ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงตรวจเยี่ยมเมืองพาราไดซ์ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่โดนไฟป่าแคมป์เผาทำลายราบคาบ ระบุน่าเศร้ามาก แต่ยังยืนกรานว่าการบริหารจัดการป่าไม้ที่ผิดพลาดคือต้นเหตุไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่คร่าแล้ว 76 ชีวิต และสูญหายมากกว่า 1,200 คน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโจดี โจนส์ นายกเทศมนตรีเมืองพาราไดซ์ ดูสภาพความเสียหายจากไฟป่าแคมป์ ที่เมืองพาราไดซ์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2561 / AFP

    ทรัมป์เดินทางมายังเมืองพาราไดซ์เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2561 และได้เห็นสภาพความเสียหายจากไฟป่าแคมป์ที่กลายสภาพชุมชนที่มีประชากรหลายหมื่นคนแห่งนี้เป็นซากเมืองไหม้เกรียม "น่าเศร้ามาก" ผู้นำสหรัฐกล่าวหลังจากนั้น

    ข้อมูลอย่างเป็นทางการยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 คน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพราะไฟป่าแคมป์เพิ่มเป็น 76 คนแล้ว ส่วนจำนวนคนสูญหายนั้น คอรี โฮเนีย นายอำเภอบัตต์เคาน์ตี ปรับยอดเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,200 คนในวันเสาร์

    สำนักงานป้องกันอัคคีภัยและไฟป่าของแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า ไฟป่าแคมป์ซึ่งเริ่มปะทุขึ้นที่เชิงเขาของเทือกเขาเซียร์ราเนวาดาทางเหนือเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ได้เผาพื้นที่แล้ว 372,500 ไร่ และถึงวันเสาร์สามารถควบคุมไฟได้แล้ว 55%

    ไฟป่าแคมป์ได้เผาทำลายบ้านแล้วเกือบ 10,000 หลัง และอาคารมากกว่า 2,500 หลัง เจ้าหน้าที่กล่าวด้วยว่ามีประชาชนราว 47,200 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และถึงขณะนี้มีเกือบ 1,200 คนที่อาศัยตามศูนย์พักพิง

    ทรัมป์ไปเยือนเมืองชิโกซึ่งอยู่ใกล้กับพาราไดซ์ และได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและเจ้าหน้าที่รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์บัญชาการชั่วคราว ทรัมป์ได้รับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาวุโสเกี่ยวกับการลุกลามอย่างรวดเร็วของไฟป่าและความยุ่งยากในการอพยพ โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงภาพแผนที่ไฟป่าด้วย ที่นี่ทรัมป์ยังยืนกรานทัศนะที่โดนวิจารณ์หนักของเขาว่า การบริหารจัดการไฟป่าที่ผิดพลาดของรัฐแคลิฟอร์เนียคือต้นเหตุส่วนใหญ่ของไฟป่าครั้งนี้   

    หลายวันก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยขู่จะตัดงบประมาณจากรัฐบาลกลางที่สนับสนุนรัฐนี้ เนื่องจากการบริหารจัดการป่าไม้ที่ผิดพลาด.