กลาโหมเปิดรับม็อบมาให้กำลังใจ  "ประวิตร" ชูป้ายเชียร์ให้ลุงป้อมอยู่ต่อ แกนนำอ้างไม่ได้นัดแนะมา เชื่อมั่น รมว.กห.ทำประโยชน์ให้มากมาย ซัดเป็นเรื่องการเมือง "วีระ-วัฒนา" ย้อนศรชุมนุมเกิน 5 คนในที่สาธารณะรัศมี 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวัง มีความผิดเช่นเดียวกับกลุ่มทวงสิทธิ์เลือกตั้งที่สกายวอล์ก จี้ "ศรีวราห์" ออกหมายเรียก เตือนโดน ม.157 ขณะที่โลกออนไลน์เปิดโหวต กว่า 96% อยากให้ป้อมลาออกไปพักผ่อน 
    ช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่หน้ากระทรวงกลาโหม  ได้มีตัวแทนชาวบ้านคลองลาดพร้าว กลุ่มชาวบ้านตลิ่งชัน กลุ่มพ่อค้า อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวบ้าน จ.สมุทรปราการ ราว 40 คน เดินทางมาให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังกรณีที่กล่าวเปิดใจว่า หากประชาชนไม่ต้องการตนเองก็พร้อมจะออกจากตำแหน่ง โดยมี พล.อ.รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทน พล.อ.ประวิตร มาต้อนรับ
    โดย พล.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทน ซึ่งตนจะนำเรียนท่านประวิตรว่ามีประขาชนหลายจังหวัดมาให้กำลังใจ และขอขอบคุณทุกกลุ่มที่มาในวันนี้
    ขณะที่ประชาชนที่มาให้กำลังใจพูดเสียงเดียวกันว่า  ที่มาวันนี้ไม่ได้นัดแนะมา หรือจัดตั้งกลุ่มมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประวิตร เพราะที่ผ่านมาท่านทำประโยชน์ให้มากมาย แต่ที่ผ่านมามองว่าเป็นเรื่องการเมือง และอยากให้ท่านสุขภาพแข็งแรง 
    ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนถือป้ายข้อความสนับสนุน พล.อ.ประวิตร อาทิ "ขอให้กำลังใจรองนายกฯ ปราบปรามยาเสพติด และปราบมาเฟียต่างชาติ",  "พวกเราอยากให้ลุงป้อมอยู่ต่อ",  "ประชาชนต้องการลุงป้อม", "หยุดทำลายลุงป้อม",  "LOVE ลุงป้อม" และ "คนดี ทำดี ไม่มีแพ้ คนชายแดนบูรพา"
     สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ต้อนรับคณะนายซง ยองมู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เข้าเยี่ยมคำนับเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีใต้       ส่วนช่วงบ่าย เดินทางไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มอบนโยบายเพื่อเตรียมปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศครั้งใหญ่ ควบคู่กับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล 
     ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพกลุ่มชาวบ้านตลิ่งชัน กลุ่มพ่อค้า อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวบ้าน จ.สมุทรปราการ ราว 40 คน เดินทางมาที่หน้ากระทรวงกลาโหม พร้อมถือป้ายให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร โดยตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “หลักฐานการชุมนุมในที่สาธารณะเกิน 5 คน ห่างจากพระบรมมหาราชวังไม่เกิน 50 เมตร เป็นการชุมนุมทางการเมืองให้กำลังใจรองนายกฯ พล.ต.อ.ศรีวราห์ อย่าละเว้นนะ ต้องดำเนินคดีด้วย หากไม่ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้เหมือนที่ดำเนินคดีผม ผมจะดำเนินคดีกับคุณศรีวราห์ตาม ป.อาญา ม.157”
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ออกหมายเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเพิ่มเติม รวม 39 คน ซึ่งมีนายวีระรวมอยู่ด้วย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ฐานร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะ ในรัศมี 150 เมตร จากวังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 มาตรา 7 วรรคแรก โดยให้ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 2 ก.พ.นี้
จี้เอาผิดม็อบเชียร์ใกล้วัง
    ส่วนนายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องเดียวกัน ระบุว่า “ม็อบเชียร์ก็ผิดเหมือนกัน” มีเนื้อหา เห็นว่าการแสดงออกของประชาชนที่หน้ากระทรวงกลาโหม ที่มาเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตรอยู่ในตำแหน่งต่อไป เป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับประชาชนที่ได้มาทวงสิทธิเลือกตั้งที่สกายวอล์กก็ถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายเช่นกัน แต่กิจกรรมที่สกายวอล์กถูก คสช.นำมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในขณะที่ สตช. โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์เป็นผู้รับผิดชอบ รีบออกมารับลูกดำเนินคดีกับประชาชนอย่างทันควัน
    "ผมจึงส่งลิงก์ข่าวม็อบที่หน้ากระทรวงกลาโหมมายังหัวหน้า คสช. ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้รับผิดชอบดำเนินคดี เพื่อสั่งการให้ ผกก.สน.พระราชวังดำเนินคดีกับม็อบที่มาเชียร์ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถือเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 และขัดต่อ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 7 เนื่องจากกระทรวงกลาโหมตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระแก้วอันเป็นพระบรมมหาราชวัง มีระยะห่างไม่เกิน 150 เมตร ขอให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ช่วยสอบสวนด้วยว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบ และใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง เพราะเท่าที่ผมทราบประชาชนทั่วไปรับไม่ได้ กับแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน แถมบางกลุ่มกำลังล่ารายชื่อขับไล่อยู่ ขอให้ สตช.รีบออกหมายเรียกให้เหมือนที่ทำกับประชาชนที่สกายวอล์กด้วย" 
       นายวัฒนาระบุว่า หากเห็นว่าม็อบที่มาเชียร์ พล.อ.ประวิตรไม่ผิด ก็ต้องยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่สกายวอล์กเช่นกัน ผมเตือน พล.ต.อ.ศรีวราห์อีกครั้งว่าอย่าเลือกปฏิบัติโดยเด็ดขาด ประชาชนช่วยผมจับตาดูด้วยครับ หากใครละเลยหรือปฏิบัติกับประชาชนไม่เท่ากัน บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเมื่อไรได้เจอกันแน่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประวิตรระบุบนเวทีระหว่างงานเลี้ยงสานสัมพันธ์สื่อสายทหาร ที่ห้องพินิจประชานาถ กระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับกระแสกดดันของสังคมเกี่ยวกับนาฬิกาหรูที่ไม่ปรากฏในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง อ้างว่าเป็นนาฬิกาที่ยืมมาจากเพื่อนสนิท โดยระบุว่าถ้าประชาชนไม่ต้องการพร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนั้น 
    ต่อมาในโซเชียลมีเดียต่างให้ความสนใจกับประเด็นนี้ โดยเพจชื่อดังต่างๆ ได้มีการสร้างแคมเปญขึ้นมาเพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีดังกล่าว ว่า อยากให้ พล.อ.ประวิตรอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ เริ่มจากนางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ที่ได้เปิดแคมเปญผ่านเว็บไซต์ www.change.org ในหัวข้อ อยากให้รองนายกฯ ประวิตรลาออก ตามที่ท่านได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.61 ที่กระทรวงกลาโหม โดยเปิดโหวตตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ปรากฏว่า เมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่สองที่มีการเปิดโหวต มีประชาชนมาลงชื่อสนับสนุน 33,508 คน ซึ่งผลของการรณรงค์ นางทิชาจะมีการนำไปยื่นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
    ขณะที่เพจ ที่นี่ ThaiPBS ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ก็ได้จัดทำโพลในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดยมีการเปิดให้ประชาชนโหวตตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. และจะให้ออกเสียงเป็นเวลา 7 วัน โดยเมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 1 ก.พ. พบว่ามีประชาชนมาร่วมออกเสียงถึงเกือบ 2 แสนคนแล้ว โดยพบว่ามีผู้โหวตแสดงความเห็นว่า พล.อ.ประวิตรควรลาออกมากถึง 96% ส่วนคนที่ต้องการให้อยู่มีเพียง 4% เท่านั้น
    ส่วนเพจ Drama-addict ที่มีการเปิดสอบถามความเห็นของสมาชิก ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 31 ม.ค. พบว่า ในช่วงเวลา 18.30 น. วันที่ 1 ก.พ. มีผู้ร่วมโหวตแล้วเกือบประมาณกว่า 73,000 คน โดย 69,000 คน โหวตอยากให้ท่านไปพักผ่อน มีเพียง 3,500 คนเท่านั้นที่อยากให้ท่านอยู่ต่ออีกนานๆ  
    มีรายงานว่า ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD) จัดกิจกรรมต้านโกง  จัดแสดง Performance Arts ตามใจ "ป้อม" คืนความศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 17.00 น. สถานที่จัดแสดง Sky Walk BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 
มาร์คชี้หยุดกระแสได้ยาก
    ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าทำงานมา 50 ปี หากประชาชนไม่พอใจที่ผลงานก็พร้อมจะลาออก ว่า ตนเห็นใจคนที่ทำงาน คนที่ทำงานมักมีความรู้สึกว่า พยายามทำหลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่หลายครั้งก็มีกระแสความไม่พอใจของสังคม จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ หากว่า พล.อ.ประวิตรพยายามชี้แจงเรื่องนี้ให้โปร่งใสตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็คงไม่ลุกลามบานปลาย ดังนั้นสิ่งนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมารบกวนใจตัวท่าน รวมถึงรัฐบาลด้วย เราต้องพยายามสร้างวัฒนธรรมเกี่ยวกับเรื่องการชี้แจง หรือการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ทำให้การเมืองติดอยู่ในกับดักหรือวงจรของเรื่องแบบนี้อีก ในต่างประเทศหลายครั้งต้องมีการมาชี้แจง หรือถ้าแสดงความรับผิดชอบเขาก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องที่ว่าถูกหรือผิด แต่เขามองว่าเมื่อกระแสสังคมไปถึงจุดหนึ่งแล้วทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ให้สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นอุปสรรคต่อการที่บ้านเมืองจะเดินหน้า หรือต่อการที่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะสามารถเดินหน้าทำงานได้อย่างราบรื่น
    เมื่อถามว่า รัฐบาลเริ่มมีการขอความร่วมมือของผู้บริหารสื่อหลายแห่งว่าให้หยุดพูดเรื่องนี้ จะช่วยได้
หรือไม่ เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียที่ไปไกลกว่าสื่อกระแสหลัก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าให้หยุดยังคงยาก เพราะจะเกิดปัญหาต่อไปอีก สื่อก็จะรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ เพราะฉะนั้นยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร จะทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และจบลงเสียที เพราะขณะนี้ในโซเชียลมีเดียหรือไลน์ก็มีการขุดข้อมูลที่น่าสงสัยมาเรื่อยๆ จนทำให้คนที่ได้รับข้อมูลก็เกิดคำถามขึ้นมาด้วย    
    วันเดียวกัน นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิก สนช. 1 ใน 32 สมาชิก สนช.ที่เข้ายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีให้กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำรงตำแหน่งต่อไป ทั้งที่มีลักษณะต้องห้าม ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า สมาชิกที่เข้าชื่อส่วนใหญ่อยู่ในส่วนที่ลงมติไม่เห็นชอบและงดออกเสียง โดยมีบางคนที่ลงมติเห็นชอบ สำหรับประเด็นที่จะชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่ศาลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง สนช.ที่ลงมติเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ ตลอดจนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ป.ป.ช.ทำความเห็นชี้แจงภายในวันที่ 5 ก.พ.นั้น ตนจะชี้แจงประเด็นตามคำร้องที่ร่วมกันเข้าชื่อ ส่วนฝ่ายที่ลงมติเห็นชอบนั้น ไม่ทราบว่าใครจะเป็นตัวแทนชี้แจง 
    สำหรับเนื้อหาคำร้องที่สมาชิก สนช.เข้าชื่อ 1 ใน 10 ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 148 (1) นั้น ใจความว่า ในร่าง พ.ร.ป.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.... มาตรา 185 ที่กำหนดให้ประธานและกรรมการที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งต่อไปจบครบวาระตาม พ.ร.ป.ฉบับเดิม โดยไม่ห้ามนำคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามมาบังคับใช้ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ เพราะถึงแม้มาตรา 267 ของรัฐธรรมนูญจะกำหนดให้การดำรงตำแหน่งของกรรมการองค์กรอิสระให้เป็นไปตาม พ.ร.ป. แต่ก็ไม่ได้กำหนดให้ยกเว้นลักษณะต้องห้ามมาใช้บังคับ ซึ่งที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยวินิจฉัยประเด็นการยกเว้นลักษณะต้องห้าม 
     ส่วนสมาชิก สนช.ที่ร่วมลงชื่อทั้ง 32 คนนั้น มีทั้งสายนักธุรกิจ กฤษฎีกา อดีตผู้ว่าฯ ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และทหาร ดังนี้ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน,  นายสมพล พันธุ์มณี, นายสุพันธุ์ มงคลสุธี, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ, นายเจริญศักดิ์ ศาลากิจ, นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ, นายวิทยา ผิวผ่อง, นายวันชัย ศารทูลทัต,  นายมณเฑียร บุญตัน, นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์, นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร, นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์, นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ, นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์, นางเสาวณี สุวรรณชีพ, คุณพรทิพย์ จาละ, นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล, นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ, นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล, นายศิริชัย โชติรัตน์,  นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา, นายประมุท สูตะบุตร, นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์, นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ, พล.ร.ท.วีระพันธ์ สุขก้อน, พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง, พล.อ.วัลลภ เกิดผล, พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ, พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง, พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ และพล.อ.อ.ชนัท รัตนอุบล.