ตลาดนักท่องเที่ยวจีนหด “ ยีนส์ลี” โอดกระทบธุรกิจ ปรับแผนเจาะผู้บริโภคชาวไทย ลุยอัดกิจเต็มสูบ ลุ้นจบปีโตตามเป้า 5% 

น.ส.นันทวรรณ สุวรรณเดช ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ยีนส์ ภายใต้แบรนด์ ลี เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตราการเติบโต 5% แต่ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีผลกระทบระดับหนึ่ง เนื่องจากสัดส่วนยอดขายที่มาจากกลุ่มดังกล่าวมีมากถึง 40% ส่วนอีก 60% เป็นผู้บริโภคชาวไทย ส่งผลให้เติบโตเหลือแค่ 3% เท่านั้น 

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ หันมาจับกลุ่มผู้บริโภคตในประเทศให้มากขึ้น เพื่อทำให้ผลักดันยอดขายตลอดปี 2561 เติบโตตามเป้าหมายที่ 5% โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากคนในพื้นที่ดังกล่าวให้ความนิยมในการใส่ยีนส์โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ากางเกงยีนส์

“ช่วงที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนจะซื้อยีนส์ลีในประเทศไทยมากกว่าซื้อในประเทศของตัวเอง เนื่องจากคุณภาพของสินค้า รวมถึงราคายังถูกกว่าที่จำหน่ายในประเทศจีน 40% หรือยอดการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 บาทต่อครั้ง และบางครั้งมียอดการซื้อสูงถึง 2 หมื่นบาทต่อครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่” น.ส.นันทวรรณ กล่าว 

ส่วนกลยุทธ์ที่บริษัทจะนำมาใช้เพื่อขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดให้เพิ่มขึ้น คือ การจัดโรดโชว์ไปตามห้างค้าปลีกต่างๆ โดยหนึ่งในพันธมิตรที่บริษัทจะเข้าไปร่วมทำการตลาดในต่างจังหวัด คงเป็นห้างสรรพสินค้าโรบินสัน  ควบคู่กับทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย วางเป้าหมายกระตุ้นยอดซื้อต่อบิลในตลาดต่างจังหวัดจาก 3,000 บาทต่อครั้ง เป็น 5,000 บาทต่อครั้ง

อย่างไรก็ดี มีแผนที่จะปรับช็อปลีให้มีความทันสมัยมากขึ้นอีก 7 สาขาในปี 2562 แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2-3 สาขา และต่างจังหวัด 4 สาขา และขยายฐานลูกค้าในช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ช็อป แอนด์ แชต ของกลุ่มเซ็นทรัล เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยในสิ้นปี 2561 นี้คาดว่าจะมียอดขายในช่องทางออนไลน์อยู่ที่ 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มียอดขาย 14 ล้านบาท และในปี 2562 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 40 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมในสิ้นปี 2561 นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 5%