ผู้พิพากษาจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกาฝ่ายอนุรักษนิยมอดรนทนไม่ได้ ตอบโต้ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าฝ่ายตุลาการสหรัฐมีความเป็นอิสระไม่ขึ้นกับพรรคใด หลังจากประธานาธิบดีปากกล้าโจมตีผู้พิพากษาที่ขัดขวางคำสั่งของเขากรณีคนเข้าเมืองว่าเป็น "ผู้พิพากษาของโอบามา"  แล้วยังดึงดันอ้างผู้พิพากษาที่โอบามาแต่งตั้ง "อคติ" กับนโยบายของเขา

แฟ้มภาพ วันที่ 20 ม.ค. 2560 โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ กับผู้พิพากษาจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกาสหรัฐ / AFP

    กรณีที่ประธานศาลฎีกาสหรัฐจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายการเมืองนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ แต่คำกล่าวโจมตีฝ่ายตุลาการจากปากของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันอังคาร ทำให้ผู้พิพากษาโรเบิร์ตส์ถึงกับต้องออกโรงเอง โดยผู้พิพากษาฝ่ายอนุรักษนิยมที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับทรัมป์ ท่านนี้ได้ให้ทัศนะกับสำนักข่าวเอพี เมื่อวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ตอบโต้คำกล่าวของทรัมป์โดยยืนกรานว่า ระบบตุลาการของสหรัฐเป็น "อิสระ"

    "เราไม่มีผู้พิพากษาของโอบามา หรือผู้พิพากษาของทรัมป์, ผู้พิพากษาของบุช หรือผู้พิพากษาของคลินตัน" โรเบิร์ตส์ตอบโต้คำพูดของทรัมป์ที่ว่า พวกผู้พิพากษาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีเดโมแครตนั้นต่อต้านนโยบายของเขา

    ประธานศาลสูงสุดของสหรัฐท่านนี้ย้ำด้วยว่า สหรัฐมีผู้พิพากษาที่อุทิศตนทำหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยให้สิทธิอย่างเสมอภาคกันต่อทุกผู้คนที่ปรากฏหน้าบัลลังก์ "ฝ่ายตุลาการที่เป็นอิสระคือสิ่งที่เราทุกคนควรรู้สึกขอบคุณ" ถ้อยคำในแถลงการณ์สั้นๆ กล่าว

    ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเมื่อวันพุธได้ใช้เวลาพักผ่อนวันหยุดที่ฟลอริดา ไม่รีรอที่จะทวีตตอบโต้ผู้นำฝ่ายตุลาการท่านนี้ โดยยืนกรานว่า ระบบตุลาการมี "ผู้พิพากษาของโอบามา" อยู่จริง และผู้พิพากษาพวกนี้มีมุมมองทัศนะที่แตกต่างจากผู้ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของประเทศนี้

    ทรัมป์อ้างด้วยว่า มีคดีจำนวนมากมายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสำคัญอันดับต้นๆ ของเขา เช่น การปราบปรามคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายขั้นเด็ดขาด ล้วนถูกผู้พิพากษากลุ่มนี้ล้มเลิก "กรุณาศึกษาตัวเลขด้วย เพราะมันน่าตกใจ" ทรัมป์ทวีต

    ชนวนเหตุที่ทำให้ผู้พิพากษาโรเบิร์ตส์ออกมาตอบโต้ทรัมป์ มาจากกรณีที่ทรัมป์วิจารณ์ผู้พิพากษาจอน ไทการ์ แห่งศาลแขวงในนครซานฟรานซิสโก ซึ่งออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทรัมป์ปฏิเสธสิทธิการยื่นขอลี้ภัยของผู้อพยพที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยทรัมป์โจมตีคำตัดสินนี้ว่า "น่าอัปยศ" และเรียกผู้พิพากษาไทการ์ว่า เป็นผู้พิพากษาของโอบามา

    ฝ่ายที่วิจารณ์การปราบปรามคนเข้าเมืองของทรัมป์กล่าวกันว่า การจำกัดการขอลี้ภัยไว้เฉพาะผู้ที่เข้ามาทางจุดผ่านแดนอย่างถูกกฎหมายนั้น เท่ากับรัฐบาลสหรัฐปิดประตูใส่ผู้ที่อาจกำลังหนีเอาชีวิตรอดจริงๆ

    รัฐบาลทรัมป์อ้างเหตุผลว่า ทรัมป์มีอำนาจของฝ่ายบริหารที่สามารถสั่งการควบคุมคนเข้าเมือง เพื่อความมั่นคงของประเทศ ทรัมป์เคยใช้อำนาจนี้ภายหลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่แล้วด้วยการห้ามพลเมืองจากประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมหลายประเทศเข้าสหรัฐ

    การใช้อำนาจของทรัมป์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลางหลายพันคนกำลังมาจ่อชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก และทรัมป์สั่งให้ส่งทหารเกือบ 5,800 นาย ไปสนับสนุนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดน แต่จิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวเมื่อวันพุธว่า ทหารจะไม่ติดอาวุธ แต่จะใช้เพียงไม้กระบองกับผู้อพยพ หากต้องเข้าช่วยควบคุมสถานการณ์รุนแรง.