การเมืองยามนี้ร้อนฉ่า! รายวัน ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ “กลุ่มสามมิตร” ซึ่งนำโดย “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ได้หนีบ 60 ชีวิตเข้าซบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งก็มีวาทกรรมเด็ดๆ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญนี้ออกมาแบบเพื่อเรา จะกวาดเก้าอี้ 350 ส.ส. และเปิดตัวยิ่งใหญ่กว่ายุคไทยรักไทย ...๐ แม้ความฮอตเริ่มจืดจางลงก็มีประเด็นใหม่ออกมา เมื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ“ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับออกอาการปรี๊ดแตกกับ “พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ” หรือบิ๊กยอร์ช อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่หันไปซบ พรรคน้องใหม่ราคาแรงงงส์ในตลาดการเมืองช่วงนี้อย่าง “ไทยรักษาชาติ” โดยมีทั้ง “ลืมข้าวแดงแกงร้อน” “จิ้งจกเปลี่ยนสี” และ “วิ่งเต้น” ...๐ ที่สำคัญ “นายใหญ่” ตัวจริงอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่เงียบหายไปนาน ยังออกโรงมาป้อง “บิ๊กยอร์ช” โดยออกมาอัดสั้นๆ ว่า “ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับ ป้อม" เรียกว่าประกาศกันชัดๆ ว่า “ทษช.” นี้ใครอย่าแตะ แหม! นี่ถ้าอีกวันสองวัน “พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนตบเท้าเข้าสมัครพรรคนี้ขึ้นมา ก็ยิ่งเฉลยชัดเจนเข้าไปอีก ...๐ แม้ “บิ๊กป้อม” ออกอาการเหวี่ยงครานี้ต้องบอกว่า “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ” เต็มๆ เพราะต้องไม่ลืมว่า “พล.อ.ยศนันท์” นั้นเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ย่อมเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ได้ แม้จะไม่มีสำนึกในเรื่อง “ข้าวแดงแกงร้อน” ก็ตามที แต่ การที่ “ลุงป้อม” ฟาดงวงฟาดงาว่าด้วยการ “วิ่งเต้น” นั้น มันก็เท่ากับยอมรับว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารมันมีอะไรในกอไผ่สิจ๊ะ ...๐ แต่ที่อนาถมากที่สุดคือ “นายหัวเหลี่ยม” นี่แหละที่ออกมาแขวะ “บิ๊กป้อม” โดยไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตนเองนั่นแล เพราะ “นักธุรกิจ” ที่ลงเล่นการเมืองเพียงเพื่อกอบโกยผลประโยชน์และทรัพยากรของคนทั้งประเทศเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับโคตรเหง้าตระกูลนั้นน่าอายกว่าไหม นี่ยังไม่นับรวมการไม่เคารพคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมไทย ซ้ำร้ายยังใช้สมุน-ขี้ข้าพยายามออกกฎหมาย “นิรโทษกรรม” ให้ตัวเองบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกต่างหาก และที่เป็นที่สุดของความอัปรีย์ คือ การสร้างความแตกแยก เผาบ้านเผาเมือง และทำให้คนไทยที่สายเลือดเดียวกันต้องมาห้ำหั่นกันจน “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” นั้น บัดซบกว่าหรือไม่อย่างไร ...๐ เอ่ยถึง “โอ๊ค” แล้ว ก็ทำให้น่าคิดอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือนห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “ชายโอ๊ค” จะโพสต์เฟซบุ๊กโชว์กึ๋นทางการเมืองอยู่สม่ำเสมอ ก่อนหน้านี้ก็เล่น “ถอนหงอก” มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในเรื่องประกาศ  ป.ป.ช.ว่าด้วยการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไปแล้ว ล่าสุด “โอ๊ค” ยังโชว์เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งอีกต่างหาก เรียกว่า ฝีไม้ลายมืออย่างนี้ก็น่าจะลงสนามการเมืองอย่างที่เคยประกาศไว้ว่า “พร้อมตั้งเเต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร” ได้แล้ว หรือยังชั่งใจไม่ถูกว่าจะเลือกเพื่อไทย หรือ ทษช. หรือจะรอเหาะมานั่งเป็น 1 ใน 3 ชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ จ๊ะ ...๐ พูดถึงการบ้านการเมืองก็ต้องย้อนมาดูเรื่อง “กีฬา” กันบ้าง หลังจากคนรุ่นใหม่ของ “ประชาธิปัตย์” ในชื่อกลุ่ม New Dem เป็นโต้โผจัดกิจกรรมกีฬาสี ซึ่งตอนแรกก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากหลายพรรค แต่ไปๆ มาๆ ก็ ถูกลากเข้าสู่การเมืองจนได้ เมื่อ “อนาคตใหม่” ประกาศถอนตัวเป็นรายแรก โดยออกแถลงการณ์สวยหรู ว่าไม่สามารถร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองที่มีส่วนสนับสนุนการเกิดรัฐประหารและการสังหารผู้ชุมนุมทางการเมืองได้ ก่อนตามมาด้วย “เพื่อไทย” และล่าสุดคือ “ภูมิใจไทย” ก็ขอถอนตัวด้วย ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่งกับคำประกาศของ “พรรคส้มหวาน” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ว่าหมายถึงไม่ร่วมกิจกรรมกับพลังประชารัฐ หรือประชาธิปัตย์กันแน่ แล้วที่สำคัญทำไมไม่พูดถึงกรณีพรรคที่มีส่วนในเหตุการณ์ “เผาบ้านเผาเมือง” บ้าง หรือว่าอนาคตใหม่เห็นด้วยที่ใช้ความรุนแรง แล้วที่น่าคิดว่า หากมีเวทีสัมมนาหรือเวทีการเมืองใดๆ เกิดขึ้นในอนาคตแล้วมีชื่อของ พปชร.-ปชป.ขึ้นเวทีด้วย “อนค.” จะกลืนน้ำลายตัวเองหรือใช้สีข้างเข้าแถอย่างไรจ๊ะหากเข้าร่วม เพราะนี่ถือเป็น “บรรทัดฐาน” ที่ตัวเองสร้างไว้เองแล้วนะเธอว่าจะไม่ร่วมกิจกรรม ...๐