ฉลองงดเหล้าเข้าพรรษา คลิปรณรงค์พุ่ง 30 ล้านวิว


เพิ่มเพื่อน    

 

ช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมามีกิจกรรมหนึ่งที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เริ่มรณรงค์จนกลายเป็นที่นิยมติดหูคนไทยมานานหลายปี นั่นคือการ "งดเหล้าเข้าพรรษา" ที่จะมาสร้างแรงขับเคลื่อนจากการร่วมมือร่วมใจกันอย่างพร้อมเพรียงกัน และบัดนี้ทำให้จำนวนนักดื่มในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศลดลงด้วยการขับเคลื่อนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

           

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ที่โรงแรมเอบีน่าเอ้าส์ นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานเปิดงาน “เวทีฉลองชัย เชิดชูเกียรติ คนหัวใจหิน เหล็ก เพชร ปี 2561” ภายใต้โครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2561 พร้อมมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ คนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร 100 คน เพื่อเชิดชูและชื่นชมคนที่มีใจเข้มแข็ง-มุ่งมั่น ในการฝ่าฟันอุปสรรค สามารถงดเหล้าได้ครบพรรษา (3 เดือน) นับว่าเป็นคนหัวใจหิน และคนหัวใจเหล็ก (ที่งดเหล้าตลอดติดต่อกันถึง 3 ปี) และคนหัวใจเพชร (ไม่ดื่มเหล้ามากกว่า 3 ปี หรือเลิกเหล้าตลอดชีวิต)

           

นายแพทย์คำนวณกล่าวว่า สสส.ได้หนุนเสริมให้ภาคีเครือข่ายเกิดการขับเคลื่อนงานงดเหล้าเข้าพรรษาอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรชุมชนในการร่วมรณรงค์ อาทิ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กระทรวงสาธารณสุข ทำงานให้ได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ ตั้งแต่ระดับนโยบายจากหน่วยงานต่างๆ ระดับพื้นที่ ชุมชน ตำบล อำเภอ ตลอดจนระดับการสื่อสารระหว่างบุคคล เพื่อเชิญชวนให้เกิดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาและตลอดทั้งปี อาทิ พิธีประกาศคำปฏิญาณตน การรณรงค์ในพื้นที่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างพื้นที่ การเผยแพร่บุคคลและพื้นที่ต้นแบบ ฯลฯ ส่งผลให้ช่วงเข้าพรรษา ปี 2561 ประชาชนให้ความสนใจในการลด ละ เลิกดื่มสุรา เพิ่มมากขึ้น

           

ทั้งนี้ สสส.พัฒนา Campaign งดเหล้าเข้าพรรษา ชื่อพลังมดชวนงดเหล้าครบพรรษา ผ่านทาง Social Network โดยมียอดเข้าชมสูงถึง 30 ล้านวิว ส่งผลให้คนสนใจอยากเลิกสุราเพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้สนใจค้นหาข้อมูลการเลิกสุราสายด่วนเลิกสุรา 1413 สูงถึง 20,256 ราย มากกว่าปี 2560 ที่มีผู้เข้าศึกษาอยู่ที่ 7,084 ราย เช่นเดียวกับผู้ที่โทร.เข้ามารับคำปรึกษาที่สายด่วนเลิกสุรา1413 ในปี 2561 มากกว่าปี 2560 ถึง 2.2 เท่า

​           

นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า สคล.ร่วมกับนายอำเภอ 157 อำเภอทั่วประเทศ มีชุมชนแหล่งเรียนรู้ 430 แห่ง ร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2561 ภายใต้แนวคิด “รวมพลังเครือข่าย ชวน ช่วย เชียร์ งดเหล้าครบพรรษา” โดยมีชุมชนตอบรับเข้าร่วม 1,546 แห่ง มีคนลงนามร่วมบวชใจงดเหล้าเข้าพรรษาจำนวน 24,376 คน ในจำนวนนี้เป็นคนหัวใจหินสูงถึง 80%        

           

โดยเหตุผลที่ประชาชนเข้าร่วมลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเข้าพรรษา เพราะสุขภาพร่างกายดีขึ้น รองลงมาคือประหยัดค่าใช้จ่าย สุขภาพจิตใจดีขึ้น และช่วยลดปัญหาในครอบครัว/มีความสุขในครอบครัวมากขึ้น นอกจากนี้ได้มีเสียงสะท้อนจากครอบครัวคนบวชใจอีกว่า รอคอยช่วงเข้าพรรษาในทุกปี เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ครอบครัวได้กินข้าวพร้อมหน้า มีเวลาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

           

นายธีระกล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าจะออกพรรษาแล้ว ในหลายพื้นที่ยังผลักดันให้เกิดการงดเหล้าต่อเนื่องหลังออกพรรษา เช่น ข้อ 1.ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จัดกิจกรรมขบวนการคนหัวใจเพชรชวนลด ละ เลิก เหล้า ใช้กลยุทธ์วิถีชุมชนและวิถีของคนเคยดื่ม มีความเข้าอกเข้าใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยในการชวน ช่วย เชียร์ให้คนดื่มในชุมชน ลด ละ เลิกการดื่มอย่างมีขั้นตอน โดยมีพี่เลี้ยงคนหัวใจเพชรดูแลใกล้ชิด พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักดื่ม สู่นักรณรงค์ชวนคน ลด ละ เลิกเหล้าได้ 

           

ข้อ 2.ต.โคกเพชร อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ มีกิจกรรมขบวนการ อสม.สู่ชุมชนสุขภาพดีปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ ทำงานร่วมกับชมรมคนหัวใจเพชรระดับหมู่บ้านและตำบล เพื่อใช้ประสบการณ์การเริ่มดื่มและการเลิกดื่ม เป็นกำลังใจในรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเลิกเหล้า เพราะเชื่อว่าไม่มีใครรู้ใจคนดื่มเท่าคนที่เคยดื่มมาก่อน ข้อ 3.ชุมชนคนสู้เหล้า ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาและรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยง โดยมีการออกแบบกลยุทธ์ให้ อสม. 1 คน ชวนคนดื่มมาร่วมโครงการให้ได้อย่างน้อย 2 คน ตั้งชื่อกลุ่ม อสม.นักรณรงค์ชวนคนพักตับนี้ว่า “สาวพักตับ” ซึ่งใช้กลยุทธ์ชวนคนใกล้ตัวและคนในครอบครัวมาเข้าโครงการ และช่วยเชียร์สนับสนุนให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด โดยใช้สโลแกนว่า “คู่รักพักตับ” 

           

ด้านนางญาณี สงสุวรรณ์ ผู้เข้าร่วมโครงการ “คู่รักพักตับ” จ.ตรัง เปิดใจว่า หลังจากที่เข้ากลุ่ม อสม.นักรณรงค์ชวนพักตับ ได้เคยชวนแฟนเลิกเหล้าหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เวลาไปชวนคนอื่นๆ งดเหล้า แฟนก็ดื่มเหล้าอยู่ที่บ้าน พอตนเองกลับมาแฟนเริ่มเมา ชวนทะเลาะ ชวนตี ไม่อยากให้เราออกไปพูดคุยกับคนอื่น ในที่สุดตัดสินใจพาแฟนไปรณรงค์ด้วย ในปี 2560 หลังจากที่แฟนเห็นเราทำงานรณรงค์ ไม่นานแฟนก็ตัดสินใจเข้าโครงการเลิกเหล้า และเขาก็เลิกดื่มจริงจัง ปีนี้ได้เป็นคนหัวใจเหล็ก และคิดว่าจะเลิกเหล้าตลอดชีวิต

           

ด้านนายอุดม โชติพนัง อายุ 65 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตร คนหัวใจหิน ปี 2561 กล่าวว่า ตนเองดื่มเหล้ามานานและดื่มหนัก เมื่อเกษียณจากราชการก็ไม่ได้ทำงานแล้วก็จะดื่มแบบเบาๆ อยู่บ้าน มีทีมงดเหล้ามาชวนให้เข้าโครงการเพื่อสุขภาพ ก็เลยงดเหล้าเข้าพรรษามาทุกปี และได้เข้าร่วมโครงการและงดได้ครบพรรษามา 2 ปีแล้ว เมื่องดเหล้าได้แล้วพอถึงออกพรรษาก็ดื่มได้น้อยลง บางทีก็ไม่ได้คิดอยากดื่มเลย ประกอบกับอายุที่มากขึ้น เริ่มมีโรคความดัน แฟนจึงชวนกันมาออกกำลังกาย ถ้างดเหล้าก็ดี ได้สุขภาพก็ดีขึ้น ตอนนี้ใครๆ ก็ทักว่าหน้าใสขึ้น มีสง่าราศี เลิกเหล้าได้แล้วหล่อขึ้นจริงๆ

           

หวังว่าช่วงเทศกาลเข้าพรรษาจะทำให้คนที่เลิกเหล้า ยุติการดื่มไปตลอดชีวิต เพราะนอกจากตัวเองได้สุขภาพที่ดีกลับมา ยังช่วยลดปัญหาสังคม เช่น อุบัติเหตุ อาชญากรรม อีกด้วย.

 

จปร.จับมือ สสส. ยกระดับงานวิ่งไทย

           

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน เดิน-วิ่งประเพณี "เดิน-วิ่ง เขาชะโงก ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 24” ประจำปี 2561 ชิงถ้วยพระราชทาน พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้การผนึกกำลังร่วมกันของ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จ.นครนายก โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ระยะทาง คือ ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 32 กม. ซูเปอร์มินิมาราธอน 16 กม. และมินิมาราธอน 10 กม.

           

พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จทรงร่วมงานและพระดำเนินทรงนำข้าราชการและผู้ร่วมวิ่งเป็นระยะทาง 3.9 กิโลเมตร ด้วยเช่นกัน โดยแชมป์โอเวอร์ออลชาย ระยะ 32 กิโลเมตร ตกเป็นของ "ธวัชชัย หกพันนา" ทำเวลาได้ 1.58.30 ชม. ส่วนแชมป์โอเวอร์ออลหญิง คือ "นนท์ ฤทัยภัทร" เวลา 2.33.41 ชม.

           

ด้านพลโทสิทธิพล ชินสำราญ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้เราได้พยายามยกระดับมาตรฐานการจัดงานให้มีความปลอดภัยแก่นักวิ่งอย่างเต็มพิกัด ภายใต้การรับรองจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF) ทำให้นักวิ่งที่มาร่วมงานต่างพึงพอใจและมีความสุข จึงถือว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีนักวิ่งเข้าร่วมงานรวมทุกระยะเป็นจำนวน 17,000 คน โดยนอกจากการแข่งขันทั้ง 3 ระยะแล้ว ยังมีกิจกรรมวิ่งครอบครัวหรือฟันรัน ระยะทาง 3 กม. และ 2.36 กม. เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและผู้สูงวัยได้ร่วมออกกำลังกาย ตลอดจนสร้างสัมพันธ์อันอบอุ่นภายในครอบครัวด้วยเช่นกัน

           

ขณะที่ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี หนึ่งในนั้นคือการส่งเสริมให้คนไทยในแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท โดยในงานเขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งนี้ได้มีประชาชนให้ความสำคัญถึงเรื่องนี้และออกมาร่วมวิ่งเป็นจำนวนมาก ถือเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนเห็นประโยชน์และมีกิจกรรมทางกายด้วยการวิ่ง จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอและเหมาะสม.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"