26 พ.ย.61- ร.ต.ท.อดิเรก อินแก้ว ร้อยเวรสภ.เมืองอ่างทอง รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191 ให้เข้าระงับเหตุหลังจากได้รับแจ้งว่ามีชายฉกรรจ์ลงมาจากรถแท็กซี่ มีอาการลักษณะเหมือนคนเมาสุรา คลุ้มคลั่งไล่ทำร้ายประชาชนจนได้รับบาดเจ็บ จนทำให้การจราจรติดขัด เหตุเกิดบริเวณตลาดนัดคลองถม ใกล้แยกไฟแดงเรือนจำ หมู่ที่ 2 ตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทศ 8895 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่กาญจนาภิเษก จำกัด จอดอยู่บนถนน มีชายอยู่ในอาการมึนเมาใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ พูดแต่เพียงว่าปู่ของตนเองเสียชีวิตจะรีบไปบวช และพยายามจะก่อเรื่องชกต่อยกับประชาชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมา นาย พิชา ชาญเชี่ยว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/2623 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองอ่างทอง และทำการเป่าเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์
จากการสอบถาม น.ส.สุพัฒนา กิจสมศาสตร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 5 ตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง ครูโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง(อนุบาลวัดอ่างทอง) เล่าว่า ช่วงเช้าตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 1 กค 7079 อ่างทอง ออกจากบ้านเดินทางไปสอนที่โรงเรียนตามปกติ ระหว่างทางได้สังเกตเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่ง ขับรถประมาทหวาดเสียว ทั้ง ๆ ที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน และเส้นทางดังกล่าวจะมีปริมาณรถจำนวนมาก เมื่อถึงที่เกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้จอดรถและลงมาปรี่ตรงเข้ามาหาตนเอง ซึ่งตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้จอดรถจักรยานยนต์วิ่งหนี พอดีมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นเหคุการณ์ได้จอดรถจักรยานยนต์ลงมาช่วย ชายคนดังกล่าวจึงได้หันไปชกต่อยพลเมืองดีจนได้รับบาดเจ็บ และพยายามจะทะเลาะวิวาทกับประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ จนมีคนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ
ผลการเป่าตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เครื่องวัดได้ 208 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนาย พิชาที่อยู่ในอาการมึนเมายอมรับทุกข้อกล่าวหา แต่ไม่ยอมเซ็นต์ชื่อในเอกสารของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังคงเอะอะโวยวายในโรงพัก พร้อมทั้งอาละวาดจะขอใช้โทรศัพท์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ โดยนายพิชา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเอง พร้อมด้วย น.ส.ลำแคน ภรรยา และลูกสาววัย 2 ขวบ จะไปบวชหน้าไฟให้กับปู่ที่อำเภอโพธิ์ทอง ระหว่างทางเกิดความโมโหที่รถคันหน้าขับอยู่เลนขวาทั้ง ๆ ที่ความเร็วอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ร.ต.อ.มานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่มีคู่กรณีเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ แต่จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์มีระดับเกินกว่าที่ทางกฎหมายกำหนด และจากการตรวจสอบใบขับขี่รถยนต์สาธารณะหมดอายุ จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ และขับรถยนต์สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท หากมีเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี จะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |