27 พ.ย.61 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนางจิ๋ม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาวบ้านตะลองตอง หมู่ 8 ตำบลอิสาณเขต อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ให้เอาผิดกับนายวิรัตน์ พุ่มพวง ผู้ใหญ่บ้านตะลองตอง​​ ​โดยกล่าวหาว่า​ ผู้ใหญ่บ้านทำร้ายร่างกาย นายเขียด​ (นามสมมุติ)​ ลูกชายวัย 16 ปี โดยใช้หนังสติ๊กใส่ลูกแก้วยิงเข้าตาลูกชาย จนทำให้ตาข้างขวาบอดสนิด เหตุเกิดขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด​ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้มอบหมายให้นายทวี ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอ ลงพื้นที่ไปหาข้อมูลว่าเรื่องราวเกิดขึ้นจากสาเหตุใดและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งปลัดอำเภอก็ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อมูลทั้งฝั่งผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหา และทางครอบครัวเด็กชายผู้เสียหาย เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายยังให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันอยู่ อย่างไรก็ตาม​ เรื่องคดีที่ทั้งสองฝ่ายต่างแจ้งความไว้นั้นต้องรอผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องวินัยที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ใหญ่บ้านนั้น ทางอำเภอก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามกระบวนการขั้นตอน ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ด้านนายสมพร วารินกุด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตะลองตอง​ หมู่ 8 กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ เพราะขณะนั้นตนได้นำเงินที่ได้รับบริจาคไปสมทบทำบุญหมู่บ้านพอดี โดยก่อนเกิดเหตุนายเขียด ได้ใช้ขวดขว้างปาเข้าไปใส่บริเวณที่ผู้ใหญ่บ้านนั่งอยู่ 2 ครั้ง ก่อนที่จะเดินอ้อมไปด้านหลังผู้ใหญ่​ ตนจึงตะโกนใส่ว่าจะทำอะไร จากนั้นไม่นานนายเขียด ก็ถือมีดวิ่งไล่ฟันผู้ใหญ่บ้าน ตนพยายามตะโกนห้ามปรามแต่นายเขียดก็ไม่ฟัง กระทั่งจังหวะที่ผู้ใหญ่บ้านวิ่งหนีก็ได้คว้าหนังสติ๊กที่อยู่ในรถออกมายิงสวนใส่นายเขียด เพื่อเป็นการป้องกันตัว แต่ก็ไม่คาดคิดว่านายเขียดจะถึงขั้นตาบอดเพราะตอนที่ผู้ใหญ่ยิงสวนก็ไม่ได้ตั้งใจเล็ง

ขณะที่นายเครือง พิมพ์อักษร อายุ 85 ปี ตาของนายเขียด เยาวชนที่ถูกผู้ใหญ่บ้านใช้หนังสติ๊กยิงตาบอด บอกว่า วันเกิดเหตุตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์เหมือนกัน ยืนยันว่าหลานชายไม่ได้ใช้มีดไล่ฟันผู้ใหญ่บ้าน เพียงแค่ถือมีดไว้ในมือเพื่อขู่ผู้ใหญ่เท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้หลานไม่พอใจที่ผู้ใหญ่พูดจาต่อว่าและดูถูกในวันที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องที่หลานถูกกล่าวหาว่าพรากผู้เยาว์เยาวชนหญิงที่บ้านผู้ใหญ่ เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่กระทำกับหลานนั้นรุนแรงเกินกว่าเหตุตนเองรับไม่ได้ และยืนยันว่าจะเอาเรื่องที่สุด ถึงแม้ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นลูกเขยก็ตาม