20 พ.ย.61-  นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี คสช.ออกคำสั่งที่ 16/2561 ใช้มาตรา 44 ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้งให้ กกต.ว่า การกระทำดังกล่าวเปรียบเสมือนใบเสร็จที่เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่ามีการวางงาน กระทำการเป็นกระบวนการในการดูดอดีตส.ส.ให้ย้ายพรรค โดยอ้างว่าจะแบ่งเขตให้ได้เปรียบและนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งหรือไม่ 

ก่อนหน้านี้ตนได้เคยออกมาระบุแล้วว่า มีคนในเครื่องแบบเดินสายดูดเย้ยกฎหมายในพื้นที่ภาคอีสาน และหยิบยกเรื่องการแบ่งเขตนี้ขึ้นมาโน้มน้าวให้ย้ายพรรค ทั้งที่เลขาฯกกต.ให้สัมภาษณ์ว่ากกต.แบ่งเขตครบ 350 เขต และเตรียมประกาศอยู่แล้ว แต่ก็มามีคำสั่งหัวหน้าคสช.ออกมา การบอกว่าออกคำสั่งเพื่อมาช่วยกกต.ก็ฟังได้ยาก เพราะดูเหมือนกกต.ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไร 

เชื่อมั่นว่ากกต.พยายามที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ฝ่ายที่ต้องการให้แบ่งเขตใหม่นั้นน่าจะเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์มากกว่าหรือไม่ โดยมีความพยายามที่จะแบ่งเขตเพื่อเอื้อต่อการได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในหลายจังหวัด อาทิ นครพนม นครราชสีมา อุบลราชธานี รวมถึงกรุงเทพมหานคร แกนนำพรรคที่จะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจก็ออกมายอมรับแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา เราจะต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ บางคนถึงขั้นประกาศจะยึดทั้ง 350 เขต แต่การพยายามเอาเปรียบคนอื่นไม่สิ้นสุด โดยอาศัยการแบ่งเขตที่ไม่เป็นธรรม ไม่คำนึงถึงลักษณะภูมิประเทศ เส้นแบ่งตามธรรมชาติต่างๆ โดยกฎหมายเขตเลือกตั้งเดียวกันควรมีลักษณะเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องติดต่อกัน ไม่ถูกแบ่งกั้นหรือนำเขตเลือกตั้งอื่นมาแทรก 

แต่หากไปดำเนินการในลักษณะโค้งเว้าเข้าไปในบางพื้นที่ หรือแหว่งกลับในบางพื้นที่จนมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานหรือที่เรียกว่าการแบ่งเขตในรูปตัวซาลามานเดอร์ (Salamander) นั้น ประชาชนมองออกว่าคนทำมีเจตนาอย่างไร ตนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของกกต.แต่ใครก็ตามที่คิดจะเอาความเชื่อมั่นของประเทศจากการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ไปแลกกับชัยชนะของเครือข่ายพวกพ้องตัวเอง เพื่อเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ และหากประกาศเขตเลือกตั้งแบบใหม่ออกมาแล้วมีความแตกต่าง ตนคิดว่าจะเกิดการเปรียบเทียบกับ 3 รูปแบบที่ประชาชนได้เห็นแล้วว่าแตกต่างกันตรงจุดไหนอย่างไร ซึ่งทุกภาคส่วนจะช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด.