ต้านถ่านหินใต้ฟ้องรัฐ3คดีรวดพ่วง'ไก่อู'


เพิ่มเพื่อน    

26 พ.ย.61- จากกรณีเมื่อวันที่ 24–27 พ.ย.60 เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้ทำกิจกรรมเดินเท้าจากอำเภอเทพาเพื่อไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)  ซึ่งเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในตัวอำเภอเมืองสงขลา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แต่ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 พ.ย. 60 ชาวบ้านผู้ร่วมกิจกรรมได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันเข้าสกัดกั้นและใช้กำลังเข้าจับกุม จนนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้าน จำนวน 17 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ในหลายข้อหา 

ทั้งความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน, ข้อหากีดขวางการจราจร, ข้อหาพกพาอาวุธ (ไม้คันธง) ไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน คดีนี้ต่อมามีการสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสงขลา และมีการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย ใช้เวลากว่า 5 เดือน จนเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ธ.ค. 2561 เวลา 9.00 น.

จากการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ เครือข่ายเทใจให้เทพาไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน เห็นว่า การกระทำดังกล่าวที่มิชอบด้วยกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางเครือข่ายฯ และยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ได้กระทำการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญให้เสื่อมเสียต่อเสรีภาพการชุมนุมที่ทางเครือข่ายฯจักกระทำได้ ทางเครือข่ายฯจึงอาศัยสิทธิทางศาลเพื่อให้มีการตรวจสอบการกระทำดังกล่าว จำนวน 2 คดี 1. คดีปกครอง ยื่นฟ้องที่ศาลปกครองสงขลา ซึ่งทางเครือข่ายฯจะยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก และจังหวัดสงขลา จากเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดทั้งสามร่วมกันเข้าสลายการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามแนวทาง และขั้นตอนปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 2. คดีแพ่ง ยื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลา ซึ่งทางเครือข่ายฯจะยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก และจังหวัดสงขลา จากเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดทั้งสามร่วมกันเข้าจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 พ.ย.60 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิดอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งออกอากาศไปทั่วประเทศ กรณีมีกระแสข่าวว่านายมุสตาซีดีน วาบา หรือ แบมุส ได้หายตัวไปหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมโดยระบุว่า “ทหาร และตำรวจไม่ได้จับตัวไป แต่ท่านไม่ได้กลับบ้าน มีคนตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเหมือนที่สะบ้าย้อย ที่ตอนแรกคิดว่าถูกจับตัวไป แต่ปรากฏว่า หนีไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ครอบครัวของท่านที่สตูล อันนี้ตั้งข้อสังเกต ผมไม่ได้ว่าคุณแบมุสนะ” 

อีกทั้งยังได้กล่าวหาว่าชาวบ้านเครือข่ายเทใจให้เทพาฯไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ ลงไปนอนดิ้นอยู่บนพื้น และได้ใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางนายมุสตาซีดีน วาบา หรือ แบมุส และเครือข่ายฯ เห็นว่า การกระทำดังกล่าว ให้ร้ายแก่ตนเองและเครือข่ายฯ จนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติคุณ จึงยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดสงขลาอีกคดีหนึ่งด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"