จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ และ ดลภัทรไชย นิยมชน  รั้งจ่าฝูงร่วมกันก่อนเข้ารอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 207 นำหน้า ปิยะ สว่างอรุณพร หนึ่งสโตรก ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,536 หลา พาร์ 72 เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา

        รอบสามของการแข่งขัน จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ โปรวัย 27 ปี จากกรุงเทพฯ มาแรงในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบสาม 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวมสามวันนำร่วมกับ ดลภัทรไชย นิยมชน ผู้นำร่วมสองรอบที่จบรอบเพียง อีเวนพาร์ 72 รวมสามวันมีคนละ 9 อันเดอร์พาร์ 207 โดยมี ปิยะ สว่างอรุณพร ที่ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 73  อยู่อันดับสามแต่เพียงผู้เดียวที่สกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 208

        จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ ออกสตาร์ทรอบสามด้วยเบอร์ดี้ตั้งแต่หลุมแรก แต่ไปพลาดเสียสามโบกี้ติดต่อกันตั้งแต่หลุม 5 ก่อนมาแก้ตัวด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 9 แต่ไปพลาดเสียโบกี้อีกที่หลุม 10 แต่ก่อนจบรอบสาม จักรพันธ์ เก็บเพิ่มอีก 3 เบอร์ดี้ และกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ 71

        “วันนี้เล่นไม่ค่อยดีครับ สภาพอากาศที่สนามลมแรงมาก กรีนก็เร็วกว่าเดิม ช่วงเก้าหลุมแรกมีสะดุดช่วงกลางๆ แต่เก้าหลุมหลังโอเคกลับมาตีลบหนึ่งได้ ก็ถือว่าคัมแบ็กได้ดี สัปดาห์นี้ก็เกินเป้าครับ เพราะผมไม่ได้เล่นดีแบบนี้มานานแล้ว อย่างที่บอกว่าเจ็บไป 4-5 เดือน กว่าจะกลับมาเล่นได้ก็มิถุนายน ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักใหญ่”

        จักรพันธ์ ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในชีวิตต่อจากชัยชนะที่ โลตัส วัลเลย์ เมื่อปี 2015 กล่าวถึงความหวังในรอบสุดท้ายด้วยว่า “ก็มั่นใจนะครับ เพราะสนามนี้เป็นสนามที่ค่อนข้างชอบ ผมเคยชนะออลไทยแลนด์ที่นี่ แต่ก็ต้องรอดูว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เพราะคนในก๊วนก็เล่นนกันดีและมีโอกาสลุ้นทุกคน”

        ส่วน ดลภัทรไชย นิยมชน นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากนครสวรรค์ที่ออกสตาร์ทรอบสามในฐานะผู้นำร่วม ทว่าพัตเตอร์ไม่ทำงาน กว่าจะได้เบอร์ดี้แรกของวันต้องรอถึงหลุม 5 แต่ไปเสียโบกี้ที่หลุม 9 เข้าเก้าหลุมหลังได้หนึ่งเบอร์ดี้ เสียหนึ่งโบกี้ จบรอบสามเข้ามาเพียงอีเวนพาร์ 72 รวมสามวันยังนำการแข่งขันร่วมด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207

        ดลภัทรไชย ที่กำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิต กล่าวว่า “เกมโดยรวมผมว่าโอเค สามารถควบคุมช็อตได้เหมือนเดิม แต่วันนี้พัตต์ไม่ลงมากกว่า เทียบกับสองวันแรกที่พัตต์ประมาณ 25 พัตต์ รอบสามพัตต์ไป 31 พัตต์ รอบสามปักธงค่อนข้างยากด้วย ขึ้นกรีนผิดเหลี่ยมนี่สามพัตต์เลย วันนี้สามพัตต์ไปสองหลุม”

        นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากนครสวรรค์ กล่าวถึงความหวังที่จะคว้าแชมป์รายการแรกในอาชีพว่า “รอบสุดท้ายคงเล่นเหมือนเดิมครับ ไม่คิดเยอะ พยายามเล่นให้สนุก เพราะสถานการณ์มันยากอยู่แล้ว ถ้าเครียดมันก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ รวมถึงพัตเตอร์ด้วย ถ้าพัตต์มาก็มีลุ้นครับ”

        ทางด้าน วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง นักกอล์ฟวัย 21 ปีจากพะเยา ที่ประเดิมแชมป์อาชีพรายการแรกไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่ชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ท สอยดาว จบรอบสามเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 อยู่อันดับสี่ด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 209 โดยมี อติรุจ วินัยเจริฐกุล และ กัมลาศ นาเมืองรักษ์ ที่ทำเข้ามาคนละ 3 อันเดอร์พาร์ 69 ตามหลังหนึ่งสโตรกที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 210

        สรุปสิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ รอบสาม (สนามพาร์ 72)

        207  จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ 69-67-71, ดลภัทรไชย นิยมชน 67-68-72

        208  ปิยะ สว่างอรุณพร 70-65-73

        209  วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง 72-69-68

        210  อติรุจ วินัยเจริญชัย 71-70-69, กัมลาศ นาเมืองรักษ์ 70-71-69

        211  เศรษฐี ประคองเวช 69-70-72

        212  โคสุเก ฮามาโมโต้ 70-74-68, ฐิติพัส เล็ม 70-72-70, ธัญพิสิษฐ์ ออมสิน 68-73-71, ธรรมนูญ ศรีโรจน์ 72-66-74

        213  ปุณณวิชญ์ ฮิรายามา 70-74-69, พิชชากร ติระกุล 67-74-72

        214  สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์ 69-74-71