จากสมาคมน้ำเต้าหู้และน้ำชา ที่มีคุณตาคุณยายมานั่งเสวนา และโขกหมากรุกกันในยามเช้าไล่ไปจนถึงช่วงสายของวัน กระทั่งล่าสุดกลายเป็นแหล่งรวมพลที่ดีต่อใจวัยเก๋าไม่น้อย สำหรับ “บริการรับฝาก สว.” ณ เมืองเบตง จ.ยะลา ของ คุณรักษ์ เบตง หรือชื่อจริงว่า “พูลไท ลวากร” ครูสอนภาษาอังกฤษ สู่ผู้ประกอบการรับฝากผู้สูงอายุ ที่แม้ว่าปัจจุบันอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ทว่าผลตอบรับในอนาคต คือการกระจายไปสู่ชุมชนและท้องถิ่นต่างๆ ได้มีบริการดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย รับสังคมผู้สูงวัย จากการใช้ความเป็นชุมชนดูแลกันและกัน
    พูลไท ลวากร ในวัย 60 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นบริการดังกล่าว เริ่มต้นอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว สืบเนื่องจากภรรยาขายน้ำเต้าหู้และโจ๊ก ก็จะมีลูกค้าที่เป็นผู้สูงอายุมาซื้ออาหารไปรับประทาน และก็จะมีคนสูงวัยอีกกลุ่มหนึ่งมานั่งกินอาหารที่ร้าน กระทั่งจับกลุ่มพูดคุยเลยไปจนถึงช่วงสายๆ ของวัน โดยระหว่างนั้นกลุ่มของสูงอายุก็มักจะนั่งโขกหมากรุกและจิบน้ำชา ไปกระทั่งอ่านหนังสือพิมพ์ จนถึงประมาณ 9 โมงเช้า โดยเจ้าตัวก็ได้จัดหาบริการแว่นสายตาสำหรับคนวัยเก๋าฟรี จึงเกิดเป็นไอเดียบริการดังกล่าวขึ้น
    “สำหรับแนวคิดบริการดูแลผู้สูงอายุ เริ่มต้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว จากการที่มีผู้สูงวัยมาซื้ออาหารที่ร้านผมและนั่งรับประทาน อีกทั้งพูดคุยกันจนถึงประมาณ 9 โมงเช้า แต่บริการดังกล่าวเริ่มจริงๆ จังๆ ก็ประมาณ 2 ปีมานี้เอง ประกอบกับระหว่างที่ผู้สูงอายุกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 5-6 คน นั่งรวมตัวกันในแต่ละวัน ผมก็จะมีบริการทั้งหนังสือพิมพ์ ชา และกาแฟไว้ให้รับประทานฟรี อีกทั้งมีแว่นสายตาตั้งแต่ 250, 350, 450 ไว้ให้บริการโดยไม่คิดเงิน สำหรับการนั่งอ่านหนังสือ แต่จะมีกระปุกลูกอม สำหรับหยอดสตางค์ แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคน บางรายก็หยอด 10 บาท และ 15 บาทบ้างครับ
    กระทั่งตกผลึกและกลายเป็นบริการรับฝากผู้สูงวัย ส่วนหนึ่งก็เพื่อสะดวกสำหรับลูกหลานที่พาผู้สูงอายุออกมาทำธุระด้วย โดยเฉพาะในระหว่างที่บุตรหลานไปทำนิติกรรมต่างๆ ในตัวเมืองเบตง ผู้สูงอายุก็จะได้มีนั่งพักรอ หรือบุตรหลานที่ต้องดูแลผู้สูงวัย เมื่อมีบริการของเรา ลูกหลานก็จะได้ออกไปทำงานไปกรีดยางได้อย่างไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ ที่สำคัญยังทำให้คนสูงวัยมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น จากการได้พูดคุยกับคนวัยเดียวกัน ในส่วนของผู้วัยที่มาใช้บริการ นอกจากได้รับบริการที่บอกไว้ข้างต้น รวมถึงบริการฟรี wifi, ชาร์ตแบตเตอรี่มือถือฟรี, กาแฟ ชา โอวัลวันติน, อาหารเช้าและอาหารกลางวันแล้ว คนวันเก๋ายังสามารถทำกิจกรรม ที่แต่ละคนสนใจโดยเฉพาะ รวมถึงการออกกำลังกายด้วยการเรียนรำกระบองจากผม เนื่องจากออกกำลังด้วยวิธีนี้เป็นประจำ หรือผู้สูงอายุจะร้องเพลงก็ได้ เพราะผมมีความสามารถในการเล่นกีตาร์ ซึ่งผมจะทำหน้าที่เป็นนักดนตรีให้ ทั้งนี้ บริการดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องเรื่องความไม่สงบ เพราะอยากเรียนประชาชนทั่วไปว่า เบตงปลอดภัย และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยียนอยู่ตลอดเวลาครับ”
    สนนราคาค่าบริการนั้น ผู้สูงอายุจะต้องเสีย 300 บาท โดยสามารถใช้บริการได้ระหว่าง 8 โมงเช้าจนถึงบ่าย 3 โมงเย็น เนื่องจากช่วง 4 โมงเย็นที่ร้านจะให้บริการสอนพิเศษภาษาอังกฤษ แต่ถ้าหากท่านใดมาใช้บริการเพียง 1- 2 ชั่วโมง ก็จะเสียค่าบริการอยู่ที่ชั่วโมงละ 60 บาท ทั้งนี้ หากผู้สูงวัยที่มาใช้บริการต้องการบริโภคอาหาร อาทิ ผัดไทย ฯลฯ ก็จะคิดค่าอาหารเพิ่มแยกจาก 300 บาท สำหรับข้อจำกัดในการใช้บริการก็มีอยู่บ้าง เช่น ผู้ที่ไม่มีรถรับ-ส่ง ตลอดจนผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัด ไอเรื้อรัง เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งนันทนาการ มากกว่าที่จะมารักษาผู้ป่วย นอกจากนี้ สามารถมาใช้บริการได้หมดครับ ใครสนใจติดต่อได้ที่ 06-3649-7432, 08-2265-7258, 0-7323-4519 อ.เบตง จ.ยะลา
    “ถ้าถามเรื่องการตั้งเป้าผู้มาใช้บริการ ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ตั้งเป้าจำนวนของผู้ใช้บริการ แต่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นครับ เนื่องจากผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเบตงมีอยู่ราวหลัก 10 ราย เพียงแต่ว่าผลจากบริการที่รับฝากผู้สูงอายุดังกล่าว ในอนาคตจะกลายเป็นแนวคิดที่กระจายออกไปสู่ชุมชนต่างๆ ที่มีผู้สูงวัยอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และเป็นแบบอย่างในการนำมาซึ่งการดูแลผู้สูงวัยด้วยบริการดังกล่าว แต่ในส่วนตัวผมประโยชน์ที่ได้อย่างน้อยก็เป็นไอเดียในการถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน และคนในชุมชนเบตงได้มีไอเดียและจัดการพื้นที่ในการดูแลผู้สูงวัยในอนาคต เพราะเมืองเบตงก็ถือได้ว่ามีคนอายุเกิน 60 ปีมากขึ้น ตลอดจนมีอากาศที่ดี ซึ่งเอื้อต่อการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ได้อย่างมีความสุข”
    ทั้งนี้ คุณรักษ์ เบตง ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่อยากเห็นเพิ่มเติมในบริการรับฝากผู้สูงอายุนั้น คือการที่ผู้นำชุมชนตระหนักในเรื่องของการกระจายความร่วมมือในการดูแลผู้สูงวัยไปยังเครือข่ายอื่นๆ หรือแชร์ข้อมูลร่วมกันกับท้องที่อื่น ตลอดจนการติดตั้งตู้ยาสามัญประจำบ้าน และการที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำท้องถิ่นมีการพบปะผู้สูงวัยและมีการตรวจสุขภาพ อาทิความดันโลหิตสูงฟรี เป็นต้น.