“ประยุทธ์” เผยพระราชพิธีสำคัญก่อนเลือกตั้งต้องรอโปรดเกล้าฯ ลงมา ยันเดินตามโรดแมปเลือกตั้ง 24 ก.พ. เผยเป็นคนชงเองให้เลือกวันนี้ ชี้ต้นเหตุออกคำสั่ง 16/2561 เพราะมีหลายส่วนขอร้องกันมา “บิ๊กป้อม-วิษณุ” ประสานเสียงคำสั่งคุ้มครอง กกต. “สนธิรัตน์-สมศักดิ์” พลิกลิ้นบอกคำโอ่เรื่องรัฐธรรมนูญ-กวาด 350 ส.ส.แค่วาทกรรมปลุกใจ “ทษช.” สุดคึก อดีต รมต.-ทูต-ทหารแห่ซบ “New Dem” ข้องใจอนาคตใหม่ทำไมเพิ่งถอนตัวงานกีฬาสี
เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเคยระบุถึงพระราชพิธีสำคัญจะเกิดก่อนการเลือกตั้งว่า "เรื่องนี้ต้องรอฟังจากท่าน รอการโปรดเกล้าฯ ลงมา"
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ที่ให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ว่าไม่ได้ไปก้าวล่วง แต่เป็นการร้องขอขึ้นมาจากหลายส่วนด้วยกันว่ายังมีปัญหาอยู่ มีความขัดแย้งกันอยู่หลายประการ เพียงแต่มอบอำนาจให้ กกต.มีอำนาจเด็ดขาดในการแก้ไขปรับปรุง ไม่ได้หมายความว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบจากการรับฟังความคิดเห็นที่ทั่วถึง
“ข้อสำคัญเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับโรดแมปทั้งสิ้น ฉะนั้นไม่ต้องมาถามผมว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ถ้าจะไม่เชื่อ ทั้งหมดเป็นไปตามโรดแมปที่ประกาศไว้แล้ว สุดแล้วแต่ว่าปัญหาอะไรจะเกิดขึ้นตามมา ก็เป็นเรื่องของส่วนรวมที่จะไปว่ากันมา รวมถึงฝ่ายการเมือง และ กกต.ก็เป็นผู้ตัดสินใจ ผมไม่ไปก้าวล่วงเด็ดขาด” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเล็กยื่นขอให้เลื่อนวันเลือกตั้งจาก 24 ก.พ.2562 ออกไปนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ มีการพูดกันไปมาในสื่อ ไม่จำเป็นต้องชี้แจงแล้ว เป็นเรื่องของ กกต. สิ่งสำคัญเรารู้อยู่แล้วรัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหน แม้กระทั่งกฎหมายจะเอื้ออำนวยให้เลือกตั้งได้ถึง พ.ค.2562 แต่ได้เสนอเองว่าขอให้มีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.เป็นระยะแรกของกฎหมายด้วยซ้ำไป
“ขอให้ดูเจตนารมณ์ของผมตรงนี้ ทุกคนต้องช่วยทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ รวมความไปถึงหลังการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องสงบสุข หลายอย่างเป็นโอกาสของเราอยู่แล้ว ในช่วงที่ผ่านมา 4 ปี บ้านเมืองเราสงบสุข ทุกอย่างมีความก้าวหน้า เจริญเติบโต เราจะทำลายโอกาสของเราได้อย่างไร เราจะเอาการเมืองมาทำลายกันหรือ” นายกฯ ระบุ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ย้ำเช่นกันว่า ไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้ง เรายังยึดวันที่ 24 ก.พ.2562 อยู่ แต่ที่ฝ่ายการเมืองเขายังไม่เชื่อนั้น เขาจะเชื่อได้อย่างไร เพราะเป็นคนละฝ่ายกัน เราไม่เลื่อนการเลือกตั้ง ทุกอย่างทำตามโรดแมป ส่วนจะเลื่อนหรือไม่นั้น อยู่ที่ กกต. แต่เรายืนยันของเราว่าเดินตามโรดแมป
“ไม่รู้ ต้องไปถาม กกต. และคำสั่งนี้ออกมาเพื่อปกป้อง กกต.ไม่ให้ถูกฟ้องร้อง” พล.อ.ประวิตรตอบคำถามถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.เป็นการเอื้อพรรคการเมืองบางพรรค
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยืนยันว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ไม่ได้เป็นการครอบงำการทำงานของ กกต. ไม่เกี่ยวกันเลย และอีกหน่อยจะรู้เองว่ามีผลดีอะไรขึ้น ยืนยันว่าทุกอย่างไม่กระทบต่อการเลือกตั้งแน่นอน ไม่กระทบวันรับสมัคร ส.ส. ไม่กระทบวันประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่กระทบกับอะไรเลย โดยข้อดีของประกาศคือ ใช้คุ้มครอง กกต.เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่จะจับผิด กกต.ว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง และคำสั่งไม่ได้เอื้อกับพรรคการเมืองใด
น่าสังเกตว่าตามกำหนดการเดิม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. มีวาระงานที่จะร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสำนักงาน กกต.กับกรมราชทัณฑ์ แต่เมื่อถึงเวลานายอิทธิพรได้ยกเลิก โดยระบุว่าติดประชุม และมอบหมายให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์แทน ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ที่กำลังเป็นวาระร้อนและอาจถูกสื่อมวลชนซักถามต่อเนื่อง
ส่วนความคิดเห็นของฝ่ายการเมืองในเรื่องนี้นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง หรืออีกวิธีการหนึ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการเข้าสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งได้ เพราะจริงๆ แล้วเขตเลือกตั้งแบ่งเรียบร้อยแล้ว รอเพียง กกต.ลงนาม แต่ท้ายที่สุดก็มีการประกาศใช้มาตรา 44 ขึ้นมา จึงอยากเตือนว่าการทำอะไรที่ฝืนหลักความจริง ฝืนความรู้สึกของประชาชน และฝืนกฎหมายไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการกระทำที่ทำในช่วงที่ประเทศได้ประกาศไปทั่วโลกว่าเรากำลังคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นใบเสร็จที่เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่ามีการวางงานทำเป็นกระบวนการในการดูดอดีต ส.ส.ให้ย้ายพรรค โดยอ้างว่าจะแบ่งเขตให้ได้เปรียบและนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งมีการพยายามแบ่งเขตเพื่อเอื้อต่อการได้รับชัยชนะในหลายจังหวัด อาทิ นครพนม นครราชสีมา อุบลราชธานี รวมถึง กทม.
หนูนาขอให้ตาหายไวๆ
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ขอให้กำลังใจ กกต.และประธาน กกต.ที่ป่วย จนทำให้ต้องเลื่อนการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งอยากให้หายเร็วๆ เพื่อการเลือกตั้งจะได้ชัดเจน และขอเป็นกำลังใจให้ เพราะสมัยนี้มีโรงพยาบาลดีๆ มีมาก ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า กกต.ถูกอำนาจบางอย่างแทรกแซง ยังเชื่อมั่นใน กกต.ว่าจะไม่แลกศักดิ์ศรีของตัวเองไปกับการยอมให้อำนาจบางอย่างแทรกแซง
ส่วน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (พท.) กล่าวว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ ไม่ควรมีใครครอบงำ ดังนั้นขอให้ กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทั้งการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง และการออกระเบียบต่างๆ โดยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะถูกจับจ้องจากสังคมโลก กกต.จึงต้องจัดการเลือกตั้งให้มีความเสรี โปร่งใส และอยากให้ผู้มีอำนาจอย่าแทรกแซงการทำหน้าที่ของ กกต.
วันเดียวกัน ยังคงมีผลพวงจากกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นำกลุ่มสามมิตร 60 คนเข้า พปชร. โดยกรณีนายสมศักดิ์ระบุรัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบมาเพื่อพวกเรานั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าที่แกนนำต่างๆ ออกมาพูดเหล่านี้ก็เป็นเรื่องของการพูด ถ้าฟังหรือเอามาเป็นปัญหาทุกอันมันก็ไปไม่ได้หมด ไม่ไปตอบโต้หรือโต้แย้ง
เมื่อถามถึงกรณีแกนนำ พปชร.ระบุจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนเดียว สนใจและพร้อมรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เรื่องการเสนอชื่อยังไม่เห็นมีใครมาเสนอสักที การเสนอชื่อก็ต้องมาพบปะเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ไปพูดกันในสื่อ ในอะไรต่างๆ เหล่านี้
“ผมจะมีอะไรก็อยู่ในใจ เพราะในใจก็คือในใจ จะใช้คำว่านอกใจก็ไม่ได้ แต่ถ้าข้างนอกก็อีกเรื่องหนึ่ง เอาไว้ผมจะพูดอีกทีก็แล้วกัน ยังมีเวลาอยู่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วน พล.อ.ประวิตรกล่าวตอบคำถามถึงกระแสข่าวนายทหารใกล้ชิดในภาคอีสานเดินเกมดูด ส.ส.ให้พรรค พปชร.ว่า ไม่จริง และคนในกองทัพสนิทกันทุกคน หลายครั้งก็ถูกอ้างชื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ถูกอ้าง ซึ่งก็จับกุมและแถลงข่าวไปแล้ว
“เมื่อเขาอ้างจะทำอะไรได้ แล้วไปเชื่อกันทำไม ผมบอกตลอดไม่ให้เอาชื่อไปอ้าง แต่ก็มีการอ้างอยู่ทุกวัน ทุกเรื่อง ยืนยันว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ”พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการ พปชร. กล่าวถึงกรณีประกาศว่า พปชร.จะกวาด ส.ส. 350 ที่นั่ง ว่าพูดกับสมาชิกและผู้สมัครของพรรค เป็นการพูดให้กำลังใจกับสมาชิกที่ประสงค์จะลงรับสมัคร ส.ส. เพื่อให้เกิดกำลังใจในการทำงานทั้ง 350 เขต และเกิดความเข้มแข็งในพื้นที่ จึงพูดไปว่าถ้ามีบุคลากรคุณภาพมากมายขนาดนี้ ก็อาจได้ทั้ง 350 เขต เป็นเพียงวาทกรรมให้กำลังใจ ไม่ได้หมายความว่าเราจะกวาด 350 เขต ซึ่งทางการเมืองเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
“เรื่องเป้าหมาย ส.ส.กี่คนนั้น พรรคจะทำให้ดีที่สุดในการทำงาน แน่นอนว่าพรรคต้องทำหน้าที่เต็มความสามารถ ทั้งตัวบุคคลและนโยบาย ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนจะตัดสินใจและลงคะแนน คงไม่สามารถบอกได้ว่าจำนวนเป็นเท่าไร ส่วนพรรคจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น เราทำดีที่สุดก่อน ขอทำเป็นขั้นตอน ถึงวันนั้นผลเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกที คิดว่าทุกพรรคคิดคล้ายๆ กัน”
ถามถึงความชัดเจนในการลาออกจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ไปทำงานการเมืองเต็มตัวนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ใกล้เข้าไปทุกที เรามีกำหนดการตามกรอบเวลา และจะเป็นไปตามขั้นตอน ขอให้สบายใจ จะเห็นว่าการที่พวกเราอยู่ในตำแหน่ง เรายึดกติกาการทำงานใน 2 สถานภาพค่อนข้างมาก อย่างเช่นที่ให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองตอนนี้ เพราะลากิจไว้จนถึง 10.30 น.
เรียงหินชี้แค่ปลุกใจ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำ พปชร. กล่าวถึงกรณีการพูดถึงรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา ว่าพูดจริง แต่หมายถึงพรรคการเมืองขนาดกลาง และพรรคการเมืองขนาดเล็ก รวมถึงพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ไม่มีฐานเสียงมาก่อน เป็นการพูดปลุกใจให้บรรดาผู้สมัครหน้าใหม่ๆ
“แม้ประเด็นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ผมก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร และไม่คิดไปตอบโต้ให้เป็นประเด็นยืดยาว เพราะจุดเด่นของพรรคนั้น ไม่นิยมความขัดแย้ง ต้องการให้ประเทศสงบ ไม่ต้องการให้ประชาชนรู้สึกว่าเรายึดติดกับความขัดแย้ง เราจะเสียเวลากับเรื่องเดิมๆ ไม่ได้” นายสมศักดิ์กล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิก พปชร.ชี้แจงถึงกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำกลุ่มสามมิตรระบุว่า พปชร.เปิดตัวยิ่งใหญ่กว่าสมัยพรรคไทยรักไทยนั้น คงเป็นความรู้สึกที่ท่านสัมผัสได้ ดังนั้น อย่าพยายามสร้างเงื่อนไข สาดโคลนโจมตีใคร เพราะมันจะนำไปสู่ความขัดแย้งอีก และขอยืนยันว่า พปชร.ไม่ได้เป็นนั่งร้านหรือตัวแทนพรรคเผด็จการ แต่เป็นพรรคของพี่น้องประชาชนทุกคน แล้วพี่น้องประชาชนจะเป็นตัดสินเองว่าจะให้โอกาสพรรคใด
ขณะเดียวกันยังคงมีความเคลื่อนไหวเรื่องสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก โดยเฉพาะพรรคไทยรักษาชาติ (พท.) โดยมีกลุ่มบุคคลเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ, นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายมารุต จิตรปฏิมา อดีตเอกอัครราชทูตสิงคโปร์, พล.อ.อ.สมชาย เธียรอนันท์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด, พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. โดยมี ร.ท.ปรีชาพล และแกนนำ ทษช.ต้อนรับ
นายปิยวัชรกล่าวว่า ยินดีที่ได้มีโอกาสมาแสดงสิทธิทางการเมืองในฐานะประชาชน และด้วยประสบการณ์อยากสนับสนุน ทษช. ซึ่งเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ เพราะอนาคตประเทศจะผูกพันกับอนาคตโลก ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับภาวะการเมืองที่ขลุกขลัก ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศกระทบกระเทือน ดังนั้นจึงอยากเข้ามาให้คำปรึกษา และแชร์ประสบการณ์ที่สั่งสมมา ปรับภาพลักษณ์ประเทศให้เป็นประชาธิปไตยสากล
ขณะที่ พล.อ.ยศนันท์กล่าวว่า ได้คุยกับผู้ใหญ่ของพรรคแล้วเห็นชอบใน 2 เรื่องคือ 1.ไขว่คว้าโอกาสทางเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และ 2.ยึดมั่นในความเป็นพี่น้องร่วมชาติ เพราะเรามีศูนย์รวมจิตใจเดียวกัน ไม่ว่าจะเหนือสุดเชียงรายหรือใต้สุดสยาม เราก็คือพี่น้องร่วมชาติ
ส่วนนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษก พท.กล่าวว่า พรรคยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น ยังมีบุคลากรที่มีคุณภาพ เชี่ยวชาญในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง แม้ว่าแกนนำจำนวนหนึ่งลาออกไป แต่คาดว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันในรัฐสภา เพราะทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติต่างยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการเช่นเดียวกัน
ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายสดใส รุ่งโพธิ์ทอง นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้มากรอกใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค ชทพ. มี น.ส.กัญจนาให้การต้อนรับ โดยนายสดใสกล่าวถึงกระแสข่าวไปพรรค พปชร.ว่าไม่เป็นความจริง แต่ที่เป็นข่าวเพราะมีสมาชิกพื้นที่ปทุมธานีคนหนึ่งที่ไปสังกัดพรรค พปชร. อยากให้ไปเป็นหัวหน้าทีม จึงให้นายชวน ชูจันทร์ กรรมการบริหารพรรค พปชร.โทรศัพท์มาพูดคุย แต่ได้ยืนยันไปแล้วว่าทำงานกับพรรค ชทพ.
สำหรับการเดินสายหาสมาชิกนั้น ที่คิงคอง ไรซ์ ริม ถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-นครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมแกนนำพรรค ได้ลงพื้นที่พบปะชาวขอนแก่น พร้อมเปิดสถานที่รับสมัครสมาชิกพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง มีการร่วมกันถ่ายภาพรวมและถ่ายเซลฟีเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมแกนนำ ได้เริ่มกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง ที่บริเวณตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งก็มีเหตุขลุกขลักในระหว่างทางบ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนใหญ่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
New Dem จับไก่อนาคตใหม่
ยังมีกรณีที่น่าสนใจในกรณีกลุ่ม New Dem หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีกับคนรุ่นใหม่พรรคต่างๆ จัดกิจกรรมฟุตบอลและแชร์บอลในกีฬาสีกระชับมิตรในวันที่ 1 ธ.ค.นั้น โดยพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้ออกแถลงการณ์ขอถอนตัวเนื่องจากมีการเชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่ง อนค.มีจุดยืนที่ไม่อาจประนีประนอมได้ เรื่องการไม่เอาการสืบทอดอำนาจของ คสช. จึงไม่อาจร่วมกิจกรรมกับพรรคที่เป็นกลไกสืบทอดอำนาจของ คสช.โดยตรงได้ และต่อมานายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส หนึ่งในกลุ่ม Next Gen คนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทยที่ได้ประชุมร่วม New Dem ในการจัดกิจกรรมได้โพสต์เฟซบุ๊กถอนตัวเช่นกันนั้น
ล่าสุดกลุ่ม New Dem ออกแถลงการณ์กรณีพรรคอนาคตใหม่ถอนตัว ว่า 1.New Dem รู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนใจและถอนตัวของพรรคอนาคตใหม่ ที่ให้เหตุผลว่า อนค.เพิ่งรับทราบในที่ประชุมวันนี้ ว่าเชิญชวนพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากคำเชิญตั้งแต่แรกมีการเผยแพร่รายชื่อพรรคการเมืองที่ได้เชิญชวนอย่างชัดเจน ซึ่ง 2 พรรคในนั้นก็คือ พปชร.และ อนค. หลังจากนั้น อนค.จึงมาตอบรับเข้าร่วมกิจกรรม เพราะฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่พรรค อนค.จะทราบเป็นครั้งแรกในที่ประชุมวันนี้ ว่าเชิญชวน พปชร.เข้าร่วมด้วย ตามที่ อนค.ประกาศ 2.New Dem รู้สึกผิดหวัง แต่เคารพในสิทธิและการตัดสินใจของ อนค. เพราะเรามองว่าการแข่งกีฬากระชับมิตรร่วมกันเป็นนิมิตหมายอันดีที่พรรคการเมืองซึ่งมีอุดมการณ์แตกต่างกัน และพร้อมลงแข่งขันกันในระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งที่จะมาถึง สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
3.New Dem เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอของหลายพรรคการเมืองที่สนใจกับกิจกรรมนี้ และได้ตอบรับข้อเสนอที่ให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทุกพรรคร่วมจัด โดยทุกพรรคเป็นเจ้าภาพ 4.เพื่อให้จุดประสงค์ของงานร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคมมากไปกว่าการเล่นกีฬาเพื่อกระชับมิตร New Dem ได้เสนอให้ร่วมระดมทุนที่ได้จากการจัดงานและจากพรรคการเมืองที่เข้าร่วมนำไปบริจาคให้มูลนิธิและองค์กรเพื่อสังคมต่างๆ ที่ทุกพรรคเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งข้อเสนอนี้ก็ได้รับการยอมรับจากทุกพรรคที่เข้าร่วมการประชุม และ 5.New Dem และพรรคที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ยังคงจัดงานต่อ เพราะ ณ เวลาที่ อนค.ถอนตัวก็ได้รับคำตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมจากตัวแทนของพรรคชาติพัฒนา (คุณเยาวภา บุรพลชัย) พรรคภูมิใจไทย (คุณจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล) พรรครวมพลังประชาชาติไทย (คุณเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์) พรรคเกียน (คุณสมบัติ บุญงามอนงค์) พรรคเพื่อไทย (คุณตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส) พรรคเสรีรวมไทย (คุณจักรพงศ์ บุปผา) พรรคกลาง (คุณอัษฎางค์ สมบูรณ์ผล) และพรรคพลังท้องถิ่นไทย (twitter-admin พรรคพลังท้องถิ่นไท)
ในช่วงเช้าที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม อดีตนายทหารบกที่มักมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ให้สืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มีส่วนทุจริตในการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคหรือไม่
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคฝ่ายการเมือง ปชป. กล่าวว่า ร.อ.ทรงกลดเคยเป็นสมาชิกพรรคจริง แต่ได้แจ้งขอลาออก ซึ่งมีผลไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2560 ซึ่งไม่ใช่ ร.อ.ทรงกลดไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่พยายามยื่นเรื่องก้าวก่ายในกิจการภายในของพรรค ไม่ทราบว่าไปรับงานของใคร แต่หากเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของผู้กองปูเค็ม ก็สามารถอนุมานได้ว่าสัมพันธ์กับบุคคลคนใดเป็นพิเศษ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |