หวย30ล.พึ่งศาลหลักเมือง ลุงจรูญท้าครูปรีชาสาบาน


เพิ่มเพื่อน    

"ลุงจรูญ" ท้า "ครูปรีชา-แม่ค้า-ตร."   สาบานหน้าศาลหลักเมืองกาญจน์ พร้อมวอน "บิ๊กตู่" ให้ความเป็นธรรม สั่งหน่วยงานกลางพิสูจน์หวย 30 ล้าน   จนท.ออกหมายเรียกรับทราบ 2 ข้อหา 9 ก.พ. 
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ และนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา แถลงเป็นทางการ หลังจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สรุปว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.2560 จำนวน 5 ใบ มูลค่ารวม 30 ล้านบาท โดยมีนายศุภกร สุพรรณรังษี ทนายความ ตัวแทนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม ร่วมแถลงด้วยว่า เป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด และไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการสอบสวน ยืนยันว่าเป็นผู้ซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลมาจริง โดยจะขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า การที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อหายักยอกทรัพย์ตกหล่น และข้อหารับของโจร รู้สึกรับไม่ได้ และเชื่อว่าพยานหลักฐานที่อีกฝ่ายนำมากล่าวอ้างเป็นพยานเท็จที่สร้างขึ้นมา โดยเฉพาะพยานบุคคลที่อ้างว่าเห็นว่าตนเก็บลอตเตอรี่ได้ รวมทั้งคลิปจากกล้องวงจรปิด แต่กลับไม่สนใจผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์มาร่วมพิจารณา สิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องนี้ทำกันเป็นขบวนการ เชื่อว่าประชาชนที่เฝ้าติดตามข่าวนี้อยู่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เป็นกลาง ที่พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายลงมาหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฏ และอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
    "เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. จะพาครอบครัวไปสาบานที่ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และขอท้าครูปรีชา รวมทั้งแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่เป็นพยานและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทุกนาย มาร่วมสาบาน หากทุกคนมั่นใจว่าตัวเองพูดความจริงทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใครพูดความจริงก็ขอให้มีความเจริญรุ่งเรือง แต่หากใครโกหกพูดเท็จปั้นเรื่องปั้นราว ก็ขอให้ฉิบหายล่มจมติดคุกติดตะราง" ร.ต.ท.จรูญระบุ
     อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีความได้นำพยานหลักฐานชิ้นสำคัญมอบให้กับทนายความนำไปต่อสู้คดีในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถนำไปโต้แย้งและลบล้างข้อกล่าวหาได้
    นายษิทราได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า  “ทราบว่าครอบครัว ร.ต.ท.จรูญเปิดบ้านแถลงข่าว แล้วได้ท้าให้อีกฝ่ายไปสาบานต่อสถานที่อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดกาญจนบุรี ยิ่งทำให้เชื่อมั่นเข้าไปอีกว่าไม่ได้ช่วยคนผิด จริงอยู่ทุกอย่างต้องไปสู้กันบนศาล หลักฐานต่างๆ ได้เตรียมไว้เกือบจะ 100% แล้ว แต่หากครูปรีชาไม่ได้โกหกจริง ให้ฟ้าดินเป็นพยาน และขอให้ครูปรีชาเจอแต่สิ่งดีๆ นับแต่วันนี้
       "อยากจะเสริมคุณลุงจรูญนิดหน่อย ถึงหัวหน้าขบวนการที่เป็นนายตำรวจระดับสูงที่เชิญไปบ้าน และคนทำคดีทุกคน ท้าสาบานต่อองค์ ร.5 เสด็จเตี่ย เจ้าพ่อสามพราน หลวงพ่อนาคเลยด้วยว่า หากท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนคดีให้กับครูปรีชา หรือมีส่วนได้เสียในเงินดังกล่าว ขอให้ท่านพบแต่ความสุขความเจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานเติบโต แต่หากท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีด้วยใจไม่บริสุทธิ์ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ครูปรีชาได้รับประโยชน์ วางตัวไม่เป็นกลาง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียหากครูปรีชาชนะ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จงลงโทษทั้งตัวท่านและผู้กระทำการทุกคน ชีวิตล่มจม ครอบครัวฉิบหาย ต้องออกจากราชการ และชีวิตบั้นปลายต้องไปอยู่ในคุกทุกคน" นายษิทราระบุ
    ทางด้านครูปรีชากล่าวว่า ตอนนี้ข้อเท็จจริงเริ่มปรากฏ และเลยเวลาที่จะมาสาบานต่อศาลหลักเมืองแล้ว คงต้องไปสาบานต่อศาลยุติธรรมที่มีความเที่ยงตรงและให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ตนไม่ไปร่วมสาบานที่ศาลหลักเมือง แต่อยากบอกว่า ควรเตรียมตัวไปสาบานต่อศาลยุติธรรม ความจริงคือความจริง ไม่อยากตอบโต้อะไร ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปจนได้ข้อยุติ 
    นางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว ผู้ค้าสลากรายใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี พยานคนสำคัญของฝ่ายครูปรีชา กล่าวว่า ดีใจกับครูปรีชาด้วย อีกทั้งยังเป็นการพิสูจน์ว่าแม่ค้าลอตเตอรี่ไม่ได้เป็นแก๊ง 18 มงกุฎ หรือเป็นขบวนการต้มตุ๋นตามที่กล่าวอ้าง ส่วนที่ ร.ต.ท.จรูญ ท้าให้ไปสาบานที่ศาลหลักเมืองกาญจนบุรีนั้น บอกเลยว่าเจ๊เกียวเป็นลูกเมืองกาญจน์ เป็นลูกแม่น้ำแคว และเป็นลูกศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นจะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ ไม่ได้กลัว และพร้อมที่จะไปสาบาน โดยเชื่อว่าแม่ค้าลอตเตอรี่ทั้งหมดพร้อมที่จะไปสาบานด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปขึ้นศาล ก็ต้องสาบานอยู่แล้ว แต่คำสาบานไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิดใครถูก ซึ่งศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย
    ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ได้ประสานพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ทำการออกหมายเรียก ร.ต.ท.จรูญไปพบเพื่อสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาใน 2 ข้อหาดังกล่าว เป็นหมายแรกแล้ว โดยได้กำหนดนัดหมายในวันที่ 9 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
    พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้นำกำลังลงพื้นที่ตลาดสดเรดซิตี้ เพื่อติดตามหากล้องวงจรปิด ตามที่ทางนายปรีชากล่าวอ้างว่ามี แต่ยังไม่พบกล้องดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ขาเหล็กสำหรับติดกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่เสาไฟฟ้าบริเวณใกล้กับศาลพระพรหมเท่านั้น แต่แม่ค้าที่อยู่บริเวณดังกล่าวบอกว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ได้ถูกถอดไปตั้งแต่ประมาณ 2 ปีที่แล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"