24 พ.ย. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา   เกิดอุบัติเหตุ รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กฉ 9053 ลพบุรี  ที่ขับมาบนถนนสายชัยนาท -สิงห์บุรี   เกิดเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทาน  บริเวณ ม.2 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท  ทำให้ หญิงสาว 2 คน และเด็กเล็กอีก 2 คน  ที่อยู่ในรถเก๋งหวิดจมน้ำเสียชีวิต    โชคดีที่มีชายวัย 52 ปี เป็นพลเมืองดี  กระโดดน้ำลงไปช่วยชีวิต ทั้ง 4 คน ออกจากรถเก๋งมาได้ทันเวลา  ก่อนที่รถจะจมน้ำมิดหายไปทั้งคัน  ซึ่งทั้ง 4 คนได้รับบาดเจ็บ ศรีษะแตก และมีอาการเจ็บที่หลัง  พลเมืองดีจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลสรรพยา  อยู่ในความดูแลของแพทย์อาการปลอดภัยแล้ว

ร.ต.อ.สมพง ชูกุศล  พนักงานสอบสวน สภ.สรรพยา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ  และประสานให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท นำรถลากไปกู้รถเก๋งขึ้นจากน้ำ พบสภาพหน้ารถพังยับ กระจกและยางรถด้านหน้าแตก   

จากการสอบสวน นายจำรัส พรหมแก้ว อายุ 52 ปี  ฮีโร่ผู้ที่กระโดดลงน้ำไปช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุ เล่าว่า ขณะที่ตนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดัง  จึงออกมาดู เห็นรถเก๋งลงไปอยู่ในคลองชลประทาน จมน้ำไปแล้วเกือบครึ่งคัน  จึงรีบกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือ นำตัวเด็ก 2 คน ออกมาจากรถ และบอกให้ผู้หญิงอีก 2คน พยายามตั้งสติ ให้พาตัวเองออกมาจากรถ โดยห้ามไม่ให้มากอดคอตน เพราะอาจจะทำให้จมน้ำกันทั้งหมด   ผู้หญิงจึงตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งไปได้  ตนจึงพาเด็ก 2 คนขึ้นฝั่ง  จากนั้นก็มีพลเมืองดีที่ขับรถผ่านไปมา จอดรถพาทั้งหมดไปส่งโรงพยาบาล   

นายจำรัส กล่าวว่ารู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้ช่วยชีวิตทั้ง 4 คนไว้ได้ แม้ตนจะได้รับบาดเจ็บที่แขน เพราะถูกกระจกบาด แต่ก็เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น   

ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นทราบว่า หญิงสาว อายุ 22 ปี ได้ขับรถเก๋งไปรับ พี่สาว อายุ 23 ปี กับหลานสาว อายุ 5 ขวบ และหลานชาย อายุ 3 ขวบ  แถวบริเวณวัดกำแพง อ.สรรพยา  เพื่อจะกลับบ้านที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท   แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้หักหลบรถจักรยานยนต์  ทำให้รถเสียหลัก พุ่งลงไปในคลองชลประทาน หน้ารถกระแทกน้ำอย่างแรง จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว  ส่วนสาเหตุที่แท้จริง ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนต่อไป.