"มาร์ค" สยบรอยร้าว เคลียร์ปมช่วย "เทือก" หาสมาชิก รปช. แค่คาดโทษ "ถาวร-วิทยา" ล้อมคอกใครทำซ้ำตัดสิทธิ์ลงสมัคร ส.ส. กรณีร้ายแรงให้ขับออกจากพรรค
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 07.30 น. นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องทำงานชั้น 2 อาคารควง อภัยวงศ์ เพื่อชี้แจงกรณีที่นายถาวรเปิดบ้านพักที่จังหวัดสงขลา ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ปราศรัยและรับสมัครสมาชิกพรรค รปช. เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ร้องเรียนผ่านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ นำไปสู่การสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
ภายหลังการหารือเกือบ 1 ชั่วโมง นายถาวรและนพ.วรงค์เดินลงจากชั้น 2 อาคารควง อภัยวงศ์ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยนายถาวรโบกมือให้ผู้สื่อข่าวในทำนองไม่ให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินเข้าร้านกาแฟบริเวณที่ทำการพรรค ส่วน นพ.วรงค์กล่าวว่า เข้าใจกันหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร และยืนยันที่จะทำงานการเมืองในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพราะคือพรรคของเรา
ด้านนายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ได้พูดคุยกันแล้ว แต่รายละเอียดขอให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ให้ข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายถาวรและ นพ.วรงค์เข้าพบนายอภิสิทธิ์ มีอดีต ส.ส.กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์รออยู่ด้านล่าง อาทิ นายสมบัติ ยะสินธุ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน, นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี, นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา และนายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ระยอง โดยนายศุภชัยกล่าวว่า การเดินทางมาพรรคครั้งนี้ไม่ได้เป็นการมาเพื่อให้กำลังใจนายถาวร แต่เป็นการมายืนยันว่าพร้อมทำงานสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคต่อไป
ต่อมาเวลา 13.45 น. นายอภิสิทธิ์แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค กรณีที่นายถาวร เปิดบ้านให้นายสุเทพปราศรัยและสมัครสมาชิก รวมถึงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ร่วมเดินหาสมาชิกพรรคกับ รปช.ว่า ตั้งแต่ทราบเรื่องไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ลักษณะนั้นอาจก่อให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิก และประชาชนอาจสงสัยว่าเหตุใดทั้งสองคนจึงไปอยู่ในกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น เพราะโดยพื้นฐานการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ต้องสนับสนุนทุ่มเทให้กับพรรคนั้น การไปอยู่ในกิจกรรมพรรคการเมืองอื่นๆ ย่อมกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ให้นายนิพิฏฐ์ตรวจสอบเรื่องนี้
โดยนายนิพิฏฐ์ได้รายงานว่า ทั้ง 2 กรณีเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับทั้งสองคนแล้ว และได้อธิบายว่าพรรคมีจุดยืนชัดเจน ไม่มีแนวคิดไปฮั้วพรรคการเมืองใด ดังนั้นการกระทำใดที่จะทำให้สับสน ไขว้เขว ไม่ควรกระทำ ซึ่งทั้งสองคนยอมรับจุดยืนของพรรค แต่การกระทำที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้ระมัดระวังเท่าที่ควร
“เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ดังนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีมติว่า หากมีสมาชิกพรรคไปทำกิจกรรมใดๆ ร่วมกับพรรคอื่น ก่อให้เกิดผลกระทบกับการแข่งขันทางการเมืองต่อพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการดำเนินการลงโทษตามข้อบังคับพรรคคือ ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง และถ้ากรณีร้ายแรง ก็ให้สิ้นสมาชิกภาพ ดังนั้นถือว่ากรณีของนายถาวรและนายวิทยาได้จบลงแล้ว ต่อไปสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ทั้งสองท่านก็ยังคงมีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะได้คุยกัน และเรื่องนี้ยุติแล้ว แต่หากมีการทำอีกครั้ง ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นหลายคนมองว่าพรรค รปช. เป็นสาขาของประชาธิปัตย์นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสาขา อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค เนื่องจากก่อนที่จะประกาศผลหยั่งเสียง ผู้สมัครทั้ง 3 ฝ่ายรับทราบอยู่แล้วว่า 32,000 คะแนนที่ตัดออกไปนั้น เพราะตรวจพบว่าเลขบัตรประชาชนเลขเดียวกันมีการลงคะแนนหยั่งเสียงหลายครั้ง รวมทั้งการใช้แอปพลิเคชันหยั่งเสียงที่ต้องถ่ายรูปผู้ใช้สิทธิถือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน แต่กลับมีภาพห้องครัว มะนาว สุนัข แมว และอื่นๆ ดังนั้น ทาง กกต.พรรคจึงต้องตัดทิ้ง เพราะไม่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้
เมื่อถามต่อว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีระเบิดเวลาที่ยังอยู่ในพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีก็แก้ไขได้ ไม่กล้าพูดว่าจะไม่มีเรื่องนี้ แต่แม้ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้เป็นอย่างอื่น ก็ใช่ว่าเรื่องระเบิดเวลาจะไม่มีอีก แต่จากการที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นพ.วรงค์ และกลุ่มที่สนับสนุน 4-5 คน ต่างยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคและสนับสนุนการทำงานของพรรค ตนมั่นใจว่าจะพาพรรคขับเคลื่อนไปได้
ขณะที่นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่นายถาวรให้ใช้สถานที่ในบริเวณบ้านเป็นที่ตั้งค่ายพักแรมและสถานที่รับสมัครสมาชิกพรรค รปช.ว่า เป็นความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนเท่านั้นเอง ไปจังหวัดไหนถ้ามีเพื่อน เพื่อนก็จะเอื้อเฟื้อ แม้ว่าเขาจะอยู่พรรคการเมืองก็ตาม ตนไปใน จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยาก็ให้ความเอื้อเฟื้อเป็นธรรมดา.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |