โดยสีสัน บรรยากาศ...สำหรับการเมืองบ้านเราช่วงนี้ คงต้องยอมรับว่า หนักไปทางชิงเล่ห์ ชิงเหลี่ยม ชิงไหว ชิงพริบ กันชนิด เหงื่อโง่ ไหลพรากๆ ไปด้วยกันแทบทุกฝ่าย เรียกว่า...ต่างฝ่ายต่าง ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ กันจนบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลายมีแต่ต้องครวญครางง์ง์ง์ตามไปด้วยอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
--------------------------------------------------
คืออะไรมันจะชุลมุน ชุลเก ย้ายพรรค ย้ายค่าย ดูดๆดึงๆ บ๊วบโน่น บ๊วบนี่ เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว...ประเภทใครที่หยิบเอาเรื่องอุดมคติ อุดมการณ์ หรือถามหาอุดมคติ อุดมการณ์ อาจต้องถูกตั้งคำถามเอาดื้อๆ ว่าจอดเครื่อง ไทม์แมชชีน เอาไว้หลังเขาลูกไหนกันแน่!!! หรือเรียกว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ เชยซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ ซะไม่มี ด้วยเหตุเพราะต่างฝ่ายต่างไหลลื่น ในระดับลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลายไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะฝ่ายผู้เพรียกหาประชาธิปไตย หรือฝ่ายผู้สนับสนุนเผด็จการ ก็ตามแต่...
--------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า... เส้นแบ่ง ระหว่าง ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ มันออกจะเป็นอะไรที่รางเลือนและเลอะเลือน เต็มที เพราะผู้ที่เคยอยู่ในแต่ละฝ่าย แต่ละเส้น ต่างหันมาโดดข้ามไป-ข้ามมา หยองๆ แหยงๆ จนแทบไม่เหลือเส้น ไม่เหลือรอยแยก รอยแบ่ง ให้สามารถนิยามความหมายของแต่ละฝ่ายกันได้ง่ายๆ แม้แต่ผู้ที่เคยพูดแล้ว พูดเล่า ถึงสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย ชนิดแทบวันละ 3 เวลาหลังอาหาร จู่ๆ ก็โดดมาใส่เสื้อเผด็จการ ชูนิ้วหัวแม่โป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง แบบออกไปทางสู้ๆ หรือออกไปทางชนะแหงๆ อะไรประมาณนั้น...
-------------------------------------------------
ส่วนฝ่ายเผด็จการ...ก็พร้อมต้อนรับขับสู้ พร้อมที่จะยกย่อง เชิดชู ผู้ที่หันมาสวมเสื้อ หันมาซบตัก ซบตีน โดยไม่ได้คิดจะหยิบยกเอาเรื่องการทำมาหารับประทาน ของพวกประชาธิปไตยที่กินได้และแ-กได้ มาพูดจาว่ากล่าว กระทบกระเทียดเสียดสี แบบเดิมๆ ต่อไปอีกแล้ว ดังนั้น...ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันออกมาในรูปนี้ ใครที่ยังมัวไปตั้งคำถาม ถามหาอุดมคติ อุดมการณ์ ความเป็นประชาธิปตง ประชาธิปไตย อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ จึงออกจะเป็นอะไรที่ เชยซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ ชนิดต้องใส่ ซ.โซ่ ตามหลังไว้ซัก 5 ตัว หรือ 10 ตัว เอาเลยก็ยังได้...
--------------------------------------------------
หรือสรุปง่ายๆ ว่า...เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ มันคงเหลือแค่ ฝ่ายแพ้ กับ ฝ่ายชนะ เท่านั้นเอง โดยที่แต่ละฝ่ายต่างงัดเอากลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ยุทธภัณฑ์ ยุทธบริการ ฯลฯ ออกมาใช้กันชนิดลื่นๆ ไหลๆ ลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นยกแรก แค่เฉพาะระหว่างวัดช่วงชก ชั่งน้ำหนัก เปรียบเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ ก็เล่นเอาบรรดาเซียนมวยและแฟนมวยทั้งหลาย อดจะส่งเสียง ครางง์ง์ง์ ตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้...
---------------------------------------------------
โดยเฉพาะเมื่อเห็นนักมวยมุมแดง ออกอาการ บักโกรก ปานประดุจเพิ่ง ถ่ายท้อง หรือเพิ่ง รีดน้ำหนัก ชนิดตาเหลือง เนื้อเหลือง ไปแทบทั้งเนื้อ ทั้งตัว ต้องกระย่องกระแย่งให้พี่เลี้ยงประคับประคองขึ้นมาชั่งน้ำหนัก จะด้วยเหตุเพราะ เผาไทย เลือดไหลไม่หยุด ส่วน เผาธรรม ทำท่าว่าจะเผาจริงไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ไม่ใช่แค่เผาหลอกๆ กันบนเมรุ แม้แต่ เผาชาติ หรือ รักษาชาติ ก็ออกไปทางงั้นๆ หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ ขณะที่นักมวยมุมน้ำเงิน กลับอ้าขา ผวาปีก ตีจั๊กกะแร้ผั่บๆๆ แถมทำท่าว่าอยากจะโก่งคอขันเอาซะอีกล่วย อันนี้...มันคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประชาธิปไตย หรือเผด็จการเอาเลยแม้แต่น้อย แต่เกี่ยวกับว่าใครชนะ-ใครแพ้ นั่นแหละเป็นสำคัญ เพราะบรรดานักมวยมุมน้ำเงินโดยส่วนใหญ่ ก็ล้วนแต่เคยอยู่มุมแดงมาด้วยกันทั้งสิ้น...
----------------------------------------------------
บรรดาเซียนมวย แฟนมวย เลยอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง ครางง์ง์ง์ ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นยกแรก เมื่อเจอเข้ากับกลยุทธ์ กลวิธี ตามแบบฉบับ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ ของแต่ละฝ่าย ส่วนเมื่อขึ้นชกแล้ว หรือเมื่ออยู่บนเวที ฝ่ายแดงจะงัดเอาเล่ห์เหลี่ยม กลยุทธ์ กลวิธี ใดๆ ออกมาใช้อีกต่อไป เช่น แอบเอา หมามุ่ย ไปใส่ถังน้ำของฝ่ายมุมน้ำเงิน หรือเอา ไม้จิ้มฟัน โรยไว้ตามเวทีผืนผ้าใบ เพื่อรอให้ฝ่ายน้ำเงินสะดุดหัวแม่ตีนตัวเอง จนกว่าไม้จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตาย หรือไม่ อย่างไร อันนั้น...ค่อยรอ ครางง์ง์ง์ กันอีกที แต่สุดท้ายแล้ว...มันคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอุดมการณ์ อุดมคติ เอาเลยแม้แต่น้อย หรือมันก็แค่เรื่องของการ เสมอไหน ไปตามสภาพ ตามรสนิยม ของแฟนมวยนั่นเอง...
------------------------------------------------------
ภายใต้สีสัน บรรยากาศ เช่นนี้...มันเลยออกจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับ ปรัชญา ของปรมาจารย์ เหลาจื๊อ อยู่พอสมควร โดยเฉพาะที่ว่าไว้ว่า... ละทิ้งเล่ห์เหลี่ยมเสีย จะเป็นประโยชน์ต่อราษฎรร้อยเท่า เลิกเสแสร้งทำเป็นเมตตา ราษฎรจะคืนนิสัยกตัญญูและความกรุณาที่เคยมีอยู่ เลิกล้มกลอุบาย แล้วไม่มีใครที่คิดทำการโจรกรรม อย่างที่เคยหยิบยกมากล่าวอ้างไว้แล้ว แต่ทำไงได้ล่ะทั่น...ในเมื่อไม่ว่าฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย หรือที่ถูกเรียกว่าเผด็จการก็แล้วแต่ จะหาผู้ที่พร้อม รักษาความเป็นธรรมชาติแบบง่ายๆ อันได้แก่ความบริสุทธิ์ (โปร่งใส) อย่างชัดเจน ความไม่เห็นแก่ตัว ไม่หลงเหลือความโลภใดๆ ต่อไปอีกเลย มันคงไม่ต่างไปจากการแสวงหา หนวดเต่า-เขากระต่าย อะไรประมาณนั้น...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ปรัชญาเหลาจื๊อ... กฎหมายยิ่งมาก...ราษฎรยิ่งยากจน ผู้ปกครองมีเล่ห์เหลี่ยมมาก บ้านเมืองยิ่งยุ่งยากมากขึ้น ผู้ปกครองมีชั้นเชิงมาก ทุจริตยิ่งมากขึ้น กฎหมายยิ่งเข้มงวด โจรผู้ร้ายยิ่งชุกชุม...
----------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |