"บิ๊กตู่" ฟุ้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตอบโจทย์ปชช. ขออย่ามองรัฐบาลหาเสียง ยันทำมาต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้มีรายได้น้อย แย้มปีใหม่เตรียมออกมาตรการดูแลคนระดับปานกลางเพิ่มเติม "เสี่ยหนู" หนุนหากทำแล้วชาวบ้านมีรอยยิ้ม "มิ่งขวัญ" ชี้ถ้าเป็นนายกฯ ก็ทำแบบเดียวกัน
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะตรวจสอบรัฐบาลที่เพิ่มวงเงินงบประมาณในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า สามารถตรวจสอบได้ เพราะการที่รัฐบาลจะออกมาตรการต่างๆ เรามีกฎหมายทุกฉบับรองรับ ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้พิจารณาอย่างรอบคอบ สามารถดูได้ทั้งจาก พ.ร.บ.การเงินการคลัง, พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณ ว่าทำได้หรือไม่ และสิ่งที่ทำมาแล้วก็ไม่ใช่เงินทั้งหมด บางโครงการก็ใช้งบประมาณผูกพันเป็นระยะ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราต้องมองเป็น 2 ด้าน ที่ผ่านมามักมองเพียงด้านเดียว คือการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน แต่วันนี้เราต้องมองในกรอบมาตรการอื่นๆ ประกอบด้วย เช่นเรื่องการเกษตร ก็ต้องมีการใช้งบประมาณในส่วนของมาตรการในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็ง การรวมกลุ่ม การลดพื้นที่ปลูก ฉะนั้นอย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อหาคะแนนเสียง มันไม่ใช่
"ส่วนนี้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2-3 ซึ่งผมคิดว่าคงไม่มีรัฐบาลไหนสามารถที่จะดูแลคนได้ถึงกว่า 10 ล้านคน มันมีหรือไม่ ก็มีแต่แก้ปัญหาทีละกลุ่มไป ขอร้องอย่ามองรัฐบาลนี้ทำเพื่อการหาเสียง เดี๋ยวก็จะกลายเป็นเรื่องของความขัดแย้งต่อไปอีก มีทั้งคนที่ได้และคนที่ไม่ได้ ผมบอกแล้วการที่เราจะทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นไม่ได้เป็นเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น แต่เป็นเรื่องการดูแลรายได้ของประชาชน การทำข้อมูลบิ๊กดาต้าทั้งหมดที่ออกมาก็มีอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของข้อมูลความจำเป็นขั้นพื้นฐาน (จปฐ.) รายได้ของแต่ละจังหวัดแตกต่างกันอย่างไร เป็นข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว รัฐบาลเพียงแต่เข้ามาดูข้อมูลของแต่ละพื้นที่ และรายได้ของประชาชนแต่ละกลุ่ม ก็ต้องมาดูว่าเราจะสนับสนุนตรงไหนได้บ้าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของผู้สูงอายุนั้น ทุกคนก็มีพ่อแม่ผู้ปกครอง แล้วจะไม่ดูแลบุคคลเหล่านี้หรือ ปัญหาที่เราต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยที่เป็นผู้สูงอายุเพิ่มเติม เพราะถือว่าเป็นภาระของผู้มีรายได้น้อยที่ยังลำบากอยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลตรงนี้ ปัจจุบันเราต้องรองรับผู้สูงวัยให้อยู่ได้ในสังคม สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าจะให้เงินเพียงอย่างเดียว จะต้องเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถทำงานได้ในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานดำเนินการอยู่ ส่วนราชการสามารถนำผู้สูงอายุเหล่านี้มาทำงานได้ ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังทำอยู่ในทุกๆ ระบบ และทั้งหมดต้องดูงบประมาณประกอบด้วย ไม่ใช่ป้อนเพียงอย่างเดียว
"ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นก็ทำเช่นนี้ เพียงแต่ดูแลแค่บางกลุ่มบางฝ่ายเท่านั้น รัฐบาลนี้ต้องทำทั้งมาตรการเร่งด่วนและการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่นี้จะมีมาตรการเข้ามาดูแลกลุ่มคนต่างๆ อีก โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังดูแลอยู่ ทั้งนี้ ผู้มีรายได้น้อยต้องคำนึงถึงกลุ่มอื่นๆ ด้วย เพราะผู้เสียภาษีมีจำนวนมาก ต้องมาดูว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใครเดือดร้อนบ้าง ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็เช่นกัน คนที่มีรายได้ระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำก็ต้องดูแลด้วย ซึ่งมาตรการต่างๆ จะทยอยออกมาตามลำดับ ตามเม็ดเงินงบประมาณที่มีอยู่
ช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งระบุว่า อีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ก็คือการช่วยเหลือพี่น้องผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาทิ การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้านต่างๆ เช่น การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ก๊าซหุงต้ม ค่าเดินทาง เงินเพิ่มสำหรับผู้ต้องการพัฒนาอาชีพ และผู้สูงอายุ รวมถึงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปในกระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นต้น
"จากการสำรวจและสอบถามถึงปัญหาและความต้องการได้รับความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งการวิเคราะห์ฐานข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ทราบว่าการดำเนินการที่ผ่านมา สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ เราก็จำเป็นต้องมีมาตรการที่เจาะจงเฉพาะกลุ่มลงไปเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด" นายกฯ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันพร้อมให้ กกต.ตรวจสอบโครงการเงินเพิ่มเติมให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเช่นกัน เพราะเรื่องดังกล่าวทำมาเป็นปีแล้ว และมีคนเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราต้องหาคนที่มีรายได้น้อยจริงๆ เพื่อทำให้ประชาชนมีความแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพิ่งมาทำตอนนี้
"ทางฝ่ายเศรษฐกิจได้พิจารณาแล้วว่าให้แล้วจะกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจของไทยหรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นการดูแลประชาชนอย่างหนึ่ง" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลทุ่มงบช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และข้าราชการเกษียณจำนวน 5.87 หมื่นล้านบาท เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารบ้านเมือง คนที่ได้อานิสงส์คือประชาชน อะไรก็ตามที่ทำให้ความทุกข์ของประชาชนคลี่คลายและประชาชนมีรอยยิ้ม ไม่ว่าจะยั่งยืนหรือชั่วคราว พรรคก็ยินดีด้วย
ถามว่า หลายฝ่ายกังวลจะมีผลต่อคะแนนเสียง นายอนุทินกล่าวว่า พรรคไม่มีปัญหา เราอย่าไปดูถูกประชาชนขนาดนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลสารทุกข์สุกดิบของประชาชน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ประชาชนก็ต้องดูว่าใครที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้วเข้าไปบริหารประเทศ ทำหน้าที่แทนเขาในสภา คนไหนจะมีความสำนึกต่อบ้านเกิดและนำประโยชน์มาให้เขาได้มากที่สุด คนนั้นก็จะได้รับการคัดเลือก ตนมองว่ายิ่งดีที่รัฐบาลแจกใกล้ปีใหม่ ต้องขอบคุณที่ได้กรุณาบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องประชาชน
เช่นเดียวกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า บัตรคนจนเป็นนโยบายที่ดี ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ถูกทาง แต่การดำเนินการทุกอย่างต้องโปร่งใส ซึ่งหากตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะสานต่อนโยบายดังกล่าว และจะทำให้ครบทุกมิติ โดยเพิ่มเม็ดเงินเข้าไป รวมถึงนโยบายอื่นๆ ที่ทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถลืมตาอ้าปากได้ อย่างโครงการรับจำนำข้าว, 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |