ไม่มีปัญหา'มาร์ค'ชี้ย้ายพรรค ได้แค่อดีตส.ส. ลั่นไม่สนใจเล่นเกมขั้วการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

27 พ.ย.61- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 17 คนย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น  ว่า  ไม่มีปัญหา เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งก็มีปรากฏการณ์แบบนี้ และยังมั่นใจว่าพื้นที่ที่มีคนออกไปจะมีคนที่มีคุณภาพในนามพรรคประชาธิปัตย์ที่สามารถทำงานให้ประชาชนได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่ขณะนี้การโยกย้ายสิ้นสุดลงแล้ว เพราะประชาชนจะได้เห็นภาพชัดเจน ซึ่งจะทำให้เกิดคำถามเรื่องอุดมการณ์ว่ามีความหมายมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็มีการย้ายสังกัดโดยไม่ทราบด้วยซ้ำว่าพรรคการเมืองนั้นมีอุดมการณ์หรือนโยบายอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นเมื่อตรงนี้จบแล้ว จึงเป็นเวลาที่แต่ละพรรคจะไปเสนอความคิดให้ประชาชนรับทราบ ขณะที่ประชาชนจะทำหน้าที่กลั่นกรองนักการเมืองผ่านกระบวนการเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า คนที่คิดตัวเลขสมการแบบเดิม ก็จะไม่เป็นอย่างที่คิดว่ามีอดีตส.ส.มาก เพราะหลังเลือกตั้งแล้ว อาจยังมีอดีตส.ส.จำนวนมากอยู่ อาทิ พรรคพลังประชารัฐได้อดีตส.ส.ไปมากก็อาจได้อดีตส.ส.เยอะหลังการเลือกตั้งด้วย ถ้าคิดว่านับตามจำนวนอดีตส.ส.แล้วจะเป็นอย่างนั้น การเมืองไม่เป็นอย่างนั้น การเลือกตั้งทุกครั้งมีคนใหม่เข้ามาร้อยละ 20-30 เพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลงเกิดได้ตลอด

"พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะเป็นทางหลักและเป็นทางออกของประเทศ โดยยึดหลักคิดเสรีนิยมประชาธิปไตย และเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าการเมืองอาจมีมากกว่า 3 ขั้ว คือ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์ก็ได้ แล้วแต่ว่าจะมีใครเสนอตัวเป็นขั้วที่ 4 ที่ 5 หรือไม่ แต่ความพยายามที่จะบีบให้เหลือ 2 ข้างนั้นไม่จริง และเราไม่สนใจเล่นเกมเลือกขั้ว เพราะประเทศมีทางเลือกที่ดีกว่านั้น จึงต้องการยกระดับให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ 

"บางคนบอกให้เลือกเผด็จการกับประชาธิปไตย ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยนั้นเป็นด้วยจิตวิญญาณจริงหรือไม่ และมีส่วนทำให้สูญเสียประชาธิปไตยมาก่อนหน้านี้หรือไม่ บางคนบอกว่าเลือกระหว่างคนดีกับคนไม่ดี ก็อยากให้ดูว่าคนดีนั้นดีจริงหรือเปล่า เพราะฝ่ายที่อ้างตัวเองเป็นคนดีก็ทำตัวเหมือนกับคนที่เขาบอกว่าไม่ดี  หรือบางทีเอาคนที่เขาเคยบอกว่าไม่ดี มาบอกว่าคนนั้นเป็นคนดีแล้ว ดังนั้น เราต้องเอาการเมืองพ้นจากสิ่งเหล่านี้แล้วมาถกเถียงกันว่าต้องการให้บ้านเมืองไปในทิศทางไหน จะเดินแบบรวมศูนย์อำนาจหรือประชานิยม หรือจะเลือกแนวทางของประชาธิปัตย์ก็ว่ากันมา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยใช้กลยุทธ์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ส่วนพรรคพลังประชารัฐใช้วิธีรวมแบงก์ร้อยเป็นแบงก์พัน แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะใช้กลยุทธ์ทางการเมืองอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องแบงก์ แต่สนใจว่าอยากยกระดับการเมืองไทยให้หลุดพ้นจากการใช้เล่ห์เหลี่ยม ใช้ช่องของกฎหมายหรือวิธีต่อรองเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ พรรคประชาธิปัตย์เสนอแนวทางตรงไปตรงมา ซึ่งตัวตนของประชาธิปัตย์อยู่ที่อุดมการณ์ นโยบาย และบุคลากร คนที่อยู่ที่นี่ต้องมีความชัดเจนและมั่นคง เพื่อเป็นทางเลือกที่เป็นหลักให้ประเทศ

ต่อข้อถามถึงท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศพร้อมลงบัญชีรายชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง รอเพียงคนมาทาบทามนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่แปลกใจ แต่การที่พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีทั้งหลายยึดถือเพียงแค่ว่าตามกฎหมาย โดยไม่ดูเจตนารมณ์นั้น แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความพยายามที่จะยกระดับการเมืองให้ดีขึ้น และขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่คิดที่จะจับมือกับพลังประชารัฐ เพราะเสนอตัวเป็นทางหลักของประเทศ และจะแข่งขันบนแนวคิดนี้ โดยเคารพการตัดสินใจของประชาชน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"