6 ธ.ค.เปิดทดลองวิ่งรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ นั่งฟรีถึงสงกรานต์


เพิ่มเพื่อน    

 

ครม.ไฟเขียวโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ กทม.รับผิดชอบ ดีดย์  6 ธ.ค.นายกฯ ตัดริบบิ้นทดลองเดินรถ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ประชาชนขึ้นฟรี หลังสงกรานต์ค่อยจ่ายตังค์ ไฟเขียวนั่งรถสายสีม่วง-น้ำเงิน จ่ายสูงสุด 70 บาท

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบให้การโอนหนี้สินและทรัพย์สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงินล่าสุด 6.39 หมื่นล้านบาท ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)และกรุงเทพมหานคร(กทม.) สำหรับเงื่อนไขการชำระเงินนั้นกทม.จะต้องจ่ายเงินก้อนแรกที่รฟม.ได้ชำระไปแล้ว 7.9 พันล้านก่อนทยอยชำระเงินต้นจนครบทั้งหมดโดยมีการคิดดอกเบี้ยเริ่มนับตั้งแต่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้ง2 ช่วง  ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตดังกล่าว จะทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเอกภาพมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกรณี รฟม. เป็นหน่วยงานบริหารจัดการ เนื่องจากปัจจุบัน กทม. เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-แบริ่ง โดยมี บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) เป็นผู้รับสัมปทานการเดินรถในเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อมีการจำหน่ายทรัพย์สินในครั้งนี้แล้ว กทม. จะรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่ช่วงคูคต-สมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 47 สถานี ระยะทาง 55.95 กิโลเมตร

"เจตนารมย์คือ เพื่อให้ กทม.สามารถบริหารจัดการการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้ง 2 ช่วงได้อย่างเป็นระบบ และข้อตกลงต่างๆ เช่น การโอนสิทธิ์ การโอนกรรมสิทธิ์ ภาระผูกพันของหน่วยงาน บุคคลอื่นๆ ค่าแรกเข้าระบบต่างๆ ก็ให้ กทม.เป็นผู้รับโอนทั้งสิ้น โดยจะมีการยกเว้นเพียง 1 เรื่อง คือ อาคารจอดแล้วจร (Park and Ride) ซึ่งในส่วนของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะมีพื้นที่จอดแล้วจร 3 แห่ง โดยกระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงสาเหตุของการไม่โอนอาคารจอดแล้วจรให้ กทม. เนื่องจากปัจจุบัน รฟม. และกระทรวงคมนาคม ได้มีการบริหารพื้นที่จอดแล้วจร รวมทั้งหมด 11 แห่ง ดังนั้นจึงต้องการให้การบริหารจัดการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังรับทราบการกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สิน และหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พ.ศ. 2561 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ รวมทั้งให้กรุงเทพมหานครดำเนินการอย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ ตามนัย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

ทั้งนี้ การดำเนินการโอนทรัพย์สินและหนี้สิน จะทำให้กรุงเทพมหานครมีภาระค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 51,785.37 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่างานโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินไม่เกิน 44,429 ล้านบาท และค่าชดใช้เงินค่าจัดกรรมสิทธิ์และดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้ว วงเงินไม่เกิน 7,356.37 ล้านบาท

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ รฟม. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในบริเวณใกล้เคียงกันแนวรถไฟฟ้าในทุกเส้น ทำให้พื้นที่ของอาคารดังกล่าวในด้านบน พัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ได้มีโอกาสอยู่อาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้า นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ รฟม. และกระทรวงคมนาคม ยังไม่ได้มอบพื้นที่ในส่วนของอาคารจอดแล้วจรให้แก่ กทม.”นายพุทธิพงษ์ กล่าว

 

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม  กล่าวว่าหลังจากนี้ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่างทั้งสองหน่วยงานเพื่อเป็นการส่งมอบโครงการโดยสมบูรณ์เพื่อรองรับการเปิดให้บริการรถไฟสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการซึ่งจะมีการจัดพิธีเปิดทดสอบเดินรถวันแรกในช่วงเช้าของวันที่ 6 ธ.ค. โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าให้ระยะเวลาการทดสอบเดินรถดังกล่าวอยู่ที่ราว 3-4 เดือนก่อนเริ่มเก็บค่าโดยสารจริงหลังเทศกาลสงกรานต์ 2562 เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชน

นายไพรินทร์กล่าวต่อว่าที่ประชุมครม.ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับว่าด้วยอัตราค่าบริการจอดรถยนต์และวิธีจัดเก็บค่าจอดรถยนต์ของอาคารจอดแล้วจร เนื่องจากรฟม.เป็นผู้บริหารอาคารจอดแล้วจรตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งหมด 10 แห่งดังนั้นครม.จึงอนุมัติให้รฟม.ดำเนินการบริหารอาคารจอดแล้วจรรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเหนือ-ใต้ด้วย เพื่อให้มีมาตรฐานบริการที่เหมือนกันและมีการคิดราคาที่ไม่แตกต่างกันในแต่ละแห่งจนอาจทำให้ประชาชนสับสน

 

ทั้งนี้รฟม.ยืนยันว่าจะเปิดให้บริการอาคารจอดแล้วจรสายสีเขียวใต้ฟรีราว 3-4 เดือนหรือจนกว่ากทม.จะเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายดังกล่าว นอกจากนี้รฟม.ได้ร่วมมือกับการเคหะเพื่อจัดทำโครงการนำร่องที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าสำหรับผู้มีรายได้น้อยเป็นแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร โดยมีแผนจะลงทุนก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยซึ่งจะแบ่งชั้นล่าง 4-5 ชั้นเอาไว้ทำอาคารจอดแล้วจร ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องพักอาศัยของผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท อ.เมืองสมุทรปราการ พื้นที่ 18 ไร่ รองรับรถยนต์ได้ 720 คัน

ทั้งนี้สำหรับอัตราค่าใช้บริการอาคารจอดแล้วจรในปัจจุบัน แบ่งเป็น 1.สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า 10บาท/2 ชั่วโมง 2.ประชาชนทั่วไป 20บาท/ชั่วโมง 3.ค่าจอดรายเดือนอยู่ที่ 1,000 บาท 4.ค่าจอดรถจักรยานยนต์ 10บาท/ 4 ชม.

นายไพรินทร์กล่าวอีกว่าที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบข้อบังคับการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งปัจจุบันบังคับใช้เงื่อนไขการยกเว้นค่าแรกเข้า 14 บาทเมื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่ได้มีการประกาศปรับราคารถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินอีกสถานีละ 1 บาท รวม 3 สถานีแต่ไม่เปลี่ยนเพดานค่าโดยสารนั้น จึงจำเป็นต้องเสนอร่างข้อบังคับใช้ครม.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามสำหรับการเห็นชอบร่างดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้นทางสายสีม่วงไปยังปลายทางสายสีน้ำเงินจะอยู่ที่ 70 บาทตลอดสาย หรือคิดเป็นการเดินทางช่วงบางใหญ่-บางแค ในอนาคตก็จะอยู่ที่ 70 บาทตอลดสายซึ่งถือว่าเป็นอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมต่อระยะทางและเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า กล่าวว่า สำหรับยอดโอนทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีเขียววงเงิน 51,785 ล้านบาทนั้น เป็นยอดเงินของปีที่แล้ว หากเป็นยอดถึง 30 ก.ย.61 จะเป็นเงินทั้งหมด 63,900 ล้านบาท ยังไม่รวมอัตราดอกเบี้ยที่ยังวิ่งไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีค่าจัดกรรมสิทธิ์ เพราะยังมีบางรายที่ยังอุทธรณ์อยู่ อาจต่อเนื่องถึงฟ้องศาล ถ้าผู้ถูกเวนคืนได้รับเพิ่มเท่าไหร่ก็ต้องเอาไปจ่ายเพิ่มเติมด้วย

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"