ฝุ่นตลบ...

                ทั้งวันมีแต่ข่าวนักการเมืองย้ายพรรค

                ตอนนี้จึงอยู่ในสภาวะ...ตาลาย 

                คงต้องรอให้นิ่ง แล้วจัดเรียงข้อมูลในสมองใหม่ว่า ใครย้ายไปอยู่พรรคไหน

                ใครถูกพรรคไหนดูด

                ใครสูบใคร

                ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์

                ไม่ชอบใจก็ด่า

                พอใจก็ชม

                แต่ประเภทด่ากันสาดเสียเทเสีย กะด่าให้เสียผู้เสียคนไปเดี๋ยวนั้น เพราะไม่ได้ดังใจ อันนี้ลึกกว่าธรรมชาติหน่อยหนึ่ง

                มันคือสันดาน

                ก็อย่างที่ว่าไปวันก่อน การเมืองมันย้อนกลับ "ทักษิณ" เคยทำแบบไหน วันนี้ก็โดนแบบนั้น

                บางคนบอกดีแล้ว แต่หลายๆ คนบ่นว่า ย่ำอยู่กับที่

                การเมืองไม่พัฒนาขึ้นเลย

                มันก็จริง!

                และจริงกว่านั้นคือ คนบ่นมันเยอะ คนทำหาไม่ได้

                วันนี้สังคมร้องหาคนดีมาทำงานการเมือง 

                จะเอาดีแบบไหนกันล่ะ?

                ดีของคนนี้ ชั่วของคนโน้น

                สรุปแล้วไม่ต้องดีเด่อะไร แค่เห็นแก่ประโยชน์ของชาติมากกว่าประโยชน์ตัวเอง ตีให้แคบลงแบบนี้ พอมองเห็นกันบ้างหรือเปล่าว่า...ใครควรเข้ามาทำงานการเมือง 

                เอ้า...เดี๋ยวก็มีคำถามอีก ดีของประชาชนกลุ่มไหน?

                ยกตัวอย่าง "กำนันสุเทพ" วันนี้ถูกด่าเยอะ แต่ที่ชมก็มีแยะ

                คนที่ด่ากำนันสุเทพ ไม่ได้มีเฉพาะพวกนิยมทักษิณ แต่คนในประชาธิปัตย์ก็ด่า

                อดีตคนเคยชุมนุมกับ กปปส.ก็คืนนกหวีด

                ติดอยู่กับสัญญาที่ว่าจะไม่เล่นการเมือง

                บิดพลิ้วคือตระบัดสัตย์

                "กำนัน" ต้องขึ้นหิ้งเท่านั้น!

                เห็นมั้ย....ร้อยพ่อพันแม่ ความเห็นคนไม่มีทางตรงกัน เพราะฐานการมองปัญหา และข้อมูลที่มีอยู่ในมือนั้นไม่เท่ากัน

                สำคัญที่สุดคือ ชอบ-ไม่ชอบ 

                ไม่ต้องถามหาเหตุผล

                ตอนนี้การเมืองก็เลยมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, เฉลิม อยู่บำรุง, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, อนุทิน ชาญวีรกูล ฯลฯ เป็นตัวชูโรงของพรรคการเมืองใหญ่

                แล้วคนรุ่นใหม่ล่ะ!

                ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 

                ปิยบุตร แสงกนกกุล

                ลูกเจ๊เบียบ ปรีชาพล พงษ์พานิช

                วัน อยู่บำรุง

                นี่....คัดมาเฉพาะหัวกะทิน้ำแรก

                หรือจะเอา ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, เหวง โตจิราการ, วรชัย เหมะ มาพ่วงด้วย ก็จะเห็นภาพการเมืองชัดขึ้นอีกหน่อย

                ส่วนประเภทคุณหลอกดาว ยังอยู่ในวงจรเยอะ

                ถ้านั่งมองอยู่ตรงกลาง ไม่เหลืองไม่แดง

                พบว่าที่เวียนว่ายอยู่นี้ มีทั้งพอไปได้ และน่าสะอิดสะเอียน

                วนอยู่แค่นี้!

                ฉะนั้นการย้ายหรือไม่ย้ายพรรคของนักการเมือง แค่สะท้อนการถ่ายเทอำนาจ จากขั้วหนึ่งไปอีกขั้วหนึ่งเท่านั้น

                ไม่ได้เกิดปรากฏการณ์ปฏิรูปการเมืองแต่อย่างใด

                หากจะมีเพียงเป้าหมายว่า เพื่อต้องการล้มระบอบทักษิณ การเกิดของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าใกล้เคียงที่สุดแล้ว ในการถอนรากถอนโคน

                โดยไม่ต้องพึ่งพาการทำรัฐประหาร

                แต่อาจเป็นเพียงการย้ายราก จากที่หนึ่งไปปลูกอีกที่เท่านั้น

                รวมทั้ง ไม่มีอะไรรับประกันว่า เมื่อสิ้นสุดระบอบทักษิณ แล้วจะบังเกิด "ระบอบประยุทธ์" ขึ้นมาแทนที่หรือไม่

                แล้วระบอบประยุทธ์จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

                นี่คือประเด็นที่อยากจะเปลี่ยนความเห็น

                ตลอด ๔-๕ ปีมานี้ ฝ่ายต่อต้าน คสช. ตะโกนบอกนี่ไง จอมเผด็จการ!

                หากปล่อยให้มีการสืบทอดอำนาจ ประเทศจะล่มจม

                แล้วแบบไหนจึงจะไม่ล่มจม

                หากเอาอย่างที่เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย บอก

                "การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ เป็นสิทธิเสรีของพี่น้องประชาชนที่จะเลือกใคร ถ้าพี่น้องคิดว่าตอนนี้ตนเองรวยแล้วก็เลือกพรรคอื่น

                หากว่าคิดว่าตัวเองจนลง ในกระเป๋าไม่มีเงิน ก็เลือกเพื่อไทยให้เข้ามาแก้ปัญหาให้

                ส่วนการเลือกตั้งต้องมีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"

                คือ...จะบอกว่า ถ้าอยากรวยให้เลือกเพื่อไทย

                เลือกแล้วประเทศจะไม่ล่มจมอย่างนั้นหรือ!

                ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณก็มีสิทธิ์คิดเหมือนกันว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำอยู่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อสืบทอดอำนาจให้ระบอบทักษิณ ระบอบคดโกง โดยผ่านการเลือกตั้ง

                และระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุให้ประเทศเผชิญกับความล่มจมมาหลายรอบแล้ว อันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น

                มีคนบอกว่าทำไมไม่ก้าวข้ามทักษิณ

                กลัวอะไรกับผีทักษิณ.....

                ที่จริงไม่มีใครกลัว มีแต่จะกระทืบซ้ำ

                ที่ยืนซดกันมาถึงวันนี้ก็เพื่อล้างระบอบทักษิณ แต่ทำไม่ได้ เหตุเพราะมีนักการเมือง และมวลชนหนุนหลังอยู่

                และยังชูความรวย หากระบอบทักษิณกลับเข้าสู่อำนาจ มีแต่รวยกับรวย

                วิธีการในการกลับมา "ทักษิณ" ก็คิดให้เสร็จสรรพ 

                แตกแบงก์ย่อย!

                สุดท้ายกำลังกลายเป็นเบี้ยหัวแตก

                ที่นำไปสู่การสูญเสียอำนาจของระบอบทักษิณ

                ส่วนอีกฝั่งต่อต้านเผด็จการ อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

                ทำไมไม่ก้าวข้าม!

                เพราะอีก ๓ เดือนก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว

                เอาเข้าจริง....ก็น่าสนใจ

                ฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการมาแล้วถึง ๕ ปี

                ทำไมถึงไม่สำเร็จ?

                ปล่อยให้เผด็จการปูพรมเอาใจผู้ยากไร้ จนติดกันงอมแงม

                ถ้าจะบอกว่าเผด็จการชั่วร้ายกว่าโกง ถือว่ากลุ่มอ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

                เพราะอะไร?

                เพราะเรามีฝ่ายประชาธิปไตยถ่มถุย ประชาธิปไตยพร่ำเพรื่ออยู่เยอะ!

                วันดีคืนร้ายคนโกงบอกตัวเอง เป็นฝ่ายประชาธิปไตยตัวพ่อ ก็เฮโลเชื่อกันตามนั้น

                แต่ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ ประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกว่าเผด็จการใช้อำนาจฟุ่มเฟือยจนต้องลุกขึ้นมาสู้

                เห็น "สุธรรม แสงประทุม" บอกให้ระวัง พฤษภาทมิฬ ๒ ก็อยากให้กลับไปดูว่า พฤษภาทมิฬ ๑ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

                มันไม่ใช่เรื่อง ดูด ส.ส. สูบพรรคการเมือง เพราะ "ทักษิณ" ก็เคยทำ แต่ทำแล้วใช้อำนาจโกงกิน แม้ไม่จบแบบพฤษภาทมิฬ

                แต่ "ทักษิณ" ก็ไร้แผ่นดินอยู่

                พฤษภาทมิฬเกิดเพราะประชาชนถูกกดทับ

                ประชาชนส่วนใหญ่สู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของตัวเอง และเพื่อชาติ

                เวลานี้เกิดอะไรขึ้น.....

                รัฐบาล-คสช.อยู่ยาวมา ๕ ปี สบายใจเฉิบ

                กลุ่มต่อต้านเทียบไม่ได้กับเหตุการณ์เมื่อปี ๒๕๓๔-๒๕๓๕

                ที่สู้กันอยู่ในเวลานี้ ส่วนใหญ่สู้เพื่อใคร

                เพื่อนายใหญ่?

                ฉะนั้น....ฝากฝ่ายประชาธิปไตยใจแคบทั้งหลายช่วยกลับไปคิด

                ทำไมไม่จัดการกับเผด็จการให้สิ้นซากเสียแต่ตอนนี้

                มัวรออะไรอยู่

                หรือกลัวคุก

                ก็เห็นเอาแต่พล่ามจะขจัดเผด็จการ ไม่ให้สืบทอดอำนาจ จะล้างบางให้หมดไปจากแผ่นดิน แต่...ไปรอหลังเลือกตั้ง

                พ่อคุณทูนหัว...ถึงเวลานั้นเขาฟอร์มทีมตั้งรัฐบาล ทำงานกันแล้ว 

                แล้วจะไปป่วนหาพระแสงอะไร.

                                                                                                                ผักกาดหอม