ภาพจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

28 พ.ย.61 - เฟซบุ๊กแฟนเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  เผยแพร่บทสนทนาระหว่างนายณัฐวุฒิ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในฐานะสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติและนายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘สุมหัวคิด’ ทาง Voice TV ช่อง 21 ประจำวันที่ 26 พ.ย. 2561 หัวข้อ ‘ฝ่าแม่น้ำ 5 สาย สู้ศึกเลือกตั้ง’ ดำเนินรายการโดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

นพ.สุรพงษ์ ตั้งคำถามตอนหนึ่งว่า มีปรากฏการณ์ในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย เขาจะมีการจับกลุ่มกันของพรรคฝ่ายค้าน 4 พรรคเป็นแนวร่วมแห่งความหวัง ชูอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดเป็นผู้นำของกลุ่มนั้น ในขณะที่ อัมโน (UMNO) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง

การเลือกตั้งในไทยครั้งนี้มีความแปลก คือเหมือนกับแบ่งเป็น 2 ขั้วชัดเจน แต่ก็ยังมีขั้วตรงกลางที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหน ทีนี้ ในส่วนพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยในไทย มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า จะจัดรูปแบบแนวร่วมของพรรคเป็นแบบมาเลเซียไหม เพื่อจะช่วยกันส่งเสริมประชาชนให้มาเลือกฝั่งประชาธิปไตยให้มากขึ้น

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ‘ผมคิดว่า พรรคการเมืองที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตยเป็นแนวร่วมกันอยู่แล้วโดยธรรมชาติ เราติดตามท่าที ติดตามการสื่อสารของพรรคการเมืองต่างๆ ต่อประชาชน ผมเข้าใจว่าผู้คนแยกแยะได้ค่อนข้างชัดแล้ว ว่าพรรคไหนอยู่ฝ่ายไหน แต่ว่าในการเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง ผมว่าการแข่งขันต่อสู้กันเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาครบถ้วนรอบด้านก็ยังเป็นเรื่องจำเป็นอยู่

เพราะว่ากระบวนการนี้ มันจะทำให้ประชาชนได้มีโอกาสคัดกรองอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจลงคะแนนเลือกพรรคไหนก็ตาม ส่วนตัวผมผมมั่นใจว่า คนที่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะยืนอยู่กับหลักการประชาธิปไตย

เขาก็จะมีพรรคที่จะพิจารณาเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตย ไม่มีทางที่จะข้ามไปพิจารณาพรรคอื่นได้ ดังนั้น เมื่อจะพิจารณาเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคเองที่จะต้องทำงานของตัวเองอย่างหนัก เพื่อให้ประชาชนเขาตัดสินใจเลือก’

วัฒนา กล่าวว่า ‘ผมเสริมคุณณัฐวุฒินะครับ มีสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือจะมีพรรคการเมืองอยู่ 2 พรรค ไม่ประกาศตัวว่าไม่เอาทหาร แต่ประกาศตัวว่า ไม่เอาพรรคเพื่อไทย คือการประกาศตัวไม่เอาพรรคตรงข้ามเผด็จการ ก็คือ เอาเผด็จการนั่นแหละ ส่วนจะเป็นพรรคอะไร ประชาชนก็พอจะทราบ ไปดูเอา’

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ‘ผมตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ครับ ที่คนเขามองว่า การเลือกตั้งเที่ยวนี้ จะมีทางเลือก 2 แนวทางเท่านั้น คือ ประชาธิปไตยกับเผด็จการ แต่บางท่าน ก็เสนอทฤษฎี ‘3ก๊ก’ ว่า นอกจากก๊กเพื่อไทย ก๊กฝ่ายผู้มีอำนาจ ก็จะมีอีกก๊กหนึ่ง เป็นก๊กที่เป็นกลาง เป็นทางเลือกใหม่

จริงๆ ผมว่า ไม่ใช่... พูดให้ชัดเถอะครับว่า มันมีแค่ 2 ก๊กเท่านั้น คือ ประชาธิปไตยกับเผด็จการ แต่คนที่พยายามจะทำตัวเป็นก๊กที่ 3 เขาไม่เรียกก๊ก เขาเรียก ‘กั๊ก’ จึงเป็น ‘2ก๊ก’ กับอีก ‘1กั๊ก’ แล้วปัญหาจะเกิดขึ้นจากประเภทกั๊กนี่ล่ะครับ ว่าจะเอายังไง จะเดินทางไหนแน่ ประชาชนเขาจะสับสน

แต่ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองของประชาชน กว่า 10 ปีมานี้ ผมว่า เขามองชัดครับ ไม่มีใครหรือพรรคไหนตบตาได้’

วัฒนา กล่าวว่า ‘สงครามโลกครั้งที่ 2 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์บุกประเทศที่เป็นกลางก่อน เพราะอันตราย ฮิตเลอร์บอกว่า คุณจะซ้ายจะขวาบอกมาให้ชัด แต่ประเภทบอกเป็นกลาง พอถึงเวลาฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำก็เหยียบคนที่เพลี่ยงพล้ำ ฝ่ายกั๊ก จึงอันตรายที่สุด’