ปธน.ไต้หวันรับสภาพพ่ายเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนประชามติต้านสมรสเกย์ชนะ


เพิ่มเพื่อน    

ชาวไต้หวันเทคะแนนเลือกตัวแทนพรรคก๊กมินตั๋งในการเลือกตั้งท้องถิ่นของไต้หวันเมื่อวันเสาร์  ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน รับผิดชอบผลงานย่ำแย่ด้วยการลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรครัฐบาล ส่วนผลประชามติต่อต้านสมรสคู่รักเกย์เป็นฝ่ายชนะ

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน (กลาง) แถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เมื่อวันเสาร์ / AFP

    เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 ไต้หวันจัดการเลือกตั้งกลางเทอมในระดับท้องถิ่นทั้งผู้แทนสภาท้องถิ่น และระดับนายกเทศมนตรี, ผู้บริหารเมืองและเทศมณฑล พร้อมกันกับการลงประชามติ 10 ฉบับ

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2561 กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ โดยพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) พรรคฝ่ายค้านที่เป็นมิตรกับจีน กวาดที่นั่งนายกเทศมนตรีได้ใน 15 จาก 22 เมืองและเทศมณฑล เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ได้แค่ 6 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของไช่ ซึ่งเดิมมี 13 ที่นั่ง กลับเหลือเพียง 6 ที่นั่ง และยังพ่ายแพ้ในเมืองเกาสงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีด้วย ส่วนนายกเทศมนตรีนครไทเปนั้นยังไม่ประกาศผล

    ประธานาธิบดีไช่ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันตึงเครียดขึ้นนับแต่เธอชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2559 แถลงข่าวยอมรับความพ่ายแพ้ และได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคดีพีพีทันที ก่อคำถามว่าเธอจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าปี 2563 ได้หรือไม่

    สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยสื่อทางการจีนว่า ผลการเลือกตั้งสะท้อนเจตจำนงที่หนักแน่นของชาวไต้หวัน ที่หวังแบ่งปันประโยชน์ที่ได้จากการพัฒนาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอย่างสันติ และสะท้อนความประสงค์แรงกล้าที่หวังจะปรับปรุงเศรษฐกิจของไต้หวันและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

หลู เซี่ยวเยิน (กลาง) ผู้แทนพรรคก๊กมินตั๋งปราศรัยหลังชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีไทจงเมื่อวันเสาร์ / AFP

    ส่วนผลประชามติเกี่ยวกับการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน ปรากฏว่าประชามติที่เรียกร้องให้รับรองนิยามการแต่งงานในกฎหมายแพ่งของไต้หวันว่าเป็นการสมรสระหว่างชายและหญิงเท่านั้น ได้รับคะแนนสนับสนุนมากกว่า 7 ล้านคะแนน ส่วนประชามติอีกฉบับที่เรียกร้องให้การรับรองการสมรสของคนเพศเดียวกันควรบรรจุไว้ในกฎหมายแยกต่างหากนั้น ได้คะแนนมากกว่า 6 ล้านคะแนน ขณะที่ประชามติฉบับที่ 3 ที่เสนอโดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์เรียกร้องให้กฎหมายแพ่งยอมรับสิทธิการแต่งงานที่เท่าเทียมของคู่รักเพศเดียวกัน ได้คะแนนสนับสนุนเพียง 3 ล้านคะแนน

    ศาลสูงของไต้หวันเคยมีคำพิพากษาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ให้รัฐบาลออกกฎหมายรับรองการสมรสของคนเพศเดียวกันภายในเวลา 2 ปี แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ซึ่งเคยหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ให้คำมั่นจะผลักดันความเท่าเทียมในการแต่งงาน กลับเผชิญการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยม ทำให้กระบวนการนี้คืบหน้าช้ามาก

    ภายหลังประกาศผลประชามติ รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่าผลประชามตินี้ไม่กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามคำตัดสินของศาล คาดกันว่ารัฐบาลจะต้องผ่านกฎหมายฉบับพิเศษโดยไม่แก้ไขกฎหมายแพ่ง

    เมื่อวันเสาร์ ชาวไต้หวันยังได้ลงคะแนนคัดค้านประชามติที่ต้องการให้นักกีฬาไต้หวันเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 โดยใช้ชื่อว่า "ไต้หวัน" แทนที่จะเป็นชื่อ "จีนไทเป" เหมือนปกติ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่โกรธแค้น

    สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนกล่าวว่า ผลประชามตินี้แสดงให้เห็นว่าเจตจำนงของประชาชนในไต้หวันไม่เห็นด้วยกับการนำผลประโยชน์ของนักกีฬาไต้หวันมาเสี่ยง และความพยายามเรียกร้องเอกราชของไต้หวันย่อมล้มเหลว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"