เคยบอกกับลูกว่าจะไปบวชตลอดชีวิต สำหรับนักแสดงสาว ท็อป-ดาราณีนุช โพธิปิติ ที่หลังจากเจอมรสุมชีวิตมากมาย รวมทั้งเรื่องความรัก ที่เจ้าตัวออกปากว่า "ไม่เข็ด" แต่ "ไม่เอาแล้ว" ซึ่งภายหลังนักแสดงสาวก็ได้พบกับความสุขจากทางธรรม 
          "ทำไมแก๊งค์เพื่อนสนิทถึงกลายเป็นซิงเกิลมัมหมดไม่รู้เหมือนกัน จริงๆแล้วอาจจะเดินทางมาถึงช่วงหนึ่งของชีวิต ช่วงที่เราหย่าก็อายุประมาณ 40 กว่า ถึง 50 อะไรประมาณนี้ หัวหน้าแก๊งที่เลิกกับสามีคนแรก น้องนุ่น ดารัณ น่าจะเลิกก่อน แล้วก็เป็น ผัดไท ดีใจ แล้วก็มาเป็นดาราณีนุช ก็ไล่เรียงกันมา ถามว่าเป็นอุปทานหมู่ไหม ก็ไม่นะ คือทุกคนก็มีเรื่องราวในชีวิตขึ้นมาพร้อมๆกัน เพียงแต่หนังของใครจะถึงจุดพีคก่อนกัน
           ผู้ชายกลัว เพราะว่ากิริยาไม่เหมือนผู้หญิง แล้วเคยมีแบบคุยทางไลน์ คือเขาเป็นผู้ใหญ่หน่อย คือเรื่องของเรื่องเขาเริ่มส่งรูปตัวเองวิ่งมา ส่งรูปนู่นนี่นั่นมา ตอนหลังเขาเริ่มบอกว่าเราน่าจะกินข้าวกันนะ เราก็เลย บล็อกเลย เราไม่ชอบเขามีภรรยาแล้ว คือเราจะเป็นคนแบบนี้ คือมันเป็นเรื่องจุกจิก เรารู้สึกว่าเราออกมาจากลูปตรงนี้แล้ว เวลาเราเห็นทุกคู่เขาประคับประคองมีความสุข เราก็ชื่นชมจริงๆ พูดจากใจเฮ้ยชีวิตที่ดีมันเป็นแบบนั้นแต่วาสนามันเกิดจากกรรมที่เราทำ เรารู้ว่านิสัยเราเป็นแบบนี้ เรามีคู่ชีวิตมันมีได้หลากหลายอาจจะมาในรูปแบบเพื่อน ลูก กัลยาณมิตรต่างๆ เราก็เลยรู้สึกว่าจะต้องเปิดใจหาใครมาเป็นคู่ชีวิต ไม่เข็ดนะแต่ไม่เอาแล้ว มันเหมือนเราเข้าใจว่าโครงสร้างความรักมันก็เป็นแบบนี้
          ครั้งนึงพี่เคยบอกลูกว่าจะไปบวชตลอดชีวิต เคยพูดกับลูก คือครั้งนึงเราไปอยู่วัดแล้วเรามีความสบายใจมีความสุข ตอนนั้นเราเป็นซิงเกิลมัมแล้ว ก็บอกกับลูกว่าวันนึงแม่อาจจะไปบวชเป็นแม่ชีนะ ลูกก็เงียบ คนโตเงียบแล้วคนเล็กบอกว่าผมเข้าใจ แม่เหนื่อยมาเยอะ ซึ่งพอวันนึงที่ลูกไปบวชหลังจากเขาบวชเสร็จเขาบอกว่าผมเข้าใจแม่ที่แม่จะไปบวชตลอดชีวิต ผมยินดีนะ 
          มันจะมีวันนั้นไหม ก็คิด แต่ถามว่าตลอดชีวิตไหม ไม่กล้าพูดนะ เพราะบางอย่างถ้าเราทำไม่ได้อย่าเพิ่งพูด แต่เรื่องของการบวชเนี่ยเราตั้งใจจะทำ"