ใหญ่กว่าไทยรักไทย สุริยะฟุ้งขน60คนซบ'พปชร.'/พ่อมดดำจ่อคิวต่อ


เพิ่มเพื่อน    

    "พลังประชารัฐ" ประกาศศักดายิ่งใหญ่ "สามมิตร" หอบ 60 ชีวิตเข้าซบอย่างชื่นมื่น กลุ่มการเมืองโผล่เพียบ ทั้งบ้านริมน้ำ-จงสุทธนามณี-ก๊วนอุบลฯ  “อุตตม” ลั่นทุกคนเป็นหนึ่งเดียวคือ พปชร. "สนธิรัตน์" โวมากันเยอะขนาดนี้จะไม่กวาด 350 เสียงได้อย่างไร  "สุริยะ" ฟุ้งยิ่งใหญ่กว่าสมัยเปิด ทรท. แนะ "สนธิรัตน์" ไขก๊อก รมต.เดินสายปราศรัย "สมศักดิ์" การันตีผู้ได้รับเลือกให้ลงสมัครได้เป็น ส.ส.ทั้งหมด ปชป.เตือนเป่าคดีให้นายทุนพรรคซ้ำรอยระบอบทักษิณ
    เมื่อวันอาทิตย์ ที่โรงแรมแชงการี-ลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดรับสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า เหล่าบรรดาแกนนำพรรค คณะผู้บริหาร นำโดย 4 รัฐมนตรีแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค มารอต้อนรับตั้งแต่เช้า โดยมีอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่น นักวิชาการ นักธุรกิจ ศิลปินดารา เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก
    โดยเฉพาะในเวลา 10.30 น. กลุ่มสามมิตร นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน,  นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้นำสมาชิกในกลุ่ม 60 คน อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายก อบจ.สุโขทัย และอดีต รมช.สาธารณสุข, นายภิญโญ นิโรจน์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีต รมช.ศึกษาธิการ, นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา อดีต ส.ส.ราชบุรี,  นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล อดีต ส.ส.สุโขทัย เป็นต้น มาสมัครสมาชิกพรรค โดยมี 4 รัฐมนตรีแกนนำพรรค ไปให้การต้อนรับ พร้อมชูมือแสดงพลัง
    ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มอดีต ส.ส.และนักการเมืองต่างๆ ในภาคอีสานเดินทางมาจำนวนมาก อาทิ กลุ่มของนายสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย, กลุ่มของนายวิรัช รัตนเศรษฐ, กลุ่มของนายเอกราช ช่างเหลา, ตระกูลจงสุทธนามณี ใน จ.เชียงราย, สมาชิกบางส่วนของกลุ่มบ้านริมน้ำ นำโดยนายรณฤทธิ์ คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร, กลุ่มอดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นำโดยนายธวัชชัย อนามพงษ์, กลุ่มอดีต ส.ส. ส.ข. และ ส.ก. กทม. พรรค ปชป. นำโดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 
    นอกจากนี้ ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคใต้ มาด้วยเช่นกัน 
    ทั้งนี้ ในงานได้มีการจัดเลี้ยงอาหารบุฟเฟต์ ขณะที่ตลอดทั้งวันมีประชาชนทยอยมาต่อแถวสมัครสมาชิกพรรคยาวเหยียด โดยมีนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค ดูแลการรับสมัครด้วยตัวเอง
    ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอุตตม ในฐานะหัวหน้าพรรค ขึ้นเวทีกล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ตนเชื่อว่าภายใต้พรรค พปชร. ประเทศไทยจะก้าวสู่ความสงบ ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ก่อนหน้านี้ตนไปที่ไหนมีแต่คนอยากมาร่วมกับเรา ตอนนี้พรรค พปชร.พร้อมให้ทุกคนเข้าร่วมแล้ว วันนี้พวกเรามากันหลากหลาย เปิดกว้างให้กลุ่มคนเดิม คนรุ่นเก่าแต่เก๋าด้วยประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ไฟแรง ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากที่สุด 
    "ยืนยันพวกเราไม่มีตัวแทนอื่นใด ไม่มีพรรคสำรอง มีพรรคเดียวคือพรรค พปชร. และเราจะเดินอย่างตรงไปตรงมา เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง วันนี้เรามีความพร้อมมีโอกาสมาแต่มีเวลาไม่มาก เราจะต้องนำเสนอตัว นำเสนอนโยบายให้แก่ประชาชน จากนั้นเพื่อนร่วมอุดมการณ์จะมาเพิ่มเติมจำนวนมาก จากนี้ไปเราจะต้องทำงานกันอย่างหนัก แต่เราพร้อมย้ำว่าไม่มีกลุ่ม ไม่มีสีเราจะขับเคลื่อนประเทศไทยจากนี้ไป" นายอุตตมกล่าว 
ประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่
    จากนั้นนายสนธิรัตน์ขึ้นเวทีกล่าวในฐานะแม่บ้านพรรคว่า  วันนี้เป็นการประกาศศักดาของ พปชร.และตนไม่เชื่อสายตาว่าวันนี้เราจะสามารถรวบรวมคนได้มาก แปลว่าพรรคนี้ประมาทไม่ได้ และมีคนบอกว่าพรรคพปชร.มีแค่ 4 กุมาร ตนก็มองว่าอายุจะ 60 ปีกันหมดแล้ว จะเป็น 4 กุมารได้อย่างไร แต่วันนี้ข้างหลังกุมารมีนินจา สมาชิกวันนี้เป็นวันประกาศศักดาก้าวที่ 1 ของพรรค
    หลังจากนั้น นายสนธิรัตน์ได้ขอให้อดีต รมต.จากทุกรัฐบาลที่เข้ามาร่วมกับพรรค พปชร. อดีต ส.ส.และคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นโชว์ตัว พร้อมกล่าวว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และว่า "ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือ พปชร.ที่ทุกคนมาอยู่ร่วมกันมาเยอะขนาดนี้ จะไม่กวาด 350 เสียงได้อย่างไร "
    "ในฐานะแม่บ้านพรรค ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมอุดมการณ์พรรค พปชร. และครั้งนี้ถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ว่าประเทศไทยมีทางออกแล้วตั้งแต่มีพรรค พปชร. และถ้าไม่มีพรรค พปชร.ประเทศไร้ทางออกโดยสิ้นเชิง ยืนยันประเทศไทยอยู่ในมือ และพรรค พปชร.อยู่ในมือทุกคน" เลขาธิการพรรค พปชร. ระบุ
    ต่อมาบนเวทีมีการเชิญตัวแทนแต่ละพรรค รวมทั้งกลุ่มสามมิตร ขึ้นรับมอบเสื้อแจ็กเกตสีขาว ที่มีโลโก้พรรค พปชร. โดยนายอุตตมและสนธิรัตน์เป็นผู้สวมใส่ให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าทุกคนได้เข้าร่วมพรรค พปชร.แล้ว
    สำหรับอดีต ส.ส.ที่ขึ้นเวทีเป็นที่น่าสนใจ อาทิ นายปัญญา จินาคำ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน, นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท, นายมงคล จงสุทธนามณี อดีต ส.ส.เชียงราย เป็นต้น 
    จากนั้น นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค ได้กล่าวทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคถึงระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ปฏิบัติอย่างระมัดระวังและรอบคอบ รวมถึงขั้นตอนการรับสมัครบุคคลเข้าเป็นสมาชิกพรรค 
    หลังจากนั้น นายสุริยะ แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้กล่าวเปิดใจบนเวทีว่า ประสบการณ์สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย ซึ่งคิดว่ายิ่งใหญ่แล้ว แต่วันนี้เป็นความยิ่งใหญ่มากกว่าสมัยเปิดพรรคไทยรักไทย คิดว่าน่าจะเป็นการเตรียมการที่ดี องค์ประกอบ และผู้ที่มาในวันนี้ มีผู้สมัคร 350 คน และบัญชีรายชื่อรวม 500 คน 
    "คุณภาพคับแก้วทั้งนั้น วันนี้รู้สึกดีใจ เพราะตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ผมถูกผู้สื่อข่าวถามหรือกระแนะกระแหนว่าเมื่อไหร่จะนำพรรคสามมิตรเข้าพรรค พปชร. มัวแต่ต่อรองกันอยู่ วันนี้จึงนำกลุ่มสามมิตรเข้ามามอบตัวกับเลขาธิการพรรค ต่อจากนี้ไปจะไม่มีกลุ่มสามมิตรจะมีแต่พรรค พปชร." นายสุริยะกล่าว
    นายสุริยะกล่าวถึงเบื้องหลังกลุ่มสามมิตรว่า เมื่อประมาณวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือสมัยอยู่พรรคไทยรักไทยด้วยกัน ท่านบอกว่าถ้าไม่มีพรรคทางเลือกใหม่ให้ประชาชน การเลือกตั้งครั้งใหม่ 2 ขั้วเดิมมา เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ก็คงจะเกิดวิกฤติทางการเมืองอีก ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์ที่ทหารเข้ามา ถ้าเราไม่ต้องการเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็ต้องมาเป็นพรรคทางเลือกใหม่ ท่านก็ให้ตนช่วยประสานกลุ่มต่างๆ มาร่วมอุดมการณ์นี้ จากนั้นผ่านมา 8 เดือน เราได้ผู้สมัครครบ 500 คน ต่อไปนี้จะเป็นหลักชัยที่ 2 ที่เราจะต้องทำให้ได้คือต้องชนะเลือกตั้งให้ได้อย่างน้อย 150 คน 
    "วันนี้ยิ่งมั่นใจ เพราะได้พบดาวรุ่งไทยปรากฏใหม่คือนายสนธิรัตน์ จึงอยากจะขอร้องให้ท่านลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี เพื่อขึ้นปราศรัย และหลักชัยที่ 3 เราต้องก้าวข้าม ถ้าได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สิ่งสำคัญจะทำอย่างไรให้พรรค พปชร.อยู่ในหัวใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ตรงนี้เป็นงานหนัก" นายสุริยะกล่าว
ยังไม่เคาะประยุทธ์ลงนายกฯ
    ขณะที่นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่เราเข้าสู่สนามเลือกตั้ง จะบอกว่าง่ายก็ง่าย แต่ต้องยอมว่ากระแสตกค้างความนิยมของพรรคคู่แข่งที่มีมากพอสมควร ด้วยประสบการณ์จากการเลือกตั้ง 10 สมัย อยากบอกว่าถ้าเราไม่นำสิ่งดีๆ ที่มีเข้าไปเปลี่ยนความรู้สึกของคนที่มีกระแสเดิมอยู่ โอกาสเพื่อนำไปสู่ชัยชนะก็จะยาก
    ด้านนายอุตตม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีหลายกลุ่มเข้ามาเป็นสมาชิก จะมีแนวทางการบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดความเป็นเอกภาพว่า ทุกคนที่เข้ามาใน พปชร.ถือเป็นกลุ่มเดียว คือพลังประชารัฐ ไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก่อนหน้านี้อาจจะมี แต่เมื่อวันนี้เดินเข้ามาแล้วต้องอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเดียวกัน 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี น.ส.วันทยา วงษ์โอภาสี มาดามเดียร์ เข้าร่วมพรรค พปชร. ทางพรรค ปชป.มองว่าพปชร.ครอบงำสื่อ นายอุตตมกล่าวว่า ทำไมไปคิดแบบนั้น เราเปิดกว้างทางการเมือง จะมาตั้งแง่ทำไม คนที่มีความตั้งใจจะเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อชาติ ไม่ว่านามสกุลไหน ทั้งหมดอยู่ที่ตัวบุคคล อย่าไปมองที่นามสกุล
    เมื่อถามว่า สรุปจะเสนอใครเป็นนายกฯ นายอุตตม กล่าวว่า คำถามนี้เร็วเกินไป วันนี้เราเพิ่งได้รับการรับรองความเป็นพรรคการเมือง ขอเวลาให้พรรคได้มีการหารือแล้วจึงจะได้สรุปจะเสนอใครเป็นไปตามจังหวะเวลาตามกฎกติกากำหนด ช่วงนี้ต้องขอหารือเป็นการภายในก่อน กรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องไปถามตัวท่านเองว่าพร้อมเสนอตัวทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ 
    ถามว่า สรุปว่า 4 รัฐมนตรีพรรค พปชร.จะลาออกจากตำแหน่งได้เมื่อไร หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า คำตอบเดิมคือ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการสวมหมวก 2 ใบ ถูกมองว่าสร้างความได้เปรียบนั้น ขอให้ดูที่พฤติกรรมการทำงานของพวกเราจะดีกว่า ว่าเอาเปรียบตรงไหน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มี หรือถ้าเห็นให้ชี้มาเลย 
    "ต้องยอมรับเวลามีไม่มากในการเป็นพรรคใหม่ แต่ไม่ได้กังวลอะไร เพียงแต่ทุกคนในพรรคต้องทำงานหนักในส่วนของเรา แต่มั่นใจว่าทำได้แน่" นายอุตตมกล่าว
    นายสุริยะให้สัมภาษณ์ว่า หลังการสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว บทบาทของตนและนายสมศักดิ์จะเป็นแค่สมาชิก ขึ้นอยู่กับผู้บริหารจะมอบหมายให้ดำเนินการอะไร และจะมีการสลายกลุ่มสามมิตรทันที และจะไม่มีการตั้งมุ้งในพรรคแน่นอน มั่นใจว่าพรรคจะมีความเอกภาพ 
    ส่วนกรณีที่ระบุว่ากลุ่มสามมิตรไปรับใช้ทหารนั้น นายสุริยะกล่าวว่า ตนเป็นพลเรือน ไม่อยู่ใต้บังคับบัญชาของทหาร หลังเลิกเล่นการเมืองไปกว่า 10 ปี ก็มีคนที่เคยทำงานในพรรคไทยรักไทยด้วยกัน ซึ่งตนให้ความเคารพมาชักชวนให้กลับมาทำงานการเมือง ซึ่งตนมองว่าจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองใหม่ ไม่เช่นนั้นการเมืองจะเป็นแค่การต่อสู้ของ 2 พรรคเดิม ซึ่งอาจจะเกิดวิกฤติการเมืองหลังเลือกตั้งอีก จึงต้องการให้ประชาชนมีทางเลือก 
    ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับเลือกจากพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เชื่อว่าจะได้เป็น ส.ส.ทั้งหมดเพราะมีความพร้อมทั้งตัวบุคคลและนโยบายและการสนับสนุนจากพรรค รวมถึงผลงานของรัฐบาลที่พรรคจะสานต่อ ดังนั้นหากผู้สมัครขยัน ก็มีโอกาสเป็น ส.ส.สูง ไม่ใช่เฉพาะคนที่มาจากกลุ่มสามมิตรเท่านั้น และในขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนแล้ว     
ปชป.จับตาเป่าคดีช่วยนายทุน
    ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวถึงการมาร่วมกับพรรค พปชร.ว่า เนื่องจากต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าได้ ไม่ใช่ประชาธิปไตยข้างถนน แบบนั้นไม่ทำบ้านเมืองเดินไปไหนได้ 
     นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร กลุ่มบ้านริมน้ำ เปิดเผยว่า อีกประมาณ 1-2 วัน นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ที่ทำการพรรค วันนี้ตัวพร้อมผู้สมัครกลุ่มบ้านริมน้ำ 30 คน มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพราะเป็นรัฐบาลแน่นอน เนื่องจากมี ส.ว.สรรหาจำนวน 250 คน สนับสนุน และนโยบายดีประชาชนชื่นชอบ ส่วนที่มองว่าเป็นพรรคของทหาร ขอถามว่าไม่มีพรรคใดที่ไม่มีทหารสังกัดพรรค
    ที่ จ.กาญจนบุรี มีรายงานว่า พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีต ผบก.กาญจนบุรี, นายสมเกียรติ วอนเพียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำรอง อ.ท่าม่วง, นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรค ปชป., นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ กาญจนบุรี พรรค ปชป. เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กทม.เรียบร้อยแล้ว
    ทางด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.เปิดตัว น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ภรรยาของนายฉาย บุนนาค ที่มีคดีปั่นหุ้นอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ถือเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลใช้อำนาจรัฐชิงความได้เปรียบทางการเมือง จากก่อนหน้านี้ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะลงพื้นที่หาเสียงก่อน หรือ 4 รัฐมนตรีไม่ยอมลาออก เพื่อปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และยังมีกรณีนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชายนายสุริยะ ก่อนหน้านี้บริษัทของเขาก็ถูก ก.ล.ต.สั่งห้ามขายหุ้นมาเป็นปี แต่พอมาสมัคร พปชร.ก็ขายหุ้นได้   
    "ทำให้การดึงทั้ง 2 คนนี้ มองว่าเป็นการสนับสนุนทุนทางการเมืองใช่หรือไม่ และ น.ส.วทันยาก็ยังดำเนินธุรกิจสื่อสารมวลชนอยู่หลายแห่ง อาจเป็นข้อแลกเปลี่ยนใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ ขณะที่คดีความของสามี หากสุดท้ายดีเอสไอไม่ฟ้องก็จะตอบโจทย์ก็จะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่มีคดีอยู่ใช่หรือไม่  หากเป็นเช่นนั้นจริง จะกระทบต่อกระบวนยุติธรรม เสียหายทั้งสายตาคนไทยและต่างชาติ จึงอยากเตือนว่าให้ผู้มีอำนาจหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ ที่มีตัวอย่างมาก่อนแล้วอย่างระบอบทักษิณเคยทำมา จนตัวเองไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่หยุดอาจกลายเป็นระบอบประยุทธ์ สุดท้ายประชาชนจะออกมาต่อต้านเช่นกัน” นายสาธิตกล่าว
     นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป. กล่าวว่า กรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร.มีคดีติดตัวหรือสามีมีคดีในตลาดหลักทรัพย์ หรือบิดาอยู่ในกระบวนการยุติธรรมหรืออยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าถ้าถูกจำคุกอยู่ก็จะได้รับการพักโทษง่ายๆ หรืออ้างว่านำมารักษาพยาบาลนอกเรือนจำ ถ้าถูกแขวนป้ายห้ามถือหุ้นก็ซื้อขายหุ้นได้ทันที ถ้าถูกฟ้องปั่นหุ้นก็อาจจะหลุดคดีได้เช่นกัน ยุคนี้จึงเป็นยุคที่มีอำนาจพิเศษที่สามารถดลบันดาลได้ตามใจชอบ หากยินยอมเป็นเครื่องมือให้กับพรรคพลังประชารัฐ ระบบนิติรัฐนิติธรรมกำลังถูกแทรกแซงอย่างหนัก จนประชาชนถามไถ่กันว่าความยุติธรรมนั้นอยู่ที่ไหน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"