บีโอไอเผยยอดขอส่งเสริม 9 เดิน 3.77 แสนล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

 

บีโอไอเผยยอดขอส่งเสริม 9 เดือน 3.77 แสนล้านบาท ยอดลงทุนในอีอีซีโต 117% จากปีก่อน ยังมั่นใจทั้งปีทำได้ตามเป้า 7.2 แสนล้านบาท อัดมาตรการจูงใจออกมาเพียบ ดูดยอดคำขอรับส่งเสริมก่อนสิ้นปี

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยผลประชุมบอร์ดบีโอไอ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่าภาพรวมการลงทุนในช่วง 9เดือนที่ผ่านมาของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนรวม 1,125 โครงการ เงินลงทุนทั้งหมด 377,054 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% ที่ทำได้ 1,021 โครงการ เงินลงทุนอยู่ที่ 373,908 ล้านบาท ซึ่งยังยืนยันว่ายอดการส่งเสริมการลงทุนทั้งปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 720,000 ล้านบาทซึ่งอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสูงสุดได้แก่ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองลงมาคือยานยนต์และชิ้นส่วน การท่องเที่ยว การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และกลุ่มดิจิทัล สำหรับการยื่นขอส่งเสริมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งโครงการและมูลค่าการลงทุน ซึ่งสามารถทำได้ 288 โครงการ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13% ที่มี 255 โครงการ และมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 230,554 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 117% ที่ทำได้ 106,126 ล้านบาท

“เรามั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปี 61 ยอดขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 300,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ และการเดินสายชักชวนการลงทุน(โรดโชว์) ซึ่งปีนี้แนวโน้มการลงทุนจากเอกชนจีนจะเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน เห็นได้จากตัวเลขการลงทุน 9 เดือนที่ผ่านมา มีนักลงทุนจีนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่แล้วมีการขอส่งเสริมที่ 1,100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมียอดขอส่งเสริม 2,200 ล้านบาท และเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง โลหะ และการเกษตร”นางสาวดวงใจ กล่าว

นอกจากนี้มีมติอนุมัติมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นการลงทุนที่ขอรับการส่งเสริมภายในปี 2562 มีผลบังคับใช้กับคำของที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.​2561 จนถึงสิ้นปี 2562 โดยโครงการที่มีเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทในทุกประเภท ยกเว้นกิจการที่ไม่มีที่ตั้งสถานประกอการ ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการลดหน่อยภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 3 ปี นอกเหนือจากได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปีขึ้นไปตามเกณฑ์สิทธิปกติแต่ไม่เกิน 8 ปี มีสถานประกอบการทุกจังหวัดยกเว้นกรุงเทพ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการส่งเสริการลงทุนเศรษฐกิจฐานรากที่ปรับปรุงใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับคำขอที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2562 ถึงสิ้นปี 2563  โดยเน้นให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูงกว่าเข้าไปสนับสนุนยกระดับขีดความสามารถท้องถิ่นชัดเจน โครงการไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท หากสนับสนุนหลายรายในโครงการเดียวกันต้องไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท ครอบคลุมทุกประเภทกิจการ จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในมูลค่าไม่เกิน 120% ของเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายจริงในการสนับสนุน เช่น ค่าก่อสร้าง ค่าฝึกอบรม เป็นเวลา 3 ปี
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"