'มาร์ค' ชูปชป.ขั้วที่ 3 เมินกลยุทธ์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย-รวมแบงก์ร้อยเป็นแบงก์พัน


เพิ่มเพื่อน    

27 พ.ย.61 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะเป็นทางหลักและเป็นทางออกของประเทศ โดยยึดหลักคิดเสรีนิยมประชาธิปไตย และเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ทั้งนี้การเมืองอาจมีมากกว่า 3 ขั้ว คือ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์ก็ได้ แล้วแต่ว่าจะมีใครเสนอตัวเป็นขั้วที่ 4 ที่ 5 หรือไม่ 

"แต่ความพยายามที่จะบีบให้เหลือ 2 ข้างนั้นไม่จริง และเราไม่สนใจเล่นเกมเลือกขั้ว เพราะประเทศมีทางเลือกที่ดีกว่านั้น จึงต้องการยกระดับให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ บางคนบอกให้เลือกเผด็จการกับประชาธิปไตย ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยนั้นเป็นด้วยจิตวิญญาณจริงหรือไม่ และมีส่วนทำให้สูญเสียประชาธิปไตยมาก่อนหน้านี้หรือไม่ บางคนบอกว่าเลือกระหว่างคนดีกับคนไม่ดี ก็อยากให้ดูว่าคนดีนั้นดีจริงหรือเปล่า เพราะฝ่ายที่อ้างตัวเองเป็นคนดีก็ทำตัวเหมือนกับคนที่เขาบอกว่าไม่ดี  หรือบางทีเอาคนที่เขาเคยบอกว่าไม่ดี มาบอกว่าคนนั้นเป็นคนดีแล้ว ดังนั้น เราต้องเอาการเมืองพ้นจากสิ่งเหล่านี้แล้วมาถกเถียงกันว่าต้องการให้บ้านเมืองไปในทิศทางไหน จะเดินแบบรวมศูนย์อำนาจหรือประชานิยม หรือจะเลือกแนวทางของประชาธิปัตย์ก็ว่ากันมา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยใช้กลยุทธ์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ส่วนพรรคพลังประชารัฐใช้วิธีรวมแบงก์ร้อยเป็นแบงก์พัน แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะใช้กลยุทธ์ทางการเมืองอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องแบงก์ แต่สนใจว่าอยากยกระดับการเมืองไทยให้หลุดพ้นจากการใช้เล่ห์เหลี่ยม ใช้ช่องของกฎหมายหรือวิธีต่อรองเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ พรรคประชาธิปัตย์เสนอแนวทางตรงไปตรงมา ซึ่งตัวตนของประชาธิปัตย์อยู่ที่อุดมการณ์ นโยบาย และบุคลากร คนที่อยู่ที่นี่ต้องมีความชัดเจนและมั่นคง เพื่อเป็นทางเลือกที่เป็นหลักให้ประเทศ

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐใช้โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มาเป็นฐานหลักในการหาเสียงพื้นที่ภาคตะวันออก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละพรรค สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยังมั่นใจว่าประชาชนในภาคตะวันออกที่เคยสนับสนุนเรา ยังมีความมั่นคงในเรื่องคะแนนเสียงอยู่ และคิดว่าทางเลือกที่เราเสนอคือการพัฒนาพื้นที่โดยคำนึงถึงชุมชนและคุณภาพชีวิต มากกว่าการเอาตัวเลขไปโฆษณาว่ามีเงินลงทุนเท่านั้นเท่านี้ แต่ไม่ปรากฏชัดว่าประโยชน์ที่เกิดกับประชาชนและชุมชนคืออะไร

ต่อข้อถามถึงท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศพร้อมลงบัญชีรายชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง รอเพียงคนมาทาบทามนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่แปลกใจ แต่การที่พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีทั้งหลายยึดถือเพียงแค่ว่าตามกฎหมาย โดยไม่ดูเจตนารมณ์นั้น แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความพยายามที่จะยกระดับการเมืองให้ดีขึ้น และขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่คิดที่จะจับมือกับพลังประชารัฐ เพราะเสนอตัวเป็นทางหลักของประเทศ และจะแข่งขันบนแนวคิดนี้ โดยเคารพการตัดสินใจของประชาชน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"