กันในลักษณะนี้ ก็คงไม่ถึงกับน่าตื่นเต้น ยินดี น่าซี้ดๆ ซ้าดๆ กรี๊ดๆ กร๊าดๆ อะไรกันมากมาย...
-------------------------------------------------------
เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...สำหรับ การเมือง แล้ว มันเป็น Process ไม่ใช่ Ceremony หรือเป็นกระบวนการ ไม่ใช่พิธีกรรม หรือกรรมวิธี ที่จะต้องอาศัยจุดยืน-ทัศนะ-วิธีการ แบบครบถ้วน สมบูรณ์ ไปด้วยกันทั้งชุด การเอาชนะคะคานกันด้วยการชิงเล่ห์ ชิงเหลี่ยม ชิงไหว ชิงพริบ ด้วยการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ กันไปเรื่อยๆนั้นๆ แม้จะดูเก๋ ดูเท่ ในบางครั้ง บางขณะ บางช่วง บางระยะ แต่มันคงไม่ได้ถึงกับ คลาสสิก เหมือนอย่างที่ปรมาจารย์ เหลาจื๊อ ท่านสั่งสอน เทศนา ไว้นับเป็นพันๆ ปีนั่นแหละว่า ละทิ้งเล่ห์เหลี่ยมเสีย...จะเป็นประโยชน์ต่อราษฎรร้อยเท่า เลิกเสแสร้งทำเป็นเมตตา ราษฎรก็จะคืนนิสัยกตัญญู กรุณา เท่าที่เคยมีอยู่ เลิกล้มกลอุบาย...ก็ไม่มีใครคิดจะทำโจรกรรมอีกต่อไป อะไรประมาณนั้น...
---------------------------------------------------------
หรือพูดง่ายๆ ว่า...สำหรับ การเมือง แล้ว การ เอาชนะตัวเอง นั่นแหละ ย่อมถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด เอาชนะความมืดมัว หม่นหมอง ทึบๆ ทึมๆ ภายในตัว จนใครต่อใครสามารถมองเห็นถึงความบริสุทธิ์ โปร่งใส ได้แบบจริงๆจังๆ เอาชนะความโลภ ความเห็นแก่ตัว จนสามารถรักษา ความเป็นธรรมชาติแบบเรียบๆ ง่ายๆ แบบ เป็นไปตามครรลองคลองธรรม โดยไม่จำเป็นต้องซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ อะไรกันอีกต่อไป อันนี้นี่แหละ...ถึงจะถือเป็นชัยชนะแบบคลาสสิก แบบ เข้าถึง-เข้าใจ หรือแบบยั่งยืน ถาวร ได้จริงๆ ไม่ต้องต่อยกหก ยกเจ็ด หรือยกไหนๆ ไม่ต้องหวาดระแวงว่าเก้าอี้ รองเท้าแตะ ขวดน้ำพลาสติก จะปลิวร่อนขึ้นมาบนเวทีในช่วงไหน ต่อช่วงไหน...
-------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...แม้ว่านักมวยฝ่ายตรงข้าม หรือนักมวยมุมแดง ในช่วงนี้ จะออกอาการบักโกรก อีบัดอีโรย รีดน้ำหนักซะจนเนื้อเหลือง ตาเหลือง จากที่เคยคิดจะแลนด์สไลด์ แอฝะลานช์ ทำท่าว่าอาจโดน ธรณีสูบ เอาง่ายๆ ก็อย่าถึงกับไปตื่นเต้น ยินดี ตีปีกพั่บๆๆ โก่งคอขัน อะไรกันมากมาย เพราะไม่ว่าใครจะขี่พายุ ใครจะโดนธรณีสูบ ก็ตามแต่ แต่หลังจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว อันนี้นี่แหละ...ที่ ของจริง หรือ คู่ต่อสู้ตัวจริง จะตามมา อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ ชนิดใครชนะ-ใครแพ้ คงต้องไปวัดกันเอาอีตอนช่วงนั้นแหละ ถึงจะรู้หมู่ รู้จ่า รู้ว่าใครเป็นสารวัตรกันแน่!!!
-----------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Lao-tse... He who conquers others is strong; he who conquers himself is mighty.- ผู้เอาชนะผู้อื่นคือผู้เก่งกล้า ผู้พิชิตตัวเองคือผู้เกรียงไกร...
------------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |