ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์จะเสด็จเยือนสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 โดยทั้งสองพระองค์จะร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 

        สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เผยว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้รับเสด็จ เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายา ในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม นับเป็นการเสด็จเยือนครั้งแรกของราชวงศ์อังกฤษ  

        ทั้งสองพระองค์จะร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 รวมถึงอดีตประธานสโมสร นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ซึ่งทั้งดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์รู้จักเป็นการส่วนตัว รวมทั้งรับทราบถึง ความอบอุ่นและความเมตตาที่คนในเมืองเลสเตอร์ และเหล่าแฟนบอลของสโมสรได้แสดงออกหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ 

        เจ้าชายวิลเลียม และแคทเธอรีน พระชายา จะเสด็จไปยังสถานที่ไว้อาลัยซึ่งอยู่ใกล้กับคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ก่อนจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคณะผู้บริหารสโมสรและนักฟุตบอล และจะร่วมพบปะกับพนักงานและอาสาสมัครที่มาช่วยย้ายสิ่งของไว้อาลัยหลายพันชิ้นด้านหน้าสเตเดียมหลังเกิดอุบัติเหตุ  

        ทั้งสองพระองค์จะทำการเยี่ยมชมสนามกีฬาคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พร้อมกับพูดคุยกับตัวแทนของแต่ละองค์กรการกุศลที่คุณวิชัย ได้ให้การสนับสนุนและเล่าถึงการพัฒนาชีวิตของผู้คนในชุมชนเลสเตอร์ให้ดีขึ้น  

        จากนั้นมีกำหนดเยี่ยมมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ให้การสนับสนุนด้านการศึกษา รวมถึงเงินบริจาคของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา กว่า 1 ล้านปอนด์เพื่อช่วยสนันสนุนการวิจัยด้านการแพทย์ผ่านการแต่งตั้งศาสตราจารย์ด้านสุขภาพเด็ก 

        นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า "นับเป็นเกียรติสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อเตรียมรับเสด็จดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม การที่ทั้งสองพระองค์เสด็จมาเยือนเพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัย นับเป็นการแสดงออกถึงความเมตตาต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต, เหล่าพนักงาน และนักฟุตบอลของสโมสร ตลอดจนชาวเมืองซึ่งมีความผูกพันกับพ่อของผม” 

        "ทั้งสโมสรและชุมชน พวกเราตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของเลสเตอร์ ทั้งในรูปแบบของเมืองที่ได้เผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมและในการทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่เราจะสานต่อภายใต้ในชื่อของพ่อผมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่ง ของมรดกที่ท่านได้มอบให้”