การเมืองยุค “เบี้ยหัวแตก”


เพิ่มเพื่อน    

 อืมม์ม์ม์...ไปๆ-มาๆ พรรค ไทยรักษาชาติ ที่น่าจะเป็นแค่บริษัทลูก กลับทำท่าว่าจะใหญ่ๆ โตๆ เติบโตแซงหน้าบริษัทแม่ อย่างพรรค เพื่อไทย แบบชนิดไม่เห็นฝุ่น เห็นหาง ไปแล้วก็ว่าได้ บรรดาสมาชิกที่ถือเป็นแม่เหล็กของพรรค ถึงได้หันไปตามแรงดูดของพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ๆ หมาดๆ แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง ระดับแทบยกกระบิเอาเลยก็ว่าได้...

                                                           ----------------------------------------------------

                ขนาดบรรดาพวก แดงเอย...โธ่เอ๋ยน้องแดงของพี่ ประเภทที่ยืนอยู่แถวหน้าทั้งหลาย ไม่ว่าคุณน้อง ณัฐวอด   คุณพี่ วีระกานต์ ไปจนถึงระดับ หมอหวง-หมอเหวง  หรือประเภทก่ออิฐ ก่อทราย อย่าง ก่อแก้ว ฯลฯ เห็นว่า...ต่างชักแถวเรียงคิว ไหลไปยังพรรคไทยรักษาชาติ แทนที่จะยืนหยัด ยืนยัน อยู่กับเผาไทยเช่นเดิม แถมระดับคีย์แมน และขี้แมน อีกจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าคุณพี่ อ๋อย จาตุรนต์ คุณพ่อของลูกกูไม่รู้ว่ากูเป็นใคร เหลิม ดาวเทียม ไปยันถึงนพดลหล่ง นพดลเหล่ ฯลฯ ว่ากันว่า...หันไปเป็น ลูกน้องเด็ก ไปอยู่ไทยรักษาชาติกันเป็นแผงๆ...

                                                              -----------------------------------------------

                แล้วยังงี้...คุณ เจ๊สุดาหน่อย ของหมู่เฮา จะเอาไงกันต่อไป??? จะเปลี่ยนเป็น พรรคเพื่อเธอ ให้มันรู้แล้ว รู้แรด ไปเลยดีหรือไม่ เปลี่ยนสถานะตำแหน่งจากการขึ้นไปเป็น ประธานยุทธศาสตร์ชาติ ของพรรคเพื่อไทย ให้กลายมาเป็น แม่ยายแห่งชาติ ของพรรคเพื่อเธอ กันไปเลยหรือเปล่า??? เพราะอย่างน้อยก็ยังสามารถดึงๆ ดูดๆ พวก สายหื่น ทั้งหลาย ให้ไม่ยอมไปไหน ยอมตายแทบเบื้องบาทนาง ของคุณน้อง จินนี่ อย่างน้อยก็นับเป็นร้อยๆ พันๆ หรืออาจขึ้นไปเป็นถึงเป็นหมื่นๆ นั่นย่อมขึ้นกับกระแสความหื่น ว่าจะหนักหน่วง รุนแรง ไปได้ถึงขั้นไหน...

                                                                ------------------------------------------------

                เฮ้ออ์อ์อ์...ทำไงได้ล่ะท่าน ในเมื่อ อาจารย์มีชัย ท่านได้ จัดสรรปันส่วนผสม เอาไว้แบบซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศซะเหลือเกิน มันเลยถึงได้เกิดพรรคโน้น พรรคนี้ เยอะแยะมากมาย ชนิดจำเนื้อ จำตัว จำหัว จำหาง กันแทบไม่ได้ ประเภทที่อยากจะแสดงออกถึง พลัง ก็กลายเป็นพลังโน่น พลังนี่ ไม่รู้จะกี่ต่อกี่พลังเข้าไปแล้ว ประเภทที่อยากจะแอบอิง อ้างอิง ถึงความใกล้ชิด สนิทสนมกับบรรดา ประชา ทั้งหลาย ก็มีทั้งประชารัฐ ประชานิยม ประชาชาติ ประชาชนปฏิรูป ฯลฯ ชนิดเล่นเอา หูชา กันไปเป็นแถบๆ...

                                                                 --------------------------------------------------

                และสุดท้าย...โดยแนวโน้มมันก็น่าจะออกไปทาง เบี้ยหัวแตก นั่นแหละเป็นหลัก โอกาสที่จะเป็นไปตามแบบฉบับอย่างที่พวกชอบพ่น แมงโม้ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าจะกวาดเก้าอี้กันมาในระดับ 200, 250 หรือรายล่าสุดที่ฟุ้งไปถึงขั้นกะจะกวาดเก้าอี้กันในระดับ 350 เอาเลยถึงขั้นนั้น ดูๆ แล้ว...น่าจะเป็นแค่การ ระบายลมผ่าน ทางปากล่าง ปากบน ก็แล้วแต่จะคิด เพราะโดยข้อเท็จจริง การกระจายเก้าอี้ ส.ส.สัดส่วน ไปให้กับพรรคการเมืองใดๆ ที่ได้กว่า 70,000 เสียงขึ้นไป ตามบัญญัติไตรยางศ์ทางการเมืองที่ถูกประดิษฐ์ คิดค้น ขึ้นมาใหม่ มันน่าที่จะทำให้บรรดาพวก แบงก์ใบใหญ่ๆ ทั้งหลาย ต้องหันมา แตกเบี้ย หรือต้องยอมรับสภาพความเป็น เบี้ยหัวแตก อย่างเท่าที่เห็นๆ กันอยู่ในทุกวันนี้...

                                                                  --------------------------------------------------

                และโดยแนวโน้มทางการเมืองที่ดูจะหนักไปทาง เบี้ยหัวแตก อย่างที่ว่าเอาไว้นั่นแหละ...มันน่าที่จะส่งผลให้การจัดกลุ่ม จัดฝ่าย แบ่งกลุ่ม แบ่งฝ่าย ออกไปทางชุลมุน ชุลเก อยู่พอสมควร ยิ่งถ้าหากอาศัยสิ่งที่เรียกว่า อำนาจ เป็นตัวตั้งด้วยแล้ว ยิ่งน่าจะ ดูไม่จืด ยิ่งขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุเพราะ ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า...ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ ดังที่นักกวีอย่างคุณพี่ วิสา คัญทัพ ท่านเคยรจนาเอาไว้ในบทกลอนนั่นแล ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของทหาร หรืออำนาจของพลเรือน ก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่ย่อมต้องเป็นไปดังที่สมเด็จพระสังฆราช ท่านเคยทรง เตือนสติ ไว้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ นั่นเอง มีลาภ-ย่อมเสื่อมลาภ, มียศ-ย่อมเสื่อมยศ สิ่งทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้ จะไปเอาแน่-เอานอนกับมัน...ก็คงมิได้...                      

                                                                  ----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...สิ่งที่อาจพอช่วยให้เกิดหลักประกันสำหรับการเมืองในยุค เบี้ยหัวแตก ได้มั่ง ก็คงหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปจาก อำนาจ อีกหนึ่งขั้น นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า ธรรม นั่นเอง ธรรมที่เป็นไปตามแบบฉบับครรลองของธรรมชาติ ธรรมที่เหตุปัจจัยอันส่งผลให้ ฟ้ามีอายุยาวนาน ดินอยู่ได้ยั่งยืน เนื่องมาจาก การเคลื่อนไหวดำเนินของฟ้า-ดิน มิได้เป็นไปเพื่อตนเอง จึงมีอายุยาวนานและอยู่ได้ยั่งยืน อะไรประมาณนั้น...

                                                                   ------------------------------------------------------

                ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็น ก๊กเอาบิ๊กตู่ หรือ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ ก็เถอะ ถ้าหากลองอาศัย อำนาจ เป็นตัวตั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงต้องเป็นไปตามแบบฉบับที่ปรมาจารย์ เหลาจื๊อ ท่านเตือนๆ เอาไว้ตั้งแต่บทแรกๆ ของคัมภีร์ เต๋าเต็กเก็ง นั่นแหละว่า... คิดจะปกครองบ้านเมือง แต่กระทำด้วยกำลังอำนาจ ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่สำเร็จแน่ๆ ด้วยเหตุเพราะบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นของเทพเจ้า ไม่อาจเข้าครองได้ด้วยกำลัง ไม่อาจยึดถือเป็นของส่วนตัว ผู้ใดที่ใช้กำลังเข้าครอง จะต้องพ่ายแพ้ ผู้ยึดถือเป็นของส่วนตัว จะต้องสูญเสียอำนาจไป ด้วยประการละฉะนี้...แล...

                                                                   -------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Chinese proverb... Wealth and position are like floating clouds. ทรัพย์สมบัติและตำแหน่งแห่งที่ เปรียบประดุจเมฆที่ล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า...

                                                                   --------------------------------------------------------

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"