ตึงเครียดหนัก รัสเซียยึดเรือรบยูเครน 3 ลำนอกฝั่งไครเมีย


เพิ่มเพื่อน    

รัสเซียยิงสกัดเรือ 3 ลำของกองทัพเรือยูเครนนอกชายฝั่งไครเมียแล้วเข้ายึดเรือ อ้างเรือรบยูเครนละเมิดน่านน้ำ ขณะยูเครนโวยรัสเซียปิดทางเข้าช่องแคบเคียร์ชปากทางสู่ทะเลอาซอฟ ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก เตรียมขอความเห็นชอบจากสภาวันจันทร์เพื่อประกาศกฎอัยการศึก ขณะคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเรียกประชุมฉุกเฉินหวั่นความขัดแย้งบานปลาย

แฟ้มภาพจากสำนักงานเอฟเอสบีของรัสเซีย เผยการเผชิญหน้าระหว่างเรือรัสเซียกับเรือของยูเครนนอกชายฝั่งไครเมีย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 / FSB / TASS

สถานการณ์บนคาบสมุทรไครเมียตึงเครียดหนัก เมื่อกองทัพรัสเซียประกาศว่า เรือของกองกำลังป้องกันชายแดนของรัสเซียใช้อาวุธเพื่อหยุดยั้งเรือของกองทัพเรือยูเครน 3 ลำ ซึ่งเข้าน่านน้ำรัสเซียอย่างผิดกฎหมายเมื่อวันอาทิตย์ แล้วทหารรัสเซียได้ขึ้นเรือและตรวจค้นเรือ 3 ลำนี้

สำนักงานความมั่นคงกลาง (เอฟเอสบี) ของรัสเซีย ออกแถลงการณ์กล่าวโทษเรือยูเครน 3 ลำ ซึ่งประกอบด้วย เรือเบอร์เดียนสก์, นิโคโปล และยานีคาปู ว่าได้รุกล้ำชายแดนของรัสเซียเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน แล้วจากนั้นก็ยังดำเนินการอย่างผิดกฎหมายภายในน่านน้ำอาณาเขตของรัสเซียอีกครั้งในช่วงค่ำ เวลา 19.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมอสโก)

ด้านกองทัพเรือยูเครนบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า เรือรบขนาดเล็ก 2 ลำ และเรือโยง 1 ลำของยูเครนกำลังแล่นผ่านช่องแคบเคียร์ช ซึ่งเป็นทางน้ำแคบที่ทั้งรัสเซียและยูเครนใช้เข้าสู่ทะเลอาซอฟ แต่เรือของกองกำลังป้องกันชายแดนรัสเซียลำนี้ได้พุ่งชนเรือโยงด้วย "พฤติการณ์ก้าวร้าวอย่างเปิดเผย" แล้วจากนั้นก็ยิงใส่เรือทั้ง 3 ลำของยูเครน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้

ยูเครนอ้างด้วยว่า มีทหาร 6 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โดย 2 นายอาการสาหัส แต่เอฟเอสบีของรัสเซียรายงานว่ามีทหารยูเครนบาดเจ็บเพียง 3 นายและไม่อันตรายถึงชีวิต ทั้งหมดได้รับการรักษาแล้ว

การเผชิญหน้าทางทะเลครั้งนี้เป็นพัฒนาการที่อันตรายครั้งล่าสุดของความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนาน ระหว่างยูเครน กับรัสเซียและกบฏในภาคตะวันออกของยูเครนที่มีรัสเซียหนุนหลัง

นับแต่ผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียเมื่อปี 2557 รัสเซียก็อ้างสิทธิเหนือน่านน้ำไครเมีย และกล่าวหายูเครนว่าเข้าสู่น่านน้ำของรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย

ทางการยูเครนอ้างว่า ยูเครนได้แจ้งเตือนรัสเซียล่วงหน้าแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรือ 3 ลำนี้ ซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้าทะเลอาซอฟ คำแถลงยังกล่าวด้วยว่า ช่องแคบเคียร์ชมีเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งปิดทางเข้าไว้ และเครื่องบินของกองทัพรัสเซียบินวนเหนือพื้นที่นั้น

ตำรวจยูเครนวางกำลังรักษาการณ์ด้านหน้าสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟเมื่อคืนวันอาทิตย์ ท่ามกลางกลุ่มควันจากพลุไฟของผู้ประท้วง หายหลังเหตุการณ์เผชิญหน้าในทะเลดำนอกชายฝั่งไครเมีย / AFP

เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากกองทัพเรือยูเครนโวยวายเมื่อเดือนกันยายนว่า กองกำลังป้องกันชายแดนของรัสเซียมี "พฤติกรรมยั่วยุ" กับเรือของยูเครนที่ใช้เส้นทางเดียวกัน

รายงานกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ยูเครนได้เสริมจำนวนเรือของกองทัพเรือและการลาดตระเวนของกองกำลังป้องกันชายแดนในทะเลอาซอฟ หลังจากรัสเซียได้ส่งเรือรบมาประจำในทะเลนี้เพิ่มอีก 5 ลำ รัฐบาลยูเครนอ้างว่าการเสริมกำลังทางทะเลของตนเกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัสเซียควบคุมพื้นที่นี้มากขึ้นในปีนี้ และยังตรวจสอบเรือพาณิชย์โดยใช้เวลายาวนานซึ่งทำให้เรือสินค้าและบริษัทการท่าต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงขึ้น

รัฐบาลยูเครนและชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรกล่าวโทษรัสเซียว่า เจตนาขัดขวางไม่ให้เรือของยูเครนเข้าถึงเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นปากประตูสำคัญในการเข้าสู่เขตอุตสาหกรรมหนักของภูมิภาคนี้

ด้านนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นจะจัดประชุมฉุกเฉินกันที่นิวยอร์กวันจันทร์ เอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่า การประชุมนี้เป็นไปตามคำร้องขอของทั้งรัสเซียและยูเครน

ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก (กลาง) เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและสภากลาโหม เมื่อคืนวันอาทิตย์ / AFP

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ได้ขอให้สภาผู้แทนราษฎรประชุมในวันจันทร์เพื่อลงมติว่าจะอนุมัติให้เขาประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศนาน 60 วันหรือไม่ หลังจากคณะรัฐมนตรีฝ่ายทหารเห็นด้วยกับมาตรการนี้ระหว่างการประชุมเมื่อช่วงดึกวันอาทิตย์ โปโรเชนโกกล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า ยูเครนมีหลักฐานที่โต้แย้งไม่ได้เกี่ยวกับการโจมตีเรือรบของยูเครนครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดพลาดและไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำอย่างจงใจ

พันธมิตรของยูเครนในโลกตะวันตกต่างแสดงความวิตกว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะบานปลาย โดยสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัสเซียคืนเสรีภาพในการเข้าสู่ช่องแคบเคียร์ช และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นถึงที่สุดเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ทันที กองกำลังนาโตก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้นและลดความรุนแรงของสถานการณ์ลง และเรียกร้องรัสเซียปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยไม่ขัดขวางการเข้าสู่เมืองท่าของยูเครนในทะเลอาซอฟ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"