"ศรีวราห์-หัวหน้าวิเชียร" เผชิญหน้า "เสี่ยเปรมชัย" ที่ศาลทองผาภูมิ ในการสืบพยานโจทก์คดียิงเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวรนัดแรก เจ้าสัวเอ่ยปากยอมรับ "หนัก" ด้านรอง ผบ.ตร.เบิกความปากแรก พร้อมฝากชาวบ้านติดตามผลงานตำรวจให้ดี ส่วนคดีหมีขอ ลั่นฟ้องแน่ 30 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 08.45 น. ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 1-4 ในคดียิงเสือดำทุ่งใหญ่รวม 6 ข้อหา และทีมทนายความ ได้เดินทางมายังศาล โดยนายเปรมชัยเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองและหันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าว แต่ไม่ให้สัมภาษณ์เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 09.30 น. ขณะที่นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมนายวัลลภ พิสุทธิ์พิเชฎฐ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังศาลเพื่อร่วมรับฟังการสืบพยานโจทก์เช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาถึงศาล โดยนายยุทธชัยได้เข้าไปให้กำลังใจนายวิเชียร และกล่าวสั้นๆ ว่าวันนี้มาเป็นพยานโจทย์
เวลา 09.40 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดทองผาภูมิ โดยมี พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.จุมพล เลขสุนทรากร ผกก.สภ.ทองผาภูมิ ให้การต้อนรับ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวเพียงว่า วันนี้มาเป็นพยาน จากนั้นได้เดินขึ้นบันไดไปห้องพิจารณาคดีบนชั้นสองของที่ทำการศาลทันที
จากนั้น เวลา 11.50 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้ออกจากห้องพิจารณาคดี และเดินลงมาจากศาล พร้อมเปิดเผยว่า ตนมาในฐานะพยานเปิดคดี โดยได้แถลงต่อศาลว่า มีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งที่ ตร.กำหนด และคำสั่ง คสช. และข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย ตาม ป.วิอาญา ก็ชี้แจงไปครบถ้วน มั่นใจว่าอัยการจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนก็อยากเห็นสำนวนเดินหน้า ก็รบกวนประชาชนช่วยติดตามด้วยยิ่งดี แต่ตำรวจมีหน้าที่ติดตามอยู่แล้ว เพราะสุดท้ายศาลสั่งว่า ให้คุมพยานในส่วนของตำรวจมาศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเราก็ต้องทำอยู่แล้ว หลังส่งสำนวนให้อัยการ เมื่ออัยการสั่งฟ้องแล้ว เราก็ต้องดำเนินการนำพยานขึ้นมาสืบ
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ส่วนคดียิงหมีขอ ผลการตรวจพิสูจน์ยังออกมาไม่หมด แต่คิดว่าจะฟ้องได้ภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ หลักฐานชัดเจนแล้วตามหลักฐานทางกายภาพ คือมีเนื้อมีหนังมีกระดูก ติดกันเป็นชิ้น มันไม่ได้ชำแหละเหมือนเสือ มองทางกายภาพก็สามารถมีความเห็นทางคดีได้โดยไม่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์
ส่วนนายเปรมชัย พร้อมทีมทนายความได้เดินลงมาจากศาล ตรงขึ้นรถยนต์ โดยผู้สื่อข่าวถามนายเปรมชัยว่า คดีนี้คิดว่าหนักหรือไม่อย่างไร เจ้าสัวเปรมชัยเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่า "หนัก ก็ต้องดูทางทนายความ"
สำหรับการสืบพยานโจทก์ในครั้งนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทย์เป็นฝ่ายแรก โดยมีผู้พิพากษาเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีทั้งหมด 3 ท่าน โดยกรมอุทยานฯ ยื่นคำร้องให้จำเลยทั้ง 4 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน 12,750,000 บาท โดยจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ และศาลกำหนดให้จำเลยทั้ง 4 ยื่นคำให้การแก้คดีเป็นหนังสือภายในวันที่ 11 ธ.ค.2561
ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 1 ศาลเห็นว่าคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี และจำเลยที่ 1 มีทนายความแล้ว ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172 ทวิ (1)
หลังจากนั้นอัยการโจทก์นำพยานปาก พล.ต.อ.ศรีวราห์เข้าเบิกความจนจบปาก และอัยการโจทก์นำนายวิเชียรเข้าเบิกความเป็นปากที่ 2 อย่างไรก็ตาม ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้นัดสืบพยานโจทก์เป็นฝ่ายแรก ในวันที่ 27-30 พ.ย., วันที่ 6-7 ธ.ค., วันที่ 11-13 ธ.ค. สุดท้ายวันที่ 18 ธ.ค.2561 รวม 10 นัด ซึ่งมีพยานโจทก์ทั้งหมดรวม 32 ปาก และนัดสืบพยานจำเลยรวม 17 ปาก ในวันที่ 19-21 ธ.ค. และ 25-27 ธ.ค.2561 รวม 6 นัด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |