ถนนทุกสายมุ่งสู่พลังประชารัฐ เพื่อไทยแตกละเอียด เลือดไหลไม่หยุด กลุ่มกำแพงเพชร-ลพบุรี-เชียงราย เผ่นซบ พปชร. "ภูมิธรรม" ยอมรับคาดไม่ถึง เหน็บส่วนใหญ่ที่ออกไปมีปัญหาคดีความ "เสรีพิศุทธ์" บ่นพึมพำ ซื้อขายยิ่งกว่าตลาดนัด เตือนกกต.กำลังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ "สุธรรม" ตะโกนลั่น จะมีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬภาค 2 ผิดคาด "สมชัย" สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โวอุดมการณ์เดียวกัน
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน มีความเคลื่อนไหวคึกคักตลอดทั้งวัน เนื่องจากอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มอดีต ส.ส.กำแพงเพชร ได้แก่ นายไผ่ ลิกค์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย, นายอนันต์ ผลอำนวย, นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายอนุชา นาคาศัย แกนนำพรรค เป็นผู้นำเข้าพรรคด้วยตัวเอง
นายสุริยะกล่าวว่า ที่อดีต ส.ส.กำแพงเพชรมาสมัครที่พรรคนี้ เพราะต้องการให้ประเทศไทยก้าวพ้นความขัดแย้ง จึงลาออกจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนรู้สึกยินดี
ด้านนายไผ่ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายพานทองแท้ ชินวัตร ยอมรับว่าตัดสินใจยาก เพราะต้องคิดให้ถี่ถ้วน แต่ได้ปรึกษากับทีมงานแล้ว และตกผลึกมาอย่างนี้ สาเหตุที่ตัดสินใจเพราะเราขัดแย้งกันมานาน จึงมองว่าพรรคนั้นจะต้องข้ามความขัดแย้งไปได้
เขากล่าวว่า การออกมาจากพรรคเพื่อไทยได้ทำตามขั้นตอน และถือว่าจากกันด้วยดีไม่มีปัญหา ไม่ได้ทะเลาะอะไร ขอให้สบายใจได้ และเมื่อมาอยู่พรรคนี้จะทำเต็มที่ ซึ่งนโยบายของพรรคนี้สามารถช่วยประชาชน จึงดูตรงนี้เป็นสำคัญ
"ยืนยันว่าการย้ายมาพรรคนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความ เพราะผมไม่มีคดีความ ไม่มีการต่อรองใดๆ และอดีต ส.ส.ตัดสินใจกันเองในกลุ่ม" นายไผ่ระบุ
ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์กล่าวว่า ที่มาพรรคนี้เพราะเชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ เพราะเรามองเป้าหมายสูงสุดคือความผาสุกของประชาชนกับประเทศชาติ จึงขออนุญาตพรรคเพื่อไทยย้ายมาอยู่ที่พรรคนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านั้นประกาศตัวอยู่คนละขั้วกับพรรค พปชร. พ.ต.ท.ไวพจน์ตอบว่า วันนี้พรรคพปชร.บอกชัดว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้ประเทศเดินได้ ขอย้ำว่าอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่เคยหายไปไหน ยังอยู่ในเลือดทุกหยด
"ยอมรับว่าแนวร่วมบางส่วนยังมองว่าพรรคนี้เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ขึ้นอยู่กับแนวความคิดของแต่ละคน บางคนจะคิดอย่างนั้นก็ต้องขอโทษ แต่ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประเทศและประชาชน"
ส่วนที่มองว่าการย้ายมาพรรคนี้จะทำให้เสียฐานเสียงที่เคยสนับสนุนเมื่ออยู่พรรคเดิมนั้น ต้องมีการชี้แจงว่าเรายังมีอุดมการณ์เหมือนเดิม แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อคนไทยทั้งประเทศ
เปล่าโดนบีบ
พ.ต.ท.ไวพจน์กล่าวว่า การมาพรรคนี้ไม่เกี่ยวกับการโดนบีบ และได้ปรึกษากันแล้ว รวมทั้งปรึกษากับนายวราเทพ รัตนากร ซึ่งตอบกลับมาว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน อดีต ส.ส. 5 คน จึงมาปรึกษากันนาน เพราะตนอยู่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน พรรคเพื่อไทย มานานและผูกพันมาก
"ต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ดูแลพวกผมและดูแลลูกๆ มาอย่างดี ขอโทษจริงๆ ที่ต้องย้ายมาอยู่นี่ ต้องมาเพื่อร่วมกันทำงาน” อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยผู้นี้กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าสมัครสมาชิกพรรคด้วย โดยกล่าวว่า สาเหตุที่มาสมัครสมาชิก พปชร.เพราะเห็นว่านโยบายเป็นที่ต้องการของประชาชน นอกจากนี้ก็เรื่องของความสงบเรียบร้อย ที่ก่อนหน้านี้มีการเดินขบวนกันไม่จบไม่สิ้น ซึ่งเราเห็นว่า พปชร.สามารถดูแลตรงนี้ได้ เขาระบุว่าได้รับการทาบทามจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และใช้เวลาตัดสินใจเพียงวันเดียว ส่วน ส.ส.คนอื่นๆ ใน จ.ลพบุรี จะตามมาด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะต้องกลับไปคุยกันในพื้นที่
เมื่อถามว่า จะทำให้พรรคเพื่อไทยระส่ำหรือไม่ เพราะเคยเป็นประธานวิปรัฐบาล นายอำนวยตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน ช่วงนั้นมันผ่านไปแล้ว มันคนละตอนกัน และที่ตนออกจากพรรคเพื่อไทยมาก็ไม่ได้แจ้งใคร ไม่ได้คุยกับใคร ไปเซ็นใบลาออก แล้วออกมาเลย ทั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ ที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน มีนโยบายที่ถูกใจประชาชน เช่น ราคาข้าว ที่ขณะนี้มีราคาดีขึ้น รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ที่โดนใจประชาชน ส่วนจะวางให้ตนดูแลในพื้นที่ จ.ลพบุรีหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเลขาธิการพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีอดีต ส.ส.อีกจำนวนมากที่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เช่น นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว หลานชายนายเสนาะ เทียนทอง
นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีต ส.ส.เชียงราย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย นำทีมผู้บริหารสมาชิก อบจ. ได้แก่ นายผจญ ใจกล้า, นายเสงี่ยม แสนพิชญ์ และนายบุญถิ่น นวลใหม่ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค
โดยนางรัตนากล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.เชียงราย เป็นบุคลากรที่ทำงานในพื้นที่มานาน มีความคุ้นเคยและใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน อีกทั้งมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐมีบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรค และมั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องจังหวัดเชียงรายได้
จากนั้นยังมีนักการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดลำปาง ประกอบด้วย นายดาชัย เอกปฐพี, นายเดชทวี ศรีวิชัย และ น.ส.นริสา ทองประสิทธิ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกด้วย
ลาออกเมื่อถึงเวลา
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ทั้ง 4 คนพูดชัดเจนมาโดยตลอดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะลาออกทันที ยืนยันว่าพรรคไม่มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์หรือคดีความใดๆ กับผู้ที่ย้ายเข้ามา เพราะไม่ถือว่าเป็นแนวทางของพรรค
"พรรคนี้จะมีแนวทางที่แตกต่างไปจากการทำการเมืองแบบเก่าๆ คือต้องการรับใช้ประชาชนด้วยการเน้นความสงบเรียบร้อย สร้างสรรค์ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วพรรคเราจะชูนโยบายอย่างไรบ้าง คนที่เข้ามาร่วม จะต้องเดินตามนโยบายของพรรคเรา โดยเราเปิดกว้างให้ทุกกลุ่ม ได้ตัดสินใจเข้ามา" นายอุตตมกล่าว
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า เสียงวิจารณ์ว่าพรรคดูด ส.ส.ไม่ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบใหม่นั้น หากคนที่ถูกดูด เห็นว่าพรรคนี้จะไม่สามารถเดินหน้าร่วมอุดมการณ์กันได้ ก็คงไม่มา ดังนั้นพรรคนี้จึงน่าจะเป็นความหวังของคนกลุ่มต่างๆ เพราะในทางการเมืองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดึงคน เพราะทุกคนต่างมีจุดยืนและความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อมีความคิดตรงกันเท่านั้น ถึงจะสามารถเดินไปด้วยกันได้ ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการดีลเรื่องคดีความกับใคร
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอำนวย คลังผา ว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ยอมรับว่าใจหาย แต่เมื่อเขาดูดกันเช่นนี้เราก็ต้องตั้งรับ ซึ่งในส่วนของผู้สมัครที่จะมาแทนคนที่ออกไปนั้นมีแล้ว และเท่าที่ได้ยินมาคนที่ออกไปส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องคดีก็เป็นเรื่องที่เราเห็นใจ แต่เมื่อเขาตัดสินใจแล้วก็ไม่ว่ากัน สุดท้ายผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรเขาก็ต้องยอมรับ
ส่วนกระแสข่าว น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมพรรคไทยรักษาชาตินั้น ไม่เป็นความจริง น.ส.ทัศนีย์ยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า เป็นการทุ่มดูดอย่างหนักจากพรรคพลังประชารัฐ ที่หลายคนมองว่ามีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน การดูด ส.ส.จากพรรคอื่นเข้ามา ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคเล็ก พรรคน้อย ดูดมาหมด เป็นการฉวยโอกาสขณะที่เป็นรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากประชาชน ปล้นเขามา แล้วก็มาใช้อำนาจต่างๆแบบนี้
"ดูดกัน ซื้อขายกัน สมัยนั้นเราอาจจะเห็นพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน หรือว่าพรรคไทยรักไทย ก็ใช้วิธีการนี้ แต่นั่นอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เขาต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง พรรคเดียวสามารถบริหารประเทศได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ยึดอำนาจมา แล้วส่งรัฐมนตรีมาอยู่ในพรรค ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งด้วย มาถึงเวลานี้ ไม่ใช่ 4 คนแล้ว กวาดมาทั้งพรรค คนที่ตามข่าวทั้งหลายทั้งปวง คุณเชื่อไหมว่าเขาซื้อ ส.ส. ซื้ออดีต ส.ส.มาทั้งนั้น ซื้อขายยิ่งกว่าตลาดนัด แต่ กกต.ก็ไม่ได้ทำอะไร นี่คือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นะ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
ชัยชนะโดยไม่ต้องสู้รบ
นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า ความพยายามที่จะเอาเปรียบคู่ต่อสู้ทุกรูปแบบ แทนที่จะเป็นบวกกลับจะทำให้เกิดแรงต้านมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดหมายดูเหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ชัยชนะโดยไม่ต้องสู้รบ ผู้กุมอำนาจแม้จะทุ่มเทสรรพกำลังทั้งกองทัพ ขุนพลเก่าๆ เงินทอง อาจไม่ชนะเสมอไป เพราะชัยชนะที่แท้จริง คือ ชนะใจประชาชน
นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ?กล่าวว่า การดูด ส.ส.ของ พปชร.มีทั้งการให้ผลประโยชน์ตอบแทน ต่อรองทางคดี ทำให้คิดถึงการกระทำของพรรคสามัคคีธรรมในสมัยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)? หลังการยึดอำนาจมีการสอบทรัพย์สินของรัฐมนตรี ถ้าใครมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคสามัคคีธรรม ก็จะถอนการตรวจสอบ แล้วสถานการณ์จะกลับมาเหมือนในอดีตที่ปัจจุบันมีการกระทำที่หยาบกว่า มีการเอารัฐมนตรีมาเป็นแกนนำพรรค มีการแจกเงินจำนวนมากกับประชาชนกว่า 98 โครงการ
"ผมเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬภาค 2 นอกจากนี้คนที่ถูกดูดก็เคยทำโครงการโฮปเวลล์ และโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ทำให้บ้านเมืองเสีย จริยธรรมเสีย และเวลาพูดถึง พปชร. ก็จะนึกถึงโครงการดังกล่าว เป็นสัญลักษณ์ของ พปชร." นายสุธรรมกล่าว
ส่วนพรรคการเมืองอื่นมีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงการจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยระบุว่า ขอบคุณน้ำใจไมตรีที่มีจากทุกพรรค มีพรรคการเมือง 7-8 พรรค ที่ติดต่อทาบทามให้ผมร่วมเป็นสมาชิกพรรค ทั้งพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก บ้างก็เป็นพรรคเก่า บ้างก็พรรคใหม่ หรือแม้กระทั่งพรรคที่ยังไม่เกิด ทุกพรรคเป็นพรรคสายประชาธิปไตย เพราะหากไม่สนับสนุนประชาธิปไตยคงไม่เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งทุกพรรคที่มาคุยล้วนเป็นเพื่อน ทั้งเพื่อนมัธยมที่เรียกกูมึงได้อย่างสนิทใจ เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนที่เคยทำงานร่วมกัน เพื่อนในสถาบันที่ไปศึกษาอบรมหลักสูตรต่างๆ
“เราพูดคุยแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลว่าบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าอย่างไร เราจะไม่ติดหล่มการเมืองเก่าที่นำพาประเทศไปสู่ความเสียหายได้อย่างไร แม้จะใช้เวลาคุยกันไม่มาก แต่ก็เป็นสาระ ทุกพรรคให้เกียรติผมเป็นอย่างมาก เมื่อกฎหมายกำหนดให้ประชาชนคนหนึ่งสามารถสมัครพรรคการเมืองได้เพียงพรรคเดียว ผมจึงต้องเลือก ผมไม่สามารถเลือกพรรคที่ดีที่สุดในสายตาของทุกคน เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแต่ละคนย่อมมีมุมมองค่านิยมที่แตกต่างกัน แต่เลือกอย่างไรให้เป็นผลดีที่สุดต่อประชาชนในสายตา มองมุมของผมเองต่างหากที่นำมาสู่การตัดสินใจในขั้นท้ายสุด วันอาทิตย์นี้ 14.00 น. ผมจะเดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์” นายสมชัยกล่าว
อุดมการณ์เดียวกัน
โดยหลังจากนั้น นายสมชัยได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดและอุดมการณ์ที่ไม่แตกต่างกัน คนภายในพรรคเองก็ยินดีที่จะให้มาทำงานร่วมกัน ส่วนจะไปร่วมงานส่วนใดนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจ
นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวในฐานะที่เป็นอาจารย์ทางรัฐศาสตร์ และมีฐานะเป็นคณบดีที่ดูแลสำนักวิชานิติศาสตร์ ได้ศึกษาทำความเข้าใจทางกฎหมายต่างๆ พบว่าทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง รวมถึงโครงสร้างทางการเมืองที่เป็นอยู่ถูกร่างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์บางฝ่ายในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์จริงๆ
ดังนั้นจึงอยากเข้ามาผลักดันเพื่อเปลี่ยนแปลงยกร่างกติกาเหล่านี้เสียใหม่ ให้สังคมส่วนรวมได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะการออกแบบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถทำให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งได้ กฎหมายพรรคการเมืองที่ดูเหมือนจะดี แต่พอเอามาประกอบกับกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. กลับทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง พรรคเติบโตยาก กระบวนการต่างๆ ไม่ส่งเสริมต่อการพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นพรรคที่เข้มแข็งได้
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด ก็ต้องทำความใจกับประชาชนให้ดีเสียก่อน ถ้าสังคมเห็นชอบด้วย ก็เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงกติกาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก และขอย้ำว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เปลี่ยนเพื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
นายสมชัยยืนยันว่า การสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่การเลือกข้างทางการเมือง แต่เข้ามาเพราะเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้ ความเป็นตัวของตัวเอง ความมีหลักการในฐานะนักวิชาการยังคงอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ได้มีที่ยืนที่ชัดเจนเท่านั้น
เมื่อถามว่า ตั้งเป้าอนาคตจะเป็น ส.ส.หรือไม่ เขาตอบว่า ไม่ได้คิดอะไร เป็นเรื่องของอนาคต พรรคอาจจะมีคนที่ดีและมีความเหมาะสมอยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเป็น ส.ส. แต่ก็แล้วแต่ทางพรรค อาจจะช่วยทำงานสนับสนุนพรรคอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ก็ได้ เพราะตอนนี้ก็ยังเป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยที่ภาคใต้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบว่านายสมชัยติดต่อใครไว้ ซึ่งได้คุยกันครั้งล่าสุดเมื่อนานมาแล้ว ในตอนที่นายสมชัยเพิ่งพ้นจากตำแหน่ง กกต. แต่ตอนนี้เพิ่งทราบข่าว ก็ยินดีต้อนรับ เบื้องต้นนายสมชัยคงมาสมัครสมาชิกพรรคก่อน แล้วจึงจะมาพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะมามีบทบาทในส่วนไหน
"มาร์ค"คิดไว้แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) รวมถึงจะมีอดีต ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 5 คนจะย้ายไปอยู่ด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนรู้เรื่องนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีปัญหา ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะตัดสินใจ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ คิดว่าเรามีผู้สมัครที่มีความพร้อมและมีคุณภาพอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเราได้เตรียมผู้สมัครไว้ครบทุกพื้นที่แล้ว ไม่ได้ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอะไร เราคิดว่าเรามีผู้สมัครที่เข้มแข็ง และที่สำคัญนโยบายและจุดยืนของเราในการแก้ปัญหาในพื้นที่ก็มีความชัดเจน
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอบพระคุณทุกท่านที่เสนอตัวเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งมีประชาชนทั่วไปที่แสดงเจตจำนงมากเช่นกัน พรรคยินดีต้อนรับเพื่อมาร่วมต่อสู้กันด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ทุกคนที่เข้ามาที่พรรคเพราะเชื่อในอุดมการณ์ และเชื่อว่าเป็นหลักให้กับบ้านเมืองได้ในวันข้างหน้า พรรคจะไม่ใช่พรรคการเมืองตัวแปร แต่เราจะเป็นสถาบันทางการเมืองหลักให้กับบ้านเมือง 72 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าช่วงเวลาใด พรรคยืนหยัดอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์อย่างมั่นคง
วันเดียวกันนี้ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่าจะย้ายไปทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่น โดยยืนยันว่ายังคงทำงานในฐานะเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ภายใต้ชื่อของพรรคชาติไทยพัฒนา แม้ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อรับทราบความชัดเจน ตนพร้อมเดินหน้าหาเสียงและลุยเลือกตั้งทันที
นายเสมอกันยอมรับว่า ก่อนหน้านั้นได้พูดคุยกับเพื่อนนักการเมืองจากหลายพรรค โดยเฉพาะกลุ่มยังบลัดของชาติไทยพัฒนา ที่ย้ายไปทำงานกับพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง, นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ แต่เป็นเพียงพูดคุยถึงบทบาทและการทำงานในพรรคใหม่เท่านั้น
"เขาก็พูดว่ามาทำงานกับภูมิใจไทยสนุก มีเรื่องให้ทำเยอะ และกลัวว่าผมอยู่กับชาติไทยแล้วจะเหงา แต่ผมยืนยันว่ายังไงจะยังอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนที่หลายฝ่ายจับตาถึงความขัดแย้งภายในพรรค ทั้งเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ทับซ้อนกัน และอาจเป็นเหตุที่ทำให้ต้องย้ายออกนั้น ผมยืนยันว่าไม่มีปัญหาและความขัดแย้งใดๆ" นายเสมอกันกล่าว
"กำนัน" เดินที่ชุมพร
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองหลังสวน อ.หลังสวน ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 3 ของ จ.ชุมพร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. นำทีมงานพรรครวมพลังชาติไทย เดินทางมาเชิญชวนชาวอำเภอหลังสวน ซึ่งเป็นอำเภอใหญ่อันดับสองของจังหวัด เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างชื่นมื่น ซึ่งเป็นการเดินคารวะชาวหลังสวนมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับ กปปส.ให้การต้อนรับและขอถ่ายรูปกันจำนวนมาก
นายสุเทพและคณะทีมงานพรรครวมพลังชาติไทยได้เดินยกมือไหว้ขอให้ช่วยกันสมัครสมาชิกพรรค โดยชาวบ้านเข้าโอบกอดทักทายและขอถ่ายภาพอย่างคุ้นเคยและเป็นกันเอง มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งแนะนำตัวเองว่าเคยร่วมต่อสู้ในนาม กปปส.มาแล้ว พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้นายสุเทพสู้ต่อไปเพื่อประเทศชาติ
ขณะที่นายสุเทพยืนยันกับชาวบ้านว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือรับตำแหน่งใดๆ ในพรรคนี้ แต่ได้ออกมาเพื่อช่วยกันรวมรวบผู้ที่รักชาติร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองที่จะทำงานให้กับประเทศชาติ
ส่วนชาวบ้านบอกว่า ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเพราะต้องการให้ปฏิรูปประเทศตามสัญญาก่อน แต่ส่วนใหญ่ได้สะท้อนปัญหาทางด้านเศรษฐกิจว่าสินค้าราคาแพง แต่ผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ปาล์มน้ำมัน ยางพารามีราคา มะพร้าวราคาตกต่ำอย่างมาก ซึ่งนายสุเทพบอกว่าก็จะเข้าไปแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวให้กับชาวบ้านด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมายัง จ.ชุมพร ไม่มีนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี และนายสุพล จุลใส หรือลูกช้าง นายก อบจ.ชุมพร สองพี่น้อง อดีตแกนนำ กปปส.ขุนศึกจอมบู๊คู่กายมาต้อนรับนายสุเทพแต่อย่างใด
ที่จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ได้นำคณะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ประมาณ 50 คน อาทิ นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีต รมว.พลังงาน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.เขต 2 โคราช, นายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก ลูกชาย พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และน้องวิว เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2004 เป็นต้น เดินทางมาที่อนุสรณ์สถานพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ผู้ก่อตั้งพรรคชาติพัฒนา ที่บริเวณที่พักริมทางลำตะคอง หรือสวนน้าชาติ ถ.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อวางช่อดอกไม้ขอพร
เจตนารมณ์น้าชาติ
พร้อมกับกล่าวคำปฏิญาณตนที่จะทำงานการเมืองเพื่อชาติ ตามเจตนารมณ์ของ “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ คือยึดถือคำว่า “ไม่มีปัญหา” มาใช้กับการเสนอนโยบายพัฒนาประเทศ
ที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่บริเวณหน้าโฮมโปร ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคด้วยรถรับสมัครสมาชิกเคลื่อนที่ ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคตลอดเวลา
โดยนายปรีชาพลให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกพรรคครั้งแรกนอกพื้นที่ที่ทำการพรรค เพราะตั้งแต่เราเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ประชาชนถามเข้ามามากว่าจะสมัครสมาชิกได้ที่ไหน ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก พรรคจึงจัดรถรับสมาชิกพรรคเคลื่อนที่ โดยที่จะได้เดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เมื่อถามว่า วันที่ 7 ธ.ค.นี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ กกต. จะเปิดให้มีการประชุมร่วมกันกับพรรคการเมือง ซึ่งในส่วนของ ทษช.จะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพลตอบว่า การประชุมร่วมกันของพรรคการเมืองไม่ใช่หน้าที่ของ คสช. เพราะการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. นอกจากนี้รัฐบาลถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะลงสู่สนามเลือกตั้ง ดังนั้นพรรคจะไม่ไปร่วมการประชุม
"ผมคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น และคิดว่าไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรมากมาย ผมอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ กกต.ทำงานอย่างอิสระ เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆ มีเวลาเตรียมตัว และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด และเมื่อรัฐบาลประกาศชัดมาระยะหนึ่งแล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 พี่น้องประชาชนก็รอคอย และพรรคการเมืองก็รอคอย หากมีพรรคการเมืองใดไม่พร้อม ผมก็คิดว่าไม่เป็นธรรมกับทุกๆ พรรคการเมือง ผมคิดว่าเราต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชน โดยที่จะต้องไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้ง"
เมื่อถามอีกว่า หากไม่เข้าร่วมประชุมที่จะเกิดขึ้น แล้วมีมติที่ประชุมออกมาให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง ร.ท.ปรีชาพลตอบว่า ถ้าเขาจะเลื่อนเขาก็ต้องตอบประชาชน เพราะเเม้เราจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมประชุม เขาก็คงไม่ฟังเสียงเราเท่าไรหรอก ดังนั้นจึงขอให้ดูที่ประชาชนเป็นหลัก ที่สำคัญคือ กกต. ซึ่งขณะนี้สังคมมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการทำหน้าที่ว่าถูกแทรกแซงหรือไม่ ขอก็ให้ท่านให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่กำลังจับจ้องการเลือกตั้งครั้งนี้
"สันธนะ"ไหลไปเพื่อไทย
ที่โรงแรมฟูราม่า อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ มีการจัดประชุมจัดตั้งสาขาพรรคประชานิยมประจำเขตภาคเหนือ นำโดย พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรค และ พล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ เลขาธิการพรรค รวมทั้งกรรมการบริหารพรรค เข้าร่วมประชุม และพบปะสมาชิก เพื่อเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ตั้งสาขาพรรคประจำภาคเหนือและเลือกผู้บริหารพรรคในพื้นที่ภาคเหนือ
พล.ต.อ.ยงยุทธกล่าวว่า พรรคพร้อมที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้ามีโอกาส เพราะก็ไม่เห็นมีความเสียหาย อีกทั้งบ้านเมืองก็สงบสุข และมีนโยบายที่ตรงกับพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มไลน์ผู้สื่อข่าวมีการแชร์ภาพเอกสารใบเสร็จรับเงินของพรรคเพื่อไทย ระบุชื่อนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล และที่ปรึกษาบริษัทตลาดใหม่ดอนเมือง จ่ายค่าสมาชิกตลอดชีพให้กับพรรคเพื่อไทย 2,000 บาท
โดยนายสันธนะให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ตนได้เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พ.ย. เนื่องจากจะครบกำหนดตามกฎหมายที่หากจะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อนการเลือกตั้ง 90 วัน คือภายในวันที่ 26 พ.ย. นี้ ถ้าไม่มีการเลื่อนเลือกตั้ง
ส่วนการตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยนั้น เห็นว่าต้องก้าวข้าม แม้ตนจะเป็นจำเลยอยู่ในคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน แต่สถานการณ์วันนี้มันเปลี่ยนไป ตนถูกกระทำจากอำนาจ ซึ่งมีข้อมูลมากมาย ภายหลังคงได้รับรู้รับทราบ ขณะนี้พูดทั้งหมดไม่ได้ ตนก็ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ศาลแขวงดอนเมืองก็นัดฟังคำพิพากษาคดีที่กล่าวหาตนขัดขวางดูหมิ่นเจ้าพนักงานกรณีตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมืองด้วย
เมื่อถามถึงการเข้าพรรคเพื่อไทยได้รับการเชิญชวนจากใคร และจะอธิบายอย่างไรกับการที่เคยเป็นพันธมิตรฯ มาก่อน นายสันธนะระบุว่า เป็นการตัดสินใจจากที่ตนต่อสู้มาตลอด บางคนยอมกับความไม่ชอบธรรมเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง วันนี้มีการเอากฎหมายมาปิดปาก ใช้อำนาจรัฐทำทุกอย่าง ตนไม่ยอม เราสู้มาแบบนี้สังคมมองเห็น นักการเมืองทุกพรรคเราก็รู้จักกันมา ก่อนหน้านี้ก็คุยกันอยู่ ที่ตนเลือกพรรคนี้เพราะนโยบาย ตนเน้นต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรม ให้ตนได้ทำงานในส่วนที่เขาพร้อมให้โอกาส ตนขอไว้แล้วจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตในกรุงเทพฯ นักการเมืองหรือนโยบายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไปทุกพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยสอดคล้องกับแนวทางการต่อสู้ของตน พร้อมเปิดตัวอยู่แล้ว ในสถานการณ์บังคับถ้าไม่ทำให้บ้านเมืองตอนนี้จะทำตอนไหน
ประชาธิปไตยต้องเรียบร้อย
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้คนไทยทุกคนระลึกว่าประชาธิปไตยต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
"นายกฯ กล่าวว่าที่ผ่านมาบางคนอาจเข้าใจว่าประชาธิปไตยคือภาวะไร้ขีดจำกัด สามารถทำอะไรก็ได้อย่างเสรี แต่แท้จริงการแสดงออกทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ให้ความเคารพเสียงส่วนใหญ่ และให้เกียรติเสียงส่วนน้อย ไม่ใช้คนบางกลุ่มเป็นเครื่องมือก่อความวุ่นวายหรือคัดค้านการพัฒนาทุกเรื่อง"
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้แต่ต้น คือการยุติความขัดแย้งและความไม่สงบ การวางรากฐานเพื่อปฏิรูปประเทศ และจัดการเลือกตั้งเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จึงอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจและเตรียมตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ โดยพิจารณาเลือกคนดีและคนเก่งให้เข้ามาทำหน้าที่แทนเราในการพัฒนาประเทศชาติ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ตนพร้อมจะหลับหูหลับตา เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 24 ก.พ.2562 ส่วนถ้าผู้มีอำนาจจะหลับหูหลับตาเลื่อน ก็เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนเอง ถ้าเห็นว่าเลื่อนแล้วพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่จะชิงเป็นฝ่ายได้เปรียบ ก็เอาที่สบายใจ แต่ตนเห็นว่ายิ่งเลื่อนยิ่งเสียมากกว่า
ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคไทยรักษาชาตินั้นยังคงขับเคลื่อนไปสู่การเลือกตั้ง โดยในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ตนจะรอต้อนรับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคที่โรงแรมราวดี จ.นครศรีธรรมราช เพื่อประชุมเลือกตั้งกรรมการสาขาพรรคภาคใต้ และพบปะประชาชนเพื่อเชิญชวนเป็นสมาชิกพรรค แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เชื่อมั่นว่าด้วยจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องประชาธิปไตยและนโยบาย ซึ่งจะมุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง จะได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเท่าที่ทราบ วันนี้การตัดสินใจทางการเมืองของคนใต้จำนวนมากพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ถือเป็นโอกาสสำคัญของทุกพรรคที่จะทำงานสร้างการยอมรับจากประชาชน
“พรรคไทยรักษาชาติคงยังไม่ประกาศเป้าหมายว่าจะได้ ส.ส.จากภาคใต้กี่ที่นั่ง แต่จะทุ่มเทสุดกำลังเพื่อให้มีที่นั่งเล็กๆ ในหัวใจคนใต้ หลังจากนี้จะจัดทีมแกนนำของพรรคซึ่งหลายคนเป็นคนใต้กระจายกันลงพื้นที่ ทันทีที่ปลดล็อกจะเดินหน้าแคมเปญหาเสียง ซึ่งเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว” นายณัฐวุฒิกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |