ร็อกโอเปร่าครั้งแรกในไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

     สิ้นสุดการรอคอยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงรักในเสียงร้องและดนตรีอันทรงพลังของโอเปร่า ที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย นำทัพโดย โอเปร่าสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมพร้อมที่จะจัดการโชว์สุดอลังการแบบเต็มอิ่มในการแสดงสุดพิเศษทั้ง 9 ชุดการแสดง ได้แก่  The Princess Concert, Jesus Christ Superstar, Gianni Schicchi, Siam Sinfonietta & Beethoven’s Pastoral, Star Wars Concert, พระมโหสถ อดีตชาติที่ 5 ของพระพุทธเจ้า, เทศกาลนักร้องประสานเสียงโลก และ Tosca ที่จะนำความสนุกสนานเพลิดเพลินในการชมและฟังเสียงของการขับร้องและการบรรเลงดนตรีอันยิ่งใหญ่และคุ้มค่า โดยจะเริ่มการแสดงตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2561-7 สิงหาคม 2562

      สมเถา สุจริตกุล ประธานมูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพ และผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของโอเปร่าสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า โอเปร่าสยาม ในฤดูกาลนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายฐานคนดูให้กว้างขึ้น ทั้งในเยาวชน และกลุ่มคนที่หลากหลายทุกเพศทุกวัย และต้องการให้คนได้รับรู้มากขึ้นว่าโอเปร่าของประเทศไทยไม่แพ้ชาติใด ทั้งคุณภาพและฝีมือที่ดีที่สุดในเซาท์อีสต์เอเชียด้วย ซึ่งชาวต่างชาติต่างให้การยอมรับ เห็นได้จากรีวิวตามสื่อต่างๆ ในต่างประเทศ แต่การรับรู้ของคนในประเทศยังไม่มากนัก ยังคงมีความคิดที่ว่าถ้าอยากจะดูโอเปร่าต้องไปต่างประเทศ จึงประเดิมเปิดฤดูกาลด้วยชุดการแสดงแรก คอนเสิร์ตเจ้าหญิง The Princess Concert สุดพิเศษ จากค่ายดิสนีย์ในเวอร์ชั่นภาษาไทย จากนักแสดงผู้พากษ์เสียงมาร่วมขับร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ให้คนได้เข้าถึงง่ายและรู้สึกสนุก

      ที่สำคัญนับเป็นครั้งแรกอีกด้วยที่โอเปร่าสยามจัดการแสดงโอเปร่าสไตล์ร็อก โดยเป็นเจ้าแรกที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการจากบริษัทของแอนดูรว์ ลอยด์ เพื่อสร้างสรรค์การแสดงชุด Jesus Christ Superstar ซึ่งเป็นผลงานที่ติดอันดับ 1 ในโลกในปี 2514 และติดอันดับ 2 ในการจัดอันดับเพลงมิวสิคัลยอดฮิตตลอดกาลของโรลลิง สโตน (Rolling Stone) จากบทประพันธ์ชื่อดังของแอนดูรว์ ลอยด์ ความน่าสนใจ ก็คือนักแสดงนำทั้ง 3 คนในเรื่องนี้ที่นับถือศาสนาต่างกัน คืออิสลาม คริสต์ และพุทธ จึงทำให้การแสดงนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ท่ามกลางความแตกต่างในโลกปัจจุบัน และทำหน้าที่เสมือนคำมั่นสัญญาจากประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทยที่พร้อมแสดงเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ในการร่วมสร้างสรรค์โลกแห่งความรักและการเข้าใจซึ่งกันและกัน

 

    แอธาลี เดอ คอนิ่ง   นักร้องแจ๊สชื่อดัง

 

     สำหรับการแสดงโอเปร่าสยามทั้ง 9 ชุด มีวาทยากรชื่อดัง ชุดที่ 1 The Princess Concert โดยออร์เคสตราเยาวชน สยามซินโฟนิเอตต้า กับมีสองวาทยากรคือ สมเถา สุจริตกุล และทฤษฎี ณ พัทลุง ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการในวัยเยาว์ด้วยบทเพลงจากการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ The Frozen สโนไวท์ แอเรียล มู่หลาน เบล ราพันเซล โมอานา ฯลฯ ที่จะขับร้องโดยศิลปินระดับ DIVA แก้ม วิชญาณี, กิ่ง เหมือนแพร ร่วมกับอาร์ม กรกันต์ และคชา นนทนันท์ ที่จะเริ่มการแสดงในวันที่ 16 ธันวาคม 2561 เวลา 16.00 น. และวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เวลา 19.30 น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

      ชุดที่ 2 Jesus Christ Superstar ร็อกโอเปร่า เรื่องแรกของโลก ผลงานปี 2514 ซึ่งสร้างชื่อเสียงอันลือลั่นให้แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ ที่จะได้รับชมเวอร์ชั่นใหญ่สุด ในรูปแบบซิมโฟนีออร์เคสตราเต็มวง อำนวยดนตรีโดยทฤษฎี ณ พัทลุง วาทยกรดัง สมเถา สุจริตกุล กำกับการแสดงจากจินตนาการในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 บรรเลงโดยวงดุริยางค์ประกอบด้วยเครื่องดนตรี 60 ชิ้น เสริมพลังด้วยนักร้อง 60 ชีวิต นำโดยเพียว เอกพันธ์ (The Voice) ในบท จูดาส์ ผู้ทรยศ, ป๊อบ ชัยพร รับบท พระเยซู และแอธาลี เดอ โคนิ่ง ในบท แมรี แมคดาเลน อดีตนางบาปผู้กลายเป็นนักบุญ โดยจะแสดงในวันที่ 29-30 ธันวาคม 2561

 

ศิโยน ดาวรัตนหงษ์ ร่วมขับร้องโอเปรา

      ชุดที่ 3 Salome เรื่องดังระดับตำนานของริชาร์ด สเทราส์ (Richard Strauss) กับนักแสดงระดับนานาชาติ อาทิ คาสแซนดรา แบล็ก จากสหรัฐอเมริกาที่มารับบทเป็นเจ้าหญิงที่เปี่ยมเสน่ห์ที่ดึงดูดให้พระราชามาสนใจและทำลายผู้เผยพระวจนะ เรื่องนี้จัดแสดงครั้งแรกในโลกเมื่อมากกว่า 100 ปีที่แล้ว ซาโลเม (Salome) ได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานทางจิตวิทยาชั้นครู พร้อมสุดยอดดนตรีที่มีอรรถรสและสีสัน โดยจะแสดงในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2562 ในส่วนชุดที่ 4 Gianni Schicchi โอเปร่าแนวตลกของพุชชินี (Puccini) ซึ่งมีเพลง O mio babbino caro ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเป็นอย่างดี ที่จะแสดงโดยโครงการศิลปินเดี่ยวระดับเยาวชน (Young Soloists) ของโอเปร่าสยาม โดยจะทำการแสดงในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 

      ชุดที่ 5 Siam Sinfonietta & Beethoven’s Pastoral ที่จะนำเสนอซิมโฟนีหมายเลข 6 (Symphony No.6 in F major) ของลูทวิช ฟัน เบทโฮเฟิน รู้จักกันในชื่อเดอะพาสโทรัล (The Pastoral) หรือพาสโทรัล ซิมโฟนี (Pastoral Symphony) เป็นผลงานที่เบทโฮเฟินเริ่มแต่งเมื่อราว ค.ศ.1802 แล้วเสร็จเมื่อ ค.ศ.1808 ในแค็ตตาล็อกผลงานของเบทโฮเฟิน ระบุหมายเลขโอปุส 68 (Opus 68) เป็นผลงานของเบทโฮเฟินที่แต่งโดยอ้างอิงความงดงามของธรรมชาติในชนบท บรรยายทัศนียภาพทุ่งหญ้าป่าเขา มีเสียงนกร้อง จากนั้นได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และเมื่อฝนหยุดตกก็มีแดดออก ท้องฟ้าสดใส บรรยากาศอบอุ่น ภายใต้การอำนวยเพลงของทฤษฎี ณ พัทลุง วงสยามซินโฟนิเอตต้า โดยจะแสดงในวันที่ 31 มีนาคม 2562

      ชุดที่ 6 Star Wars Concert ที่จะพาทุกคนไปพบกับ Imperial March, Duel of the Fates,The Jedi Steps, Luke and Leia, Cantina Band ฯลฯ จากภาพยนตร์สตาร์วอร์สทุกภาค กับเพลงเอกจาก Rogue One โดย Siam Sinfonietta วงดุริยางค์เยาวชนของเราจะมอบความบันเทิงให้แก่ท่านด้วยดนตรีดั้งเดิมจากภาพยนตร์ถึง 2 ชั่วโมงเต็ม บรรเลงโดยซิมโฟนีออร์เคสตราวงใหญ่ ประกอบด้วยเครื่องดนตรี 80 ชิ้น และนักร้องประสานเสียงคณะใหญ่ นอกจากนั้น ท่านจะได้พบสมาชิกสตาร์วอร์สกลุ่มที่ 501 ประเทศไทย ซึ่งจะมาร่วมขบวน Storm Troppers โดยจะทำการแสดงในวันที่ 6 พฤษภาคม 2562

      ชุดที่ 7 โอเปร่าเรื่องพระมโหสถ จากทศชาดก ด้วยแรงบันดาลจากพระมโหสถ อดีตชาติที่ 5 ของพระพุทธเจ้า โอเปร่าสยามนำเสนอเรื่องราวของเด็กมหัศจรรย์ผ่านดนตรี โดย Siam Sinfonietta ด้วยการประพันธ์ดนตรีและกำกับการแสดงโดย สมเถา สุจริตกุล และมีทฤษฎี ณ พัทลุง อำนวยเพลง โอเปร่าเรื่องพระมโหสถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทศชาติ ด้วยวัตถุประสงค์ในการเผยแผ่พุทธศาสนาด้วยดนตรีคลาสสิก โดยจะทำการแสดงในวันที่ 9 มิถุนายน 2562

      ชุดที่ 8 International Choir Festival หรือเทศกาลนักร้องประสานเสียงโลก เกิดจากความร่วมมือในการจัดแข่งขันคณะนักร้องประสานเสียงในงาน Grand Prix ภายใต้การจัดของ Festa Musicale ซึ่งได้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเนื่องจากวันแสดงคอนเสิร์ตอยู่ในเดือนแห่งการเฉลิมพระชนมพรรษาของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จึงนับเป็นโอกาสอันดี โดยจะทำการแสดงในวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 และชุดที่ 9 โอเปร่าเรื่อง Tosca ถือเป็นการแสดงเรื่องที่ 3 ในโครงการ Puccini ของโอเปร่าสยาม อำนวยดนตรีโดยทฤษฎี ณ พัทลุง และกำกับโดย สมเถา สุจริตกุล ซึ่งเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัยใหม่ พร้อมฉากของประเทศในอินโดจีนในจินตนาการในยุคล่าอาณานิคม โดยจะทำการแสดงในวันที่ 6-7 สิงหาคม 2562

      ด้านนักแสดงชาย ชัยพร พวงมาลี นักแสดงผู้รับบท พระเยซู ในเรื่อง Jesus Christ Superstar เล่าว่า เป็นความท้าทายอย่างมากในการมารับบทเรื่องนี้ เพราะตนเองนับถือศาสนาอิสลาม แต่เมื่อได้มารับบทนำหลักที่เกี่ยวคริสต์ศาสนา ก็ถือว่าต้องทำการบ้านในการศึกษาเรื่องราวต่างๆ ซึ่งทุกอย่างจะอิงเรื่องจริงมาจากคัมภีร์ไบเบิล แต่ความเป็นพระเยซูที่สุขุมในคัมภีร์อาจจะแตกต่างจากการแสดงตรงที่จะมีความเป็นร็อกสตาร์มากๆ และด้วยเทคนิคการร้องที่แตกต่างจากเดิม เพราะจะมีแนวดนตรีทั้งเป็นแจ๊ส โซล และร็อกผสมผสานกัน ทำให้มีเสน่ห์และสนุก ซึ่งนักแสดงทุกคนก็ฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อให้โชว์ออกมาดีให้ทุกคนได้ชมกัน

      ในส่วนของนักแสดงหญิง อธลี เดอ คอนิง นักร้องแจ๊สชื่อดัง ที่จะมารับบท แมรี แมคดาเลน อดีตนางบาปผู้กลายเป็นนักบุญ ในเรื่อง Jesus Christ Superstar ได้เล่าความรู้สึกว่า นับว่าเป็นเกียรติที่อาจารย์สมเถาได้เลือกตนให้รับบทตัวแสดงนี้ เพราะตนเองก็นับว่าคุ้นเคยกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ซึ่งตนเองก็ต้องฝึกซ้อมเพื่อที่สื่อสารในบทของแมรี ที่ตกหลุมรักพระเยซู ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงมีความดรามา และความรู้สึกที่อาจจะส่งผลต่อใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาการแสดงแนวนี้ก็ไม่ควรพลาดมาชม เพราะจะไม่ผิดหวังแน่นอน

      อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจรับชมโอเปร่าสยามฤดูกาลที่ 18 ที่จะเริ่มการแสดงตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2561-7 สิงหาคม 2562 สามารถติดตามสถานที่จัดแสดงและราคาบัตรเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/OperaSiam/.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"