29 พ.ย.61 - นายไพรัช เจ้ยชุม เจ้าของสวนยางพารา และประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดพัทลุง จำกัด เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้เดินไปยังประเทศจีนและได้พบกับภาครัฐภาคเอกชน ศึกษาดูงานหารือ โดยเฉพาะกับบริษัทอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง โดยระบุว่าเรื่องการตลาดยางพาราไทยยังอ่อนการส่งเสริมต่างๆ เช่น เรื่องการตลาด เป็นต้น และประการสำคัญเกี่ยวกับนโยบายโค่นยางพารา โดยการปลูกทดแทนว่ามีพืชอะไรที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์
“จีนระบุว่า ยางพาราจะให้ราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 – 70 บาท ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก” นายไพรัช กล่าวและว่า ไทยต้องแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า คือหนทางที่อยู่รอด
ด้าน นายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ เจ้าของสวนยางพารา และผู้จัดการกลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ สถาบันเกษตรกรผู้แปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกรายใหญ่ของภาคใต้ กล่าวว่า ที่น่าจับตามองคือไทยมีนโยบายลดพื้นที่ยางพาราโดยมีการโค่นแล้วปลูกทดแทน แต่ในขณะเดียวกันต่างประเทศคือจีน มีการส่งเสริมปลูกยางพาราตั้งแต่ประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ฯลฯ โดยกลุ่มทุนก็จะมาจากประเทศจีนเช่นกัน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |