รัฐบาลทหารชิงความได้เปรียบ ก่อนปลดล็อกทางการเมือง    


เพิ่มเพื่อน    

                    
     ถือว่าเขี้ยวลากดินสุดๆ กับอาการยื้อสุดฤทธิ์ของ "คสช." ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะปลดล็อกให้นักการเมืองทำกิจกรรมได้ ภายหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา 
    และระยะเวลาบัดนี้ล่วงเลยมาเกือบ 2 เดือน!!!
    จนเป็นเหตุให้ 2 พรรคใหญ่ที่อุดมการณ์ทางการเมืองสุดขั้ว และพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก และพรรคการเมืองที่กำลังจะตั้งใหม่ออกมาประสานเสียงทิศทางเดียวกัน เรียกร้องให้ คสช.คลายกฎเหล็กเพื่อให้เตรียมตัวเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งภายในเดือน พ.ย.2561   
    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บรรดาพรรคการเมืองเป็นกังวลและออกมาเรียกร้องส่วนใหญ่นอกจากเรื่องสิ้นสภาพพรรคการเมือง อาทิ พรรคการเมืองเดิม ไม่สามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกของพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะครบกำหนดในวันที่ 5 มกราคม 2561    
    รวมทั้งยังมีโจทย์ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า คือภายใน 180 วัน หรือวันที่ 5 เม.ย.61 พรรคขนาดเล็กต้องหาสมาชิกให้ครบ 500 คน ต้องจัดหาทุนประเดิมให้ได้ 1 ล้านบาท ให้สมาชิก 500 คน ชำระค่าสมาชิกให้ครบถ้วน ต้องจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบ 4 ภาค และให้มีตัวแทนพรรคในจังหวัดที่ประสงค์จะส่งผู้สมัคร และต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคและเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหากทำไม่เสร็จในอีก 4 เดือนข้างหน้า และหากไม่ขอขยายเวลา กกต.ก็จะสั่งให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพเช่นกัน   
    นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่พรรคการเมืองยังเป็นกังวล เพราะระบบเลือกตั้งครั้งนี้เป็นระบบใหม่แบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ต้องเพิ่มให้มีระบบไพรมารีโหวต ที่ทุกพรรคการเมืองต้องจัดเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ โดยสมาชิกพรรคแต่ละพรรค 1 ครั้งก่อน แล้วจึงส่งไปลงเลือกตั้ง โดยให้ประชาชนเลือกในวันเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง และหากทำไม่ทันจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้
    กลับมาที่ฝั่ง คสช.สาเหตุที่ยังไม่ปลดล็อก นอกจากจะกังวลว่าจะทำให้การเมืองกระเพื่อม เพราะนักการเมืองจะพร้อมใจออกมาโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่ตลอด 4 ปีไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ซ้ำยังเติมด้วยปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างเช่นยางพารา หรือการวิพากษ์วิจารณ์ตัวผู้นำที่มีพฤติกรรมไม่สู้ดีทั้งการกระทำ และการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม
    แต่แท้จริงแล้วที่ไม่คลายกฎเหล็ก เพราะต้องการชิงความได้เปรียบทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารจะสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ที่สามารถหาเสียงล่วงหน้าผ่านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ ครม.สัญจร ที่เริ่มเดินสายลงพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งออกนโยบายประชารัฐ อาทิ บัตรคนจน ที่คล้ายประชานิยมของระบอบทักษิณ และที่สำคัญคือ การเตรียมพร้อมตั้งพรรคการเมืองของทหาร ที่สามารถสะสมเสบียงกรังจำนวนมากและไพร่พล ได้ก่อนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่บัดนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ และยังป้องกันกลุ่มป่วนที่ไม่ชอบทหาร เช่น การเคลื่อนไหวของนักศึกษา และนักวิชาการ และกลุ่มที่ไม่เอาระบบเผด็จการ ที่อาจจัดกิจกรรมทุกวันเพื่อขับไล่ทหารออกจากระบบการเมืองให้เสียรังวัด
    ถึงแม้ คสช.ต้องการยื้อการปลดล็อกให้มากที่สุด ซึ่งอย่างมากก็คงทำได้ภายในสิ้นปีนี้ แต่พอผ่านไปเมื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ อาจจะยอมผ่อนคลายให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้บ้างตามความเหมาะสม เนื่องจากสถานการณ์และความเป็นจริงบีบบังคับให้จำยอมต้องปล่อยวางลงบ้าง   
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ประเด็นการปลดล็อกช้า รัฐบาลจะจัดการให้เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามกรอบของกฎหมาย ยืนยันว่าพรรคการเมืองจะไม่เสียโอกาส ทั้งนักการเมืองหน้าใหม่และนักการเมืองหน้าเก่า ส่วนจะออกเป็นคำสั่งพิเศษรองรับการปลดล็อกที่ล่าช้าออกไปหรือไม่นั้น
    “ผมยังไม่รู้”!!!
    ทั้งนี้ สำหรับคำสั่งพิเศษที่คาดว่า คสช.อาจนำมาใช้ คืออำนาจมาตรา 44 โดยอนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมืองที่จำเป็นต่อการเตรียมพร้อมเลือกตั้งเท่านั้น และไม่เปิดโอกาสให้ชุมนุมทางการเมือง หรือแนวทางที่สองคือ รัฐบาลเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยเฉพาะแก้ไขบทเฉพาะกาล ขยายเวลาทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ถือเป็นช่องทางที่ง่ายเหมาะสมตามระบบปกติมากกว่าหนทางแรก ที่ไม่ควรใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่อ เพราะขณะนี้มีรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติไปแล้ว 
    ส่วนจะเป็นวิธีไหน ผู้มีอำนาจคงไม่สนใจ เพราะอย่างไรก็มาจากรัฐประหาร แต่เชื่อว่าหากปลดล็อกจริงเมื่อใด...พรรคทหารคงได้เปรียบทิ้งห่างคู่แข่งไปหลายช่วงตัว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"