
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสำหรับ คุณ ชูเกียรติ รุจนพรพจี อดีตนายแบงค์ใหญ่ที่ผันตัวเองมาเล่นธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ ในแบรนด์ เติมสบายพลัส ที่เวลานี้ติดลมบนสบายๆ ปีหน้าเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ พ่วงมาด้วย 2 ธุรกิจใหม่ที่มองข้ามไม่ได้ ว่ากันว่าตั้งใจจะเดินหน้ารุกให้โตใหญ่ยิ่งกว่า แต่ธุรกิจเติมเงินออนไลน์ ก็ยังลุยขยับขยาย มุ่งเน้นกลยุทธเพิ่มบริการให้ตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น ท้าชิงเบอร์หนึ่งด้านธุรกิจตู้เติมเงิน
ธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ "เติมสบายพลัส" ผลิตภัณฑ์ภายใต้ บริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรขั่น จำกัด ดูจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งผู้ใช้บริการเติมเงินออนไลน์ และผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจลงทุนตู้ จากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกันกับ คุณ ชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เติมสบายพลัส เมื่อเร็วๆนี้
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เติมสบายพลัส กล่าว "เราใช้ชื่อ กลุ่มธุรกิจว่า เติมสบายพลัส ก่อเกิดจากธุรกิจตู้เติมเงิน วันนี้ธุรกิจที่เรามุ่งเน้นในการทำตลาดมีอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกคือ ธุรกิจตู้เติมเงิน สองคือ ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ สามคือระบบจัดการศูนย์อาหาร อย่างเราเดินเข้าไปในศูนย์อาหารของ เทสโก โลตัส เราต้องนำเงินไปแลกบัตรบาร์โค๊ด อันนั้นเป็นระบบจัดการของบริษัทเราเอง"
"พูดถึงทิศทางของตู้เติมเงิน หลังจากธนาคารทุกแห่งมีการปรับตัวฟรีค่าธรรมเนียม ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ หลายคนหันมาใช้แอพพลิเคชั่นแบงค์ในการเติมเงินกันมากขึ้น จากเดิมผ่านตู้เติมเงิน หรือร้านสะดวกซื้อ มาผ่านแอพฯมากขึ้น อย่าง K Plus กับ SCB Easy ที่ได้มาร์เกตแชร์ไปจำนวนมาก ตู้เติมเงินที่ได้รับผลกระทบคือตู้ที่อยู่ในห้าง"
"ถามว่าเราได้รับผลกระทบบ้างไหม ก็มีจำนวนฐานลูกค้าบางคนที่หายไป ประมาณ 3-5% แต่ฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่ยังใช้บริการต่อ มียอดการเติมเงินที่มากขึ้น อย่างเช่น 20 บาท เป็น 50 บาท"
"ในปีนี้ตัวที่ทำรายได้สูงสุดยังคงเป็นธุรกิจเติมเงินอยู่ แต่ในปีหน้าทิศทางของเราคือ 50-60% จะมาจากเติมเงิน และอีก 40-50% จะมาจาก เวนดิ้ง แมชชีน กับ ระบบศูนย์อาหาร"
"สำหรับตู้เติมเงิน ตลาดยังมีศักยภาพอยู่ เพียงแต่จุดขยาย เราจะไม่ขยายในเมือง แต่จะไปขยายนอกเมืองมากขึ้น เพราะยังมีหลายพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการเจ้าถึงของบริการธนาคาร ซึ่งก็จะเป็นโอกาสให้กับเรา"
"สำหรับตู้เติมเงินปัจจุบันเรามีให้บริการอยู่ทั่วประเทศราว 48,000 ตู้ และจะขยายให้ถึง 53,000 ตู้ในสิ้นปีนี้ และในปีหน้าขั้นต่ำคือ 70,000 ตู้"
ตู้เติมสบายพลัส เวลานี้ ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 แล้ว หลังจากเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ได้เพียงไม่กี่ปี ขณะที่เบอรหนึ่งยังคงเป็น บุญเติม ที่คาดว่าน่าจะมีอยู่ราว 130,000 ตู้
รายได้เฉลี่ย ทางคุณชูเกียรติ บอกว่า มากกว่า 10,000 บาท ต่อตู้ ต่อเดือน ซึ่งหลักๆ คือเติมเงิน อีกอันคือ เราต้องรับชำระค่าสาธารณูปโภคได้ และเวลานี้เป็นรายแรกและรายเดียวในอุตสาหกรรมตู้เติมเงินที่เป็นตัวแทนอย่างถูกต้องจากการไฟฟ้าและการประปาส่วนภูมิภาคให้จ่ายบิลที่ตู้ได้เลย ค่าบริการบิลละ 10 บาท มี SMS ยืนยัน โดยการไฟฟ้าภูมิภาคจะส่งใบเสร็จให้ลูกค้าถึงบ้าน ส่วนการประปาภูมิภาค เอาโค้ดไปออกใบเสร็จภายหลัง นอกจากนั้นแล้วยังเป็น แบงกิ้ง เอเยนต์ อยู่ 2 ธนาคารคือ ธนาคารกสิกรไทย กับ ธนาคารกรุงไทย โดยอีกหนึ่งธนาคารที่ใกล้จะมาเป็นอีกหนึ่งแบงค์เอเยนต์ของเติมสบายพลัส คือ ธนาคารออมสิน นอกจากนัน้แล้วยังมีอีก 2 บริการที่แตกต่างคือ ลูกค้า TrueYou ซึ่งมีราว 10 ล้านบัญชี สามารถแลกค่าโทร และค่าเน็ตที่ตู้ได้ และซิมการ์ดทรู สามารถนำมาลงทะเบียนผ่านตู้ได้
พูดถึงรายได้ของเติมสบาย ปีทีผ่านมา ทางคุณชูเกียรติบอกว่าอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท โดยคาดหมายว่ารายได้ของกลุ่มจะขึ้นไปที่ 1200 ล้านบาท ซึ่งหลักๆก็มาจาก ค่าบริการ หรือ Transaction Fee และ การขายตู้ให้กับผู้ต้องการลงทุน

คุณชูเกียรติ กล่าวต่อ "ทิศทางในระยะยาว ของกลุ่มเติมสบายพลัสนั้น ธุรกิจตู้เติมเงินจะไม่ทำใหญ่มาก แต่อีก 2 ธุรกิจใหม่ของเราจะใหญ่มากๆ"
"2 ธุรกิจใหม่เพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่ง ที่เปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ บริการ ‘ตู้กดน้ำกระป๋องอัตโนมัติ เวนดิ้งพลัส’ หรือ ‘เวนดิ้ง แมชชีน 10 บาทก็สดชื่นได้’ ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 1,400 ตู้ ตั้งเป้าปลายปีนี้จะมียอดตู้เพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ตู้ เรียกได้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถยึดตำแหน่ง ผู้นำ 1 ใน 3 อุตสาหกรรมนี้แน่นอน ซึ่งในรอบสิบปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครทลายขึ้นไปได้ ส่วนในปี 62 เราจะมีการอัพเกรด Payment System โดยสามารถจ่ายผ่าน QR Code ไม่ว่าจะเป็น QR Prompt pay รวมถึง Wallet, Alipay, WeChat pay เพื่อรองรับหลากหลายไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย และคาดการณ์จะมียอดตู้ขั้นต่ำ 4,000 ตู้ ซึ่งถ้าทำได้ก็ถือว่านี่แหละคือจุดแข็งของเรา"
"และอีก 1 บริการที่กำลังเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ ธุรกิจระบบศูนย์อาหาร ภายใต้ชื่อ บริษัท สบาย ซิสเต็มส์ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SSM ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทน้องใหม่ในกลุ่มของเราทำธุรกิจเกี่ยวกับ ‘ระบบจัดการศูนย์อาหาร’ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในเรื่องการจัดการศูนย์อาหาร กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์อาหารในเทสโก้ โลตัส ทุกสาขา , ศูนย์อาหารท๊อป ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึง สวนอาหารในสวนน้ำ วานา นาวา ซึ่งระบบจัดการศูนย์อาหารของเรามียอดการใช้งานในศูนย์อาหารรวมกันทุกที่ ณ ปัจจุจันอยู่ที่ 12 ล้านรายการต่อเดือน และในตอนนี้เรากำลังพัฒนาระบบ Payment System ที่มีชื่อว่า All in One ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ อาทิ บัตร Rabbit , Promptpay QR Code , True Money QR , Alipay , WeChat pay รวมถึง บัตร VISA และ MASTERCARD ที่เป็น Pay wave ก็สามารถใช้ได้ จะทำให้ระบบจัดการศูนย์อาหารเป็นระบบจัดการที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย"
ส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมของทางเติมสบายพลัส หลายคนน่าจะผ่านตาไปแล้ว สำหรับ คลิปวิดีโอรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในชื่อเรื่อง "ลูกคนใหม่" เพื่อความเข้าใจผู้ป่วยจิตเวชหลังการรักษาหายแล้ว กับ โครงการ 1 แชร์ 1 บาท เพื่อสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ สมทบทุนเพื่อมอบโอกาสให้กับผู้ป่วยจิตเวช และทางกลุ่มเติมสบายพลัส ยังได้มีการบริจาคตู้เติมเงินให้แก่สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 10 ตู้ โรงพยาบาลราชวิถี 5 ตู้ รายได้เกิดจาการใช้บริการยกให้เป็นรายได้ของหน่วยงานนั้นๆ
นอกจากนั้น ยังได้ให้การสนับสนุนด้านกีฬากับ 2 สโมสร คือสโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ และสโมสร ฟุตซอลการท่าเรือ ช่วยให้เด็กรุ่นใหม่ หันมาสนใจเรื่องกีฬามากขึ้น
และด้านพระพุทธศาสนา ได้ร่วมสร้างพระประธานในอุโบสถ ณ วัดจำปา พุทธมณฑลสาย 1 หน้าตักกว้าง 9.99 เมตร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และร่วมทอดกฐินสามัคคีทุกปี
"โดยในปี 2562 เราต่อยอดกลยุทธ์ Emotional Marketing การเข้าถึงใจผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงในทุกบริการ, ทุกพื้นที่ และทุกความต้องการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำธุรกิจด้วยความเป็นธรรมและถูกต้อง ซึ่งทุกวันนี้ เติมสบายพลัสสามารถเข้าถึงจำนวนคนมากกว่า 10 ล้านครั้งต่อเดือน อีกทั้งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เพื่อเตรียมรุกเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้าจำนวนตู้เติมเงินออนไลน์ปี 2562 เพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 70,000 ตู้ คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ใน ปี 2561 จะสามารถทำกำไรได้ถึง 180-200 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายผลประกอบการใน ปี 2562 จะสามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 40-50% จากปี 61 ดังนั้นเป้าหมายของเติมสบายพลัส คือ มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้แพร่หลายที่สุด และนำไปสู่การ ชิงความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์และธุรกิจตู้กดน้ำอัตโนมัติในอนาคตได้อย่างแน่นอน” นายชูเกียรติ กล่าว

|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |