แนวคิดใหม่-แปลกจะมาพร้อมกับยุคใหม่กรุงรัตนโกสินทร์


เพิ่มเพื่อน    


                       ภาพดวงเมือง
มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ
พระพฤหัสบดีจร (5) และพระเสาร์จร (7) เริ่มแตะ-ร่วมราศีกันในราศีธนู 2 มีนาคม 2562
     หลังจากเขียนแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 247 ชื่อตอน รุ่นใหม่-ความคิดใหม่ผุดกลางเมือง แล้ว ตอนนี้เรามาคาดหมายกันว่าผลของคนรุ่นใหม่และความคิดใหม่ที่กำลังก่อตัวจะกระทบอะไรกับเมือง
    เมื่ออ่านจากปรากฏการณ์ทางดวงดาวจรที่เดินมาทำมุมกับดวงเดิมดวงเมืองแล้ว มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะมี สองเหตุการณ์ใหญ่ ที่จะเกิดซ้อนกันในเมืองรัตนโกสินทร์ที่เมืองต้องเผชิญ คือ
    1.ปรากฏการณ์มาของมฤตยูจรเจ้าของภัยอาเพศ-เหตุร้าย-เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยน การพลัดพรากจากกัน การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด การปฏิวัติ การเนรเทศ ฯลฯ ที่เดินมาทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) ดวงเมืองเป็นรอบที่สามนับตั้งแต่วางเสาหลักเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เป็นต้นมา
     ผลของมฤตยูจรที่ทับลัคนาเมืองรอบนี้ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2559 เป็นต้นมา และจะอยู่ที่ไปถึงวันที่ 8 กรกฎาคม2565 นั้น ผู้เขียนได้ย้ำไว้หลายรอบแล้วว่าเมือง-การเมือง-บุคคลสำคัญ-ผู้นำในองค์กรต่างๆจะเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในระดับที่ เมื่อเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเมื่อกรกฎาคม 2565 แล้วเราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
    และขนาดมฤตยูมาทับลัคนาเมืองยังไม่ถึงครึ่งทางหลายคนที่ติดตามบทความของผู้เขียนมาตลอดพากันออกปากว่า ทั้งเมือง-โลก-ชีวิต-สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ผู้เขียนก็ได้แต่ให้กำลังใจไปเพื่อให้กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนที่จะถูกเปลี่ยน หรือไม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
    ในส่วนของเมืองรัตนโกสินทร์นั้น แม้จะมีทั้งทุกข์-สุข-ดี-ร้ายเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่พอมาถึงวันนี้ที่เราผ่านพ้นช่วงน้ำตานองแผ่นดินไปแล้ว ผู้เขียนมั่นใจว่าการมาถึงของมฤตยูจรรอบนี้ น่าจะใกล้เคียงกับการมารอบแรกอันเป็นระยะเวลาประมาณเจ็ดปี ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ และทรงเริ่มเตรียมความพร้อมของประเทศไว้ให้ก้าวหน้า-เป็นตะวันตกครั้งแรกของประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อรับมือภัยคุกคามจากชาติจะวันตก จึงจะไม่เหมือนหรือคล้ายกับการมาถึงของมฤตยูจรรอบที่สองในคราวปฏิวัติสยาม 2475 
    ส่วนพระอาทิตย์ (๑) อันหมายถึงการเมือง-พรรคการเมือง-บุคคลสำคัญที่ถูกมฤตยูจรทับอยู่ด้วยนั้น ก็คงเต็มไปด้วยความพลิกผัน-ล็อกถล่มตลอดทาง รวมทั้งผลการเลือกตั้งด้วย
    2.ระยะเวลาเจ็ดปีที่มฤตยูจรทับลัคนาดวงเมืองอยู่นี้ จะเกิดปรากฏการณ์สำคัญแทรกเข้าที่ผู้เขียนบอกไว้ในหนังสือลอกคราบใหม่ประเทศไทย (ตีพิมพ์มกราคม 2558) และในหนังสือศาสตร์แห่งโหร 2562 ของสำนักพิมพ์มติชน ที่กำลังวางตลาดขณะนี้ว่า เมืองจะเข้าสู่ ยุคใหม่ที่ 13 กรุงรัตนโกสินทร์จะค่อยๆ ก่อตัวแล้วปรากฏขึ้นที่ปลายขอบฟ้าตั้งแต่ 2 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป
     ทั้งนี้ เกิดจากปรากฏการณ์พระพฤหัสบดีจร 5 และพระเสาร์จร 7 เริ่มสัมผัส-แตะในราศีเดียวกัน ที่ราศีธนูโดยยุคนี้จะกินระยะยาวนานไปถึงยี่สิบปี (ถึงประมาณกุมภาพันธ์ 2582)
    โดยยุคที่สิบสามของกรุงรัตนโกสินทร์นี้จะเป็นยุคที่ผู้เขียนเคยทำนายอาการไว้ในหนังสือลอกคราบใหม่ประเทศไทยว่า
     2.1.จะเป็นยุคที่จะโดดเด่นด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย การขนส่ง กิจการไปรษณีย์ที่เกี่ยวกับการส่งของทั้งทางรถไฟ ถนนรถโดยสาร รถยนต์ และการจราจรทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพิ่มการบินในประเทศใน-ต่างประเทศ การค้าระหว่างรัฐ ค้าชายแดน ภาษีศุลกากรระหว่างรัฐ การทหารเรือ การเดินเรือ กฎหมาย และนักกฎหมาย การโฆษณา โชค และศีลธรรมด้วย
    ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็วให้เห็นแล้ว เช่นกิจการของไปรษณีย์-ส่งของ การผุดขึ้นของกิจการโลจิสติกส์เอกชน เช่น เคอร์รี่ ลาซาด้า และอื่นๆ รวมทั้งคนของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านส่วนใหญ่เคยมองแต่เครื่องบินบนท้องฟ้ากลับพากันบินว่อนไปหมด เป็นเทวดากับนางฟ้าไปทั้งเมือง รวมทั้งนักกฎหมายบางคนที่โดดเด่นออกมาทำหน้าที่แทนประชาชน ฯลฯ
     2.2.ผู้เขียนขอพยายามจะโยงให้เห็นถึงปรากฏการณ์เกิดขึ้นของนักการเมืองรุ่นใหม่-ความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นกลางกรุงรัตนโกสินทร์ในขณะนี้ กับขบวนการเริ่มปรากฏของยุคใหม่เมืองที่เคยทำนายไว้ในหนังสือลอกครอบใหม่ประเทศไทย (กรีน ปัญญาญาณ-ตีพิมพ์มกราคม 2558) ว่า จะเป็นยุคที่โดดเด่นด้าน ปรัชญา ลัทธิการเมือง ความคิดอ่านของประชาชน ศาสนา (พฤหัสบดีจร 5 ร่วมกับพระเสาร์จรที่ภพศุภะดวงเมืองเป็นลำดับแรก)
    ในอดีตการร่วมกันของพฤหัสบดีจรและเสาร์จรในราศีธนูนี้ เคยเกิดแนวความคิดแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่สู้กันยาวนานในประเทศ
    รอบนี้ต้องระวังสิ่งที่กำลังจะก่อตัวของ คนใหม่-ความคิดใหม่ๆ ที่เริ่มจะเห็นกันบ้างแล้ว เช่นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย หรือทางเศรษฐกิจก็เรื่อง รายใหญ่ผูกขาด แย่งชาวบ้านรายเล็กรายย่อยทำมาหากินระดับยึดประเทศ
    และยังต้องรอว่าต่อไปแนวความคิดอะไรจะผุดขึ้นมาอีกแล้วจุดติด กลายเป็นการต่อสู้กันทางความคิดไปสู่ความรุนแรง ถ้าจัดการไม่ดี-ตกลงกันไม่ได้
     ในชั้นนี้ผู้เขียนขอลองตั้งข้อสังเกตไปที่การค้าปลีกที่ได้เขียนไว้ในศาสตร์แห่งโหรปี 2561(สำนักพิมพ์มติชน)ว่าต้องเปลี่ยนแปลง (พระราหูจร 8 ทับพระจันทร์ดวงเดิม ๒) หากรัฐบริการจัดการไม่ดี ปล่อยให้รายใหญ่กินรวบประเทศแล้วละก็ คลื่นความไม่พอใจที่ก่อตัวพร้อมยุคใหม่อาจจะพัฒนากลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ในเมืองแทรกให้ชาวเมืองพลอยทุกข์ได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"