จริงจังนะ!

                แม้สูตรจัดตั้งรัฐบาลของ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" จะออกมาตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ หากรู้ไว้แต่เนิ่นๆ ก็ไม่เสียหลาย

                เพราะมันเกี่ยวกับการหย่อนบัตรโดยตรง

                เป็นจริงดังที่ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" พูดเอาไว้ โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาลนั้น สูงกว่าเพื่อไทย และพลังประชารัฐ

                ไม่ว่าจะเป็นพรรคอันดับ ๑-๒-๓ โอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาลออกได้ทุกหน้า

                ต่างจาก เพื่อไทย และพลังประชารัฐ

                เพื่อไทยนั้นต้องเป็นพรรคอันดับ ๑ เพื่อการันตีว่า จะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่จะตั้งสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ประชาธิปัตย์ กับพลังประชารัฐ

                เช่นเดียวกับพลังประชารัฐ จะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ก็อยู่ที่ประชาธิปัตย์

                ที่สำคัญ พลังประชารัฐต้องเป็นพรรคอันดับ ๑ และ ๒ เท่านั้น "ลุงตู่" ถึงจะมีโอกาสนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสมัย

                หลุดไปเป็นอันดับ ๓ เมื่อไหร่ ปิดประตูตาย

                เพราะหากประชาธิปัตย์เป็นพรรคอันดับ ๑ หรือ ๒ ไม่มีทางเสนอชื่อ "ลุงตู่" เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

                ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ อย่างน้อยก็ ณ เวลานี้ แทนที่เพื่อไทยจะกลายเป็นคู่แข่งที่ต้องเอาเป็นเอาตายของประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ

                อาจกลายเป็นว่า....

                พลังประชารัฐต้องแข่งกับประชาธิปัตย์ เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นพรรคอันดับ ๓

                ฉะนั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การรับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจึงดูคึกคัก จน "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ถึงกับเอ่ยปากว่า

                "สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย ซึ่งคิดว่ายิ่งใหญ่แล้ว แต่วันนี้เป็นความยิ่งใหญ่มากกว่าสมัยเปิดพรรคไทยรักไทย"

                จะยิ่งใหญ่แค่ไหน?

                โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้เก้าอี้ ส.ส.ได้เกิน ๒๕๐ ที่นั่ง แทบเป็นไปไม่ได้ อาจทำได้แค่ ๒๐๐ +-๑๐ หรืออาจต่ำกว่านั้น

                ขณะที่ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ ตัวเลขกลมๆ พรรคละ ๑๒๐ ที่นั่ง โอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียว

                หากพลังประชารัฐจะไปจับมือกับเพื่อไทย คงต้องตอบคำถามเยอะแยะ

                โดยเฉพาะคำถามที่ว่า ไปรัฐประหารเขาด้วยเหตุผลคอร์รัปชันแล้วไปร่วมรัฐบาลกับเขาได้อย่างไร

                โอกาสที่เพื่อไทยจับมือกับประชาธิปัตย์ก็ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะเป็นพรรคคู่แข่งกันมาต่อเนื่องยาวนาน แต่ก็อธิบายง่ายกว่าคู่แรก

                ฉะนั้นเลขที่ออกเป็นไปได้สูง ประชาธิปัตย์จับมือกับพลังประชารัฐ และพรรคขนาดกลาง อาทิ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร คือเกิน ๒๕๐ เสียง

                เว้นเสียว่า แลนด์สไลด์ฝั่งเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ เพื่อชาติ อนาคตใหม่!

                แต่โอกาสคงยาก เพราะ ๓ พรรคแรกคือพรรคเดียวกัน ใช้คนเดิมที่แตกจากเพื่อไทย

                สรุป "ลุงตู่" จะเป็นนายกฯ สมัย ๒ หรือไม่ สิ่งที่ต้องทำคือ เอาชนะประชาธิปัตย์ให้ได้ก่อน.