สหรัฐยังเร่งค้นหาเหยื่อไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียที่เผาทำลายเมืองทางเหนือราบคาบไปทั้งเมืองก่อนหน้านี้ ขณะจำนวนผู้สูญหายเพิ่มเป็นมากกว่า 600 รายแล้ว

ภาพถ่ายทางอากาศเผยสภาพของชุมชนหนึ่งในเมืองพาราไดซ์รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2561 ที่โดนไฟป่าแคมป์เผาวอดวาย / AFP

ไฟป่าแคมป์เริ่มปะทุเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนบริเวณเชิงเขาเซียร์ราที่อยู่ห่างจากนครซานฟรานซิสโกทางเหนือราว 280 กิโลเมตร และกำลังถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งในไฟป่าครั้งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในสหรัฐอเมริการอบ 100 ปี ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน มีข้อมูลยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่า ไฟป่าแคมป์ได้คร่าชีวิตคนแล้วอย่างน้อย 63 คน

สาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นเพราะกระแสลมกระพือให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสภาพแห้งแล้งของต้นไม้และป่าละเมาะ ทำให้ไฟเผาผลาญเมืองพาราไดซ์ ซึ่งมีประชากร 27,000 คน จนวอดวายเกือบทั้งเมือง มีบ้านเรือนเกือบ 9,000 หลังและอาคารอีกหลายหลังกลายสภาพเป็นเถ้าถ่านหรือโครงสร้างไหม้เกรียมภายในไม่กี่ชั่วโมง ยังมีสิ่งปลูกสร้างอีกหลายพันหลังที่เสี่ยงต่อไฟป่าแคมป์ และประชาชนกว่า 50,000 คนถูกอพยพออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งจำนวนมากเดินทางไกลมาจากรัฐอื่นๆ กำลังพยายามควบคุมเพลิง

ตำรวจเตรียมเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตที่พบภายในรถยนต์ซึ่งโดนไฟป่าแคมป์เผาไหม้เกรียม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา / AFP

ขณะเดียวกัน สำนักงานนายอำเภอบัตต์เคาน์ตีเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนประชาชนที่สูญหายและเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบชะตากรรมนั้น เพิ่มจาก 297 คนในวันก่อนหน้านั้น เป็น 630 คนแล้ว แต่คอรี ฮอเนีย นายอำเภอบัตต์เคาน์ตีกล่าวว่า รายชื่อผู้สูญหายนั้นยังไม่นิ่ง เนื่องจากมีชื่อถูกเพิ่มและลบออกอยู่ตลอดเวลา อาจทั้งบุคคลในรายชื่อมาปรากฏตัวหรือกลายเป็นผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว