กระทรวงเกษตรฯ ช่างฉลาดล้ำ ปิ๊งแผนฉุดราคายาง ขอแรงเกษตรกรหยุดกรีดยางทั่วประเทศ 1 เดือน มั่นใจไทยมีกำลังผลิตเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดโลก เมื่อส่วนนี้หายไป จะทำให้พ่อค้าซื้อขายล่วงหน้ามาออดอ้อน ล้วงเงินแผ่นดินชดเชยให้ไร่ละ 2 พัน ส่วนจะเตะหมูเข้าปากประเทศผู้ผลิตอื่นหรือไม่ ขอไปตายเอาดาบหน้า
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันศุกร์ที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ประชุมร่วมกับผู้แทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยาง นำโดยนายมนัส บุญพัฒน์ จากสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย, นายทศพล ขวัญรอด ภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์ม, นายเรืองยศ เพ็งสกุล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชาวสวนยางรายย่อย, นายทวี ขวัญศรีสุทธิ์ สมาคมผลิตยางแผ่นลุ่มน้ำทะเลใต้ และนายนิวัฒน์ ท่องวิถี กลุ่มรับซื้อน้ำยางหน้าสวน หารือถึงแนวทางแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ก่อนที่นายกฤษฎาจะเปิดเผยว่า ทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงเกษตรฯ ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และผู้แทนเกษตรกร เห็นตรงกันว่ามาตรการที่จะยกระดับราคายางพาราได้อย่างรวดเร็วที่สุด คือการหยุดกรีดยางพร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งได้ให้ทางเครือข่ายไปสอบถามชาวสวนยางทั่วประเทศว่าเห็นด้วยหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ทั่วโลกใช้ยางพาราเดือนละ 1.4 ล้านตัน เป็นผลผลิตยางจากประเทศไทย 400,000 ตัน หากไทยหยุดกรีดยาง ยางพาราจะหายจากตลาดโลกไป 400,000 ตัน ใน 1 เดือน ทำให้ผู้ที่ทำสัญญาซื้อขายตลาดล่วงหน้าเมื่อถึงกำหนดต้องส่งสินค้าจะหาสินค้าไม่ได้ต้องมาซื้อยางของไทย จึงจะฉุดให้ราคาสูงขึ้น
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้แทนเกษตรกรถึงรายได้จากการกรีดยาง 1 เดือนต่อไร่ อยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท รัฐจะชดเชยค่าเสียรายได้ให้ 2,000 บาทต่อไร่ เป็นมาตรการที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรไม่มีการบังคับ หากเห็นด้วยและกำหนดมาตรการดูแลกันเองไม่ให้มีผู้แอบกรีดยางขายได้แล้ว จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณมาดำเนินตามมาตรการนี้
สำหรับบริษัทผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไทยฮั้วรับเบอร์, บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี, บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์, บริษัท วงศ์บัณฑิต และบริษัทไทยรับเบอร์ ลาแท็คซ์กรุ๊ป นายกฤษฎากล่าวว่า ได้ร่วมมือรับซื้อน้ำยางดิบที่กิโลกรัมละ 37 บาท ยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 37 บาท และยางแผ่นดิบรมควันกิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหน้าสวน ส่วนมาตรการจูงใจทางภาษีนั้น กำลังหารือกับกระทรวงการคลังว่าหากซื้อล้อยางที่ผลิตจากยางในประเทศ แล้วให้นำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีเงินได้ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงปลายปี ทุกปีกรมสรรพากรจะเก็บภาษีตั้งแต่เดือนมกราคม จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสม หากทำได้โดยไม่ขัดกับกฎหมายภาษี
นายกฤษฎากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้แทนเกษตรกรทวงถามถึงความคืบหน้าการใช้ยางพาราของหน่วยงานภาครัฐเพื่อดูดซับยางออกจากตลาด ขณะนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการ โดยเริ่มจากการจัดทำและประกาศราคากลางสำหรับถนนยางพาราดินซีเมนต์ เพื่อให้ทุกหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างได้โดยไม่ขัด พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งจะทราบผลต้นสัปดาห์หน้า ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร กำลังพิจารณาว่าจะให้ไร่ละ 1,500 บาท หรือ 1,800 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งต้องดูความเหมาะสม
“ผู้แทนเกษตรกรยังเสนอให้ชดเชยกรณีภาคเอกชนรับซื้อยางแผ่นดิบรมควันราคาต่ำกว่าราคา FOB หากต่ำกว่าเท่าใด ให้ กยท.ชดเชยให้เท่ากัน ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรรายย่อยที่ขายน้ำยางดิบ แปรรูปเป็นยางแผ่นดิบรมควัน ซึ่งได้ราคาสูงกว่า อีกทั้งจะดึงให้ราคาน้ำยางดิบสูงขึ้นด้วย จึงมอบหมายให้ กยท.นำไปพิจารณา” นายกฤษฎากล่าว
ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกช็อก ระคนเจ็บปวดและเสียใจแทนเกษตรกรชาวสวนยาง เมื่อรู้ความจริงจาก รมว.เกษตรฯ ว่าสต๊อกยางพาราของรัฐบาล 100,000 ตัน หรือยางแผ่น 100 ล้านกิโลกรัม ยังอยู่ในโกดังรัฐ โดยไม่เคยเอาออกมาใช้ ซ้ำต้องเสียค่าเช่าโกดังเก็บยางเหล่านี้อีกปีละ 120 ล้านบาท น่าเศร้าที่ กยท.ซื้อยางเก็บไว้ตั้งแต่ ปี 2556-2557 สมัยใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นรัฐมนตรีเจ้าของนโยบายซึ่งคงรวยกันไปแล้ว ทุกคนคงรู้ว่าเป็นใคร จนมาถึงรัฐบาลนี้ ทั้งที่พวกตนเคยเสนอรัฐบาลให้สั่งส่วนราชการเอามาแปรรูปเพื่อใช้ในประเทศ ทั้งทำถนนยางพารา ทำเขื่อนยาง อ่างเก็บน้ำ สนามกีฬา สนามเด็กเล่น ห้องเรียนเด็กเล็ก สารพัดที่สามารถนำมาใช้ทำได้
"ผมทำนายว่า ถ้ามีการตรวจยางในโกดังต่างๆ ที่รัฐบาล คสช.เช่าเก็บไว้ขณะนี้ จะพบมหากาพย์เรื่องยางอีกแน่นอน ทั้งยางเน่า ยางหาย หรือยางขาดไม่เท่าจำนวน หรือยางลม ที่มีแต่ยอด แต่ไม่มีของ เสียแต่ค่าโง่จากค่าเช่าโกดัง" นายสมบูรณ์กล่าว และว่า ขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีเกษตรฯ เปิดเผยถึงการตรวจสอบยางในสต๊อกรัฐว่ามีอยู่เท่าไร ครบเต็มจำนวน 100 ล้านกิโลกรัม หรือ 100,000 ตันหรือไม่ และมียางที่สามารถใช้ได้ปริมาณเท่าไร ขอให้เร่งเอามาใช้ อย่าเสียค่าโง่อีกต่อไปเลย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |