“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เสด็จฯ   ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระแก้วมรกตแก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ พสกนิกรปลื้มปีติเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง 

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2561 เวลา 15.15 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จฯ เข้าพระอุโบสถ
ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปด้านหลังฐานชุกชีขึ้นเกยไปยังบุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ ทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มอบเจ้าพนักงาน ทรงหยิบพระมหาสังข์ประจำพระองค์ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายและขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว ทรงวางพระมหาสังข์ไว้ที่เดิม
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏจากเจ้าพนักงาน ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงคืนพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏให้เจ้าพนักงาน จากนั้นทรงรับผ้าขาวจากเจ้าพนักงานเช็ดตามองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว ทรงรับมงกุฎประจำฤดูหนาวจากเจ้าพนักงาน ทรงสวมถวายที่พระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ แล้วเสด็จลงจากเกยไปประทับพระราชอาสน์ที่จัดไว้ข้างฐานชุกชี ทรงหยิบผ้าขาวที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วนั้น ชุบพระสุคนธ์ในโถแก้ว แล้วทรงบีบลงในโถแก้วแล้วหม้อน้ำ 
เสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปที่ฐานชุกชีประดิษฐานพระสัมพุทธพรรณี ทรงถอดยอดพระรัศมีพระสัมพุทธพรรณี มอบเจ้าพนักงาน แล้วทรงรับยอดพระรัศมีประจำฤดูหนาวจากเจ้าพนักงาน ทรงสวมถวายเปลี่ยนใหม่
เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายเรียบร้อยแล้ว  ทรงรับดอกไม้จากเจ้าพนักงานวางบนพานหน้าชุกชี ทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระสัมพุทธพรรณี ทรงคม เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ ทรงคม
ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงคม เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ แล้วประทับพระราชอาสน์ที่เดิม เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อยเข้าถวาย ทรงรับพระมหาสังข์เพชรน้อย แล้วสรงที่พระเศียร เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญสังข์นครเข้าถวาย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำสังข์นครแก่พระราชวงศ์ที่มาเฝ้าฯ จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์แก่ข้าราชการที่เฝ้าฯ ภายในพระอุโบสถ เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ที่เดิม เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ ซึ่งสร้างความปลื้มปีติให้ผู้มาเฝ้าฯ รับเสด็จ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังไปทั่ว ก่อนเสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในเวลา 17.09 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ จากพระที่นั่งอัมพรสถาน ไปทรงเปิดสนามลู่ปั่นจักรยาน “เจริญสุขมงคลจิต” บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการ นายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการ และภาคเอกชนเฝ้าฯ รับเสด็จ
          สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เข้าสู่พลับพลาพิธีและประทับพระราชอาสน์ นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีโอที กราบบังคมทูลถวายรายงานความเป็นมาของการจัดสร้างสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต และกราบบังคมทูลเบิกผู้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร และเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย  กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณเข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ    ทรงเปิดลู่สนามจักรยานเจริญสุขมงคลจิต และทรงปลูกต้นไม้ ตามลำดับ
       จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกจากพลับพลาพิธีไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต และเสด็จฯ ไปทรงปลูกต้นรวงผึ้ง 1 ต้น และเสด็จฯ ไปยังห้องประทับรับรอง ประทับพระราชอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย
      ต่อมาเสด็จฯ ออกจากห้องประทับรับรองไปยังสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ทรงจักรยานในสนามลู่ปั่นจักรยานระยะทาง 23.5 กิโลเมตรต่อ 1 รอบสนาม ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีพร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทเอกชนซึ่งร่วมจัดสร้างและพัฒนาสนามลู่ปั่นจักรยาน รวมถึงกลุ่มนักปั่นจักรยานทีโอที และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 450 คน ร่วมขบวน
         เมื่อเสร็จสิ้นพระราชกิจ เสด็จฯ เข้าสู่ห้องประทับรับรองประทับพักพระราชอิริยาบถ และไปทอดพระเนตรร้านโกลเด้นเพลส จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
        ในช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่าเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า และได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” ในโอกาสพิธีเปิดงานอุ่นไอรักฯ วันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค. ซึ่งในการนี้ จะทรงจักรยานในเส้นทางประวัติศาสตร์ ผ่านสายน้ำคูคลองสำคัญต่างๆ รวมระยะทางไป-กลับ 39 กิโลเมตร ซึ่งกิจกรรมปั่นจักรยานนี้จะดำเนินการอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ และระบบออนไลน์ 
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเสื้อที่ทรงออกแบบด้วยพระองค์เองแก่ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมปั่นจักรยานในกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” ในครั้งนี้ด้วย โดยเป็นเสื้อพระราชทานสีเหลืองคาดด้วยสีฟ้า ด้านหลังมีภาพวาดการ์ตูนฝีพระหัตถ์ พร้อมทั้งพระปรมาภิไธย ซึ่งในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจะเข้ารับพระราชทานเสื้อเพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ในวันที่ 1 และ 2 ธ.ค.นี้ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯ รับที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ.