'ปูติน'อวยพร'บิ๊กตู่' จัดเลือกตั้งปี62สำเร็จ/แกนนำพท.ทะลักเข้าทษช.


เพิ่มเพื่อน    

    "ปูติน" อวยพรให้เลือกตั้งไทยปี 62   ประสบความสำเร็จ กกต.ติวเข้มผู้ตรวจการเลือกตั้ง“อิทธิพร” แนะยึดมาตรฐานจริยธรรมใช้อำนาจโดยสุจริต ยันไม่มีปัจจัยเลื่อนเลือกตั้ง เตรียมประกาศแบ่งเขตเร็วๆ นี้ "จตุพร" ย้ำเลื่อนแน่ ซัด คสช.สลับหน้าเล่นโบ้ยให้ กกต.ไม่พร้อมจัดเลือกตั้ง ทษช.เปิดตัวสมาชิก "เสริมศักดิ์-พิชัย-ขัตติยา" เข้าร่วม พท.เปิดเซฟเฮาส์เคาะยุทธศาสตร์ให้คนแดนไกลร่วมตัดสิน "วิรัช" หอบครอบครัวซบ พปชร. "มิ่งขวัญ" โผล่นั่ง หน.พรรคเศรษฐกิจใหม่ รับเงื่อนไขส่งบัญชีนายกฯ คนเดียว 
    เมื่อวันพุธ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือทวิภาคีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการซันเทค สาธารณรัฐสิงคโปร์ ว่านายกฯ และประธานาธิบดีรัสเซียต่างยินดีที่หลังจากการพบหารือทวิภาคีที่ประเทศจีนเมื่อเดือน ก.ย.2560 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่ายได้นำผลการหารือไปผลักดันอย่างจริงจัง และยังมีแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยนายกฯ ใช้โอกาสนี้เชิญประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียเดินทางเยือนประเทศไทย และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ EAS ในปี 2562 ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน 
    "ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ และกล่าวอวยพรให้การเลือกตั้งของไทยในปีหน้าประสบผลสำเร็จ" พล.ท.วีรชนกล่าว 
    ที่อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายการสัมมนาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ตรวจการเลือกตั้งจากกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ กกต.ได้แต่งตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้ รวม 597 คน เข้าร่วมสัมมนา 
    โดยนายอิทธิพรกล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปมาก กกต.จึงประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความเข้มข้น โดยเฉพาะที่หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งจะมีผู้มีสิทธิในหน่วยเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ขณะที่กรรมการประจำหน่วยลดลง จึงอยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งได้เป็นที่ปรึกษาและสร้างขวัญกำลังใจกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และควรทำความรู้จักเครือข่าย กกต. อาทิ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตำบล (ศส.ปชต.) หมู่บ้านไม่ขายเสียง ขอให้ศึกษาทำความเข้าใจกฎหมายและระเบียบใหม่ๆให้มากขึ้น ให้ยึดถือมาตรฐานจริยธรรมเดียวกันกับ กกต. โดยการใช้อำนาจโดยสุจริต เที่ยงธรรม มีความกล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ เพื่อเป็นเกราะคุ้มภัยในการทำหน้าที่ของเรา
    “อยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างสามัคคี ขอให้ยึดถือสามัคคีคือพลังเป็นคาถาของเรา ในระยะเวลา 5 ปีที่จะมีชื่อในบัญชีเลือกตั้งนั้น อยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งทำความคุ้นเคยกับพื้นที่อื่นๆ นอกจากจังหวัดของตนซึ่งจะเป็นเรื่องที่สำคัญหากถูกจับฉลากไปอยู่ในพื้นที่อื่น ซึ่งในวันที่ 19 พ.ย.นี้ก็จะจับฉลากแล้ว การเลือก ส.ว.จะเป็นบททดสอบบทที่หนึ่ง และการเลือก ส.ส.จะเป็นบททดสอบที่สองของการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้ง และเชื่อว่าเราจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอิทธิพรกล่าว
    นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งล่าช้าไปจากกรอบเวลาที่กำหนดไว้ จนกลายเป็นประเด็นว่าอาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขใดที่จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ต้องเลื่อนออกไป หลังจากที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค. ทาง กกต.จะต้องมีการนัดพูดคุยกับแม่น้ำ 4 สาย ตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 แล้วหลังจากนั้น กกต.ก็จะไปหารือกับทางสำนักงานเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดย กกต.เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งมาโดยตลอด ในส่วนของสำนักงานก็ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ เป็นไปตามกรอบปฏิทินที่วางไว้ อาจจะมีล่าช้าบางประเด็นจากเรื่องทางเทคนิค ซึ่งไม่นับเป็นอุปสรรค 
จ่อประกาศเขตเลือกตั้ง
    "ขณะนี้ กกต.มีมติเลือกแล้วว่าจะใช้เขตเลือกตั้งในรูปแบบใด โดยตรวจสอบอย่างรอบคอบในทุกจังหวัดว่าทำได้จริงเป็นการเลือกรูปแบบที่ดีที่สุดตามที่ กกต.จังหวัดเสนอมา แต่ก่อนที่จะส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา กกต.ยังต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่ารูปแบบที่เลือกตรงกับรูปแบบที่จะจัดพิมพ์ไม่คลาดเคลื่อน เนื่องจากเขตเลือกตั้งลดลงจาก 375 เหลือ 350 เขต ไม่เท่าเดิม และไม่เหมือนเดิม ยืนยันไม่มีการพิจารณาเขตเลือกตั้งในรายจังหวัดใหม่ ส่วนเหตุที่ช้าเป็นเพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดตา มั่นใจว่าจะประกาศเขตเลือกตั้งได้ภายในเร็ววันนี้ โดยระหว่างนี้พรรคการเมืองก็สามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ไปได้พลางๆ ก่อน โดยไม่ต้องการประกาศเขตเลือกตั้งหรือการประชุมร่วมระหว่าง กกต.กับพรรคการเมืองในวันที่ 22 พ.ย.นี้" 
    ประธาน กกต.กล่าวว่า ในส่วนของผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น กกต.มีแนวปฏิบัติชัดเจนภายใต้โครงการ Visitor Program ซึ่งเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าสังเกตการณ์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากรัฐบาล เอ็นจีโอ หรือองค์กรระหว่างประเทศ โดยอียูก็เคยส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งไทยถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ กกต.สามารถตัดสินใจได้เองไม่ต้องขออนุญาต คสช. คาดว่าสำนักงานจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีบางคนไม่เห็นด้วยกับการเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศนั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นการกดดัน เชื่อว่าทุกฝ่ายก็เคารพความเห็นของ กกต.เช่นกัน เรื่องการเลือกตั้งจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรมด้วย 
    ขณะเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต. นายธวัชชัย สุทธิบงกช รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสามารถ แก้วมีชัย, นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.นำหนังสือของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค มายื่นต่อ กกต. เรียกร้องขอให้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเนื่องจากขณะนี้เลยกำหนดระยะเวลาที่ กกต.เคยประกาศไว้ว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 5 พ.ย. โดยนายสามารถกล่าวว่า ความล่าช้าในการแบ่งเขตจะมีผลต่อการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง เพราะการที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัครไ ด้จะต้องมีการจัดตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และต้องหาสมาชิกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นๆ ให้ได้ 101 คน แล้วจึงตั้งตัวแทนประจำจังหวัดได้ แต่เวลานี้ไม่แน่ใจว่าเขตเลือกตั้งในจังหวัดอยู่ตรงไหน ทำให้ลำบากต้องการหาสมาชิก 
    "ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งช้าก็ไม่กระทบ เพราะมีระยะเวลาที่จะสามารถประกาศได้ไปจนถึงวันที่ 10 ธ.ค. ฟังแล้วก็ตกใจว่านายวิษณุไม่ได้ทราบเลยว่าการประกาศแบ่งเขตสำคัญต่อพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองจะต้องเอาเขตไปทำงาน นอกจากนี้มีเพื่อนสมาชิกหลายจังหวัดระบุว่า กกต.มีการแบ่งเขตผิดเพี้ยนไปจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นมา และได้มีการมาร้องคัดค้านไว้ก่อนแล้ว ครั้งนี้จึงถือว่ามาติดตามเรื่องดังกล่าวด้วย" นายสามารถระบุ
    นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะทำให้ผู้สมัครแต่ละเขตของจังหวัดไม่ได้เบอร์เดียวกัน แม้ผู้สมัครจะสังกัดพรรคเดียวกันก็ตาม เมื่อทั้งประเทศมี 350 เขต ผู้สมัครของพรรคก็จะได้เบอร์แตกต่างกัน ส่งผลให้การหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองกระทำได้ยาก ประชาชนผู้มีสิทธิ์ก็จะสับสน และอาจจดจำเบอร์ผู้สมัครในเขตไม่ได้ ประกอบกับพรรคมีจำนวนมาก ชาวบ้านซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ เยาวชน อาจจำเบอร์ไม่ได้ หากมีบัตรเสียเยอะ และคนมาใช้สิทธิน้อย ก็อย่าไปโทษประชาชน แต่ควรโทษนักการเมืองที่ไม่รู้จักหาทางป้องกันและแก้ไข
    "ผมขอเสนอให้พรรคการเมืองพูดคุยกัน หากเห็นพ้องต้องตรงกันว่าควรจะได้หมายเลขผู้สมัครของพรรคเป็นเบอร์เดียวกันทุกเขตจำนวน 350 เขต ก็แจ้งกับ กกต.ว่าในทางปฏิบัติจะทำอย่างไร แต่ถ้ามีพรรคบางส่วนยึกยัก เกี่ยงงอนกันเอง ไม่ยอมกัน ต้องการให้เบอร์กระจัดกระจาย ก็เป็นเรื่องที่สังคมจะพิจารณาและดูว่าพรรคนั้นมีเหตุผลอย่างไร” นายบุญเลิศกล่าว
"ตู่"ย้ำเลื่อนเลือกตั้งแน่
     ที่อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 5 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า กรณีที่คาดการณ์กันว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งตอนนี้เหมือนการสลับหน้าเล่น เนื่องจาก คสช.และรัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะเลื่อนการเลือกตั้งแล้ว กกต.จึงจะมีหน้าที่เลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไป โดยรัฐบาลจะทำทีขึงขังว่าต้องมีเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.2562 จนเมื่อไม่สามารถเลือกตั้งได้ ก็จะบอกว่า กกต.ไม่พร้อม วันนี้เหลือเวลาอีก 12 วัน ก่อนจะถึงวันที่ 26 พ.ย. ที่นักการเมืองต้องเข้าสังกัดพรรค หากจะเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะผ่านการรับรองได้ทันเวลา รัฐบาลและ คสช.จึงจะเล่นแบบกระต่าย 3 ขา โดยให้เหตุผลว่ากกต.ไม่พร้อม ตามที่ได้ประกาศไว้ วันนี้ไม่มีใครกล้าการันตีว่าหากไม่ได้เลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. แล้วคนในรัฐบาลและ คสช.จะลาออก 
    "ขอให้รัฐบาล คสช.และ กกต.พูดคุยกันให้ตกผลึกก่อน หากจะเลื่อนจริง ก็ขอให้มีความชัดเจนก่อนวันที่ 26 พ.ย.นี้ ผมไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ขอให้เอาที่สบายใจ แต่เลื่อนแล้ว จะต้องชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งจริงๆ ขอให้รัฐบาลและ คสช.แสดงความแมนๆ หน่อย" นายจตุพร กล่าว 
    ส่วนกรณีที่จะไปเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระที่มีอาการป่วยนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตอนนี้กำลังหาเวลาว่างอยู่ เราเห็นต่างกันได้ แต่ควรร่วมกันหาทางออกให้กับบ้านเมือง หลังได้พูดคุยกับอดีตพระพุทธะอิสระในเรือนจำ ก็พบว่าเรามีความรักบ้านเมืองด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่วิธีการอาจต่างกัน ซึ่งวันนี้เห็นว่าเราสามารถแลกเปลี่ยนพูดคุย เพื่อหาทางออกให้ประเทศด้วยกันจะดีกว่า 
     ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ แถลงเปิดตัวแนวร่วมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค อาทิ นางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายวัฒนา พัทรชนม์ อดีตรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก, นายธฤทธิ์ ดอกไธสง, นางปรียานุช ทรงประกอบ, นางกุฎารัศมิ์ กุลฉัตร นักธุรกิจ ฯลฯ
    นางลลิตากล่าวว่า ส่วนตัวหายหน้าจากวงการกานเมืองไปกว่า 10 ปี โดยได้ใช้เวลาเหล่านั้นไปพัฒนาตัวเอง และสอนหนังสือตามมหาวิทยาลัยต่างๆ จนกระทั้งกว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อชาติได้ทาบทามให้กลับมาเล่นการเมือง และการกลับมาครั้งนี้ มีจุดยืนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้การเมืองไทย โดยการเมืองในอนาคตจะต้องไม่ขัดแย้งเหมือนในอดีต 
     ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ถ.แจ้งวัฒนะ บรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกของ ทษช.เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีอดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ประกอบด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช บิดา ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. เดินทางมาสมัครตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามมาด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ พร้อมด้วยนายพชร นริพทะพันธุ์ บุตรชาย ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปก่อนหน้านี้ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาวเสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างนายนิติ เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจและ ผอ.ศูนย์กฎหมาย ม.ศรีปทุม, น.ส.อรพินท์ เพชรทัต อดีตประธาน ส.ข.ดินแดง, นายอุเมสนัส ปานเดย์ อดีตบรรณาธิการ นสพ.บางกอกโพสต์ มาร่วมสมัครเป็นสมาชิกด้วย 
    ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า การที่มีสมาชิกพรรค พท.ย้ายมาพรรค ทษช. จะไม่มีปัญหาทำให้เกิดความสั่นคลอนระหว่างกัน เพราะการเกิดขึ้นของพรรค ทษช. ยืนยันว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง เรามีอุดมการณ์ที่ต้องการรักษาประชาธิปไตย เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง 
    เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่านายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาประเทศสิงคโปร์เพื่อมาวางแนวทางการทำงานให้กับพรรค ทษช. ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ไม่ทราบ แม้คนที่มาร่วม ทษช.ส่วนใหญ่จะเคยอยู่พรรค พท. และเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มีความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณทางการเมืองที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การมาตั้งพรรค ทษช. จิตวิญญาณนั้นก็ไม่ได้หายไปจากเรา และนายทักษิณทำคุณประโยชน์ให้ประเทศมานานัปการ และยังอยู่ในหัวใจประชาชน วันนี้ท่านไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว หากมีสมาชิกเดินทางไปพบ ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล 
เปิดเซฟเฮาส์เคาะยุทธศาสตร์
     ส่วนนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กล่าวว่า ตนตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะมาพรรค ทษช. ด้วยเห็นแนวคิดและนโยบายของพรรค จึงชอบเป็นพิเศษ เพราะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนยุคใหม่ที่มีจำนวนมากให้เลือก ทั้งนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งในพรรค พท.ด้วยความเป็นพี่เป็นน้อง มีแต่ความรักความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ส่วนจะลงบัญชีรายชื่อหรือเขต ยังไม่ได้ตัดสินใจ มาทำงานคงไม่ได้หวังอะไร แต่อยากส่งเสริมภาพรวมของพรรค เป็นที่ปรึกษาในภาพรวม ส่วนนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยาของตนนั้น มีความสนใจเรื่องการเลือกตั้งอยู่แล้ว ชีวิตจิตใจเป็นนักการเมือง เราคุยกันว่าจะเอาอย่างไร คงจะชัดใน 1-2 วันนี้ ซึ่งนางระเบียบรัตน์อาจจะลงเองก็ได้ 
     ขณะที่เฟซบุ๊ก กรุงเทพ กรุงเทพ โพสต์ภาพและข้อความความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร โดยระบุว่า “นายกฯ ทักษิณถ่ายภาพที่ท่าเรือ ข้างหลังท่านคือโบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas' Church) เป็นโบสถ์แห่งเดียวในยูเครนที่สร้างขึ้นในน่านน้ำของแม่น้ำนีเปอร์ ในเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน ครับ
     เอม ลง IG ว่า: คิดถึงงงงง อยู่ยูเครนส่งรูปมาให้ดูว่าไปดูเทคโนโลยีและไปสัมผัสอากาศลบ 4 องศา ว่าแต่ใส่แค่นี้อุ่นมั้ยเนี่ย...คุณพ่อออออ!! รีบบอกให้ใส่ถุงมือและผ้าพันคอเลยยย ส่วนอุ๊งอิ๊งบอกไม่ยอมใส่หมวกแน่เลยกลัวผมยุ่ง คิดถึงงงงง เจอกันอาทิตย์หน้า”
    ต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ได้โพสต์ภาพนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนอยู่กลางหิมะในประเทศยูเครน ลงเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “First snow of Ukraine this year หิมะแรกของปีนี้ที่ยูเครน อุ่นๆ นะคะ คิดถึงทั้ง 2 คนเลย เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ”
     ขณะที่มีรายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้นายทักษิณ จะเดินทางมายังประเทศสิงคโปร์ และจะมีนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติเดินทางไปพบ เพื่อวางแผนการเลือกตั้ง
    นายสามารถ แก้วมีชัย  อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่มีใครไปพบนายทักษิณ ทุกคนที่มีงานที่ต้องทำในพรรค ก็ไม่มีเวลาแล้ว เว้นแต่มาใกล้ๆ ก็ไปเยี่ยมคนที่นับถือ ทานข้าว ถามสารทุกข์สุกดิบกัน ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมไทย ต้องทำความเข้าใจว่าที่กฎหมายพรรคการเมือง บอกว่าจะมาชี้นำ ครอบงำไม่ได้นั้น จริงๆ เราก็ไปกินข้าว ดื่มไวน์  ไม่ได้มานั่งประชุมสั่งการอะไร เฮฮาปาร์ตี้แล้วก็กลับ ตนก็เคยไป กินข้าวกดื่มไวน์กับท่าน ก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่ได้สั่งการอะไร 
    มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า วันที่ 15 พ.ย. แกนนำระดับสูงในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค จะประชุมร่วมกันที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนพรรคว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส. จำนวนกี่เขตมากน้อยแค่ไหน รวมถึงพิจารณาการจัดผู้สมัคร ส.ส. ว่าอดีตผู้สมัคร ส.ส. ที่ไม่ชนะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคนไหนควรลงสมัครต่อในนามพรรค พท.หรือย้ายไปสมัครในนามพรรค ทษช.ที่มีเป้าหมาย ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นหลัก เพราะผู้สมัคร ส.ส.บางคนที่แพ้การเลือกตั้งด้วยคะแนนสูสี ยังอยากลงสมัครในนามพรรค พท.เพื่อขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ทำให้วันนี้ทุกอย่างยังไม่นิ่ง รวมถึงจะพิจารณาปัญหาข้อติดขัดในการขับเคลื่อนพรรคทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีการสื่อสารจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อให้ความเห็นประกอบการตัดสินใจด้วย และหลังการประชุมดังกล่าว ทุกอย่างจะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น
    ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนและครอบครัวทั้งภรรยาและลูกมาสมัครเป็นสมาชิกในนามพรรค พปช.โดยตรง ผ่านการชักชวนจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ไม่ได้มาในนามของกลุ่มสามมิตร และได้นำทีมงานและว่าที่ผู้สมัครมาเข้าร่วมในนามพรรค พปชร. ทั้ง จ.นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ จ.บุรีรัมย์ และจะตามมาในหลายจังหวัด เพราะพรรคนี้ดูแลประชาชนถึงระดับรากหญ้า เป็นที่ยอมรับของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่วางนโยบายที่ดีให้เราพบปะพูดคุยประชาชนซึ่งทุกคนเห็นดีด้วยกับนโยบายรัฐบาล 
"วิรัช" ฟุ้งยึดโคราช
    “มั่นใจว่าผู้สมัครที่จะส่งในนามของพรรคในพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 14 เขตของ จ.นครราชสีมา จะได้เกือบครบหรือทั้งหมดของจังหวัดทั้งหมดที่มี โดยการตัดสินใจจะลงสมัครแบบเขตหรือบัญชีรายชื่อ ต้องขอดูการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน" นายวิรัชกล่าว
    นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ที่มาสมัครสมาชิกวันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ที่จะประชุมการบริหารพรรค โดยตนจะลงสมัคร ส.ส.เขต ทั้งนี้ก่อนได้รับมอบให้เป็นโฆษก จ.นครราชสีมา 
    ขณะที่นายสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ได้ตัดสินใจมานานหลายเดือนแล้วว่าจะร่วมงานกับพรรค พปชร. เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งต่อไป และเห็นฝีมือด้านเศรษฐกิจ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารของพรรค เชื่อมั่นว่าหากได้ผู้บริหารชุดนี้ไปเป็นรัฐบาลจะได้เห็นเศรษฐกิจบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดีมาก
    ที่โรงแรมเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯ สมัยพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ก่อนหน้านี้มีหลายพรรคการเมืองติดต่อให้ตนไปร่วมงาน แต่จากการพูดคุยกับพรรคต่างๆ ได้ตัดสินใจที่จะร่วมงานการเมืองกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีนายสุภดิช อากาศฤกษ์ เป็นหัวหน้าพรรคอยู่ในขณะนี้ เพราะจากการพูดคุยกับนายสุภดิชและกรรมการบริหารพรรค ที่มาเชิญตน ซึ่งเขายินยอมให้ตนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเขียนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของพรรคทั้งหมด และอีกเงื่อนไขที่ตนเสนอแล้วเขายินดี ก็คือหากจะให้ตนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็ต้องเสนอชื่อตนเป็นนายกฯ ซึ่งเขายินดีที่จะเสนอตนเป็นรายชื่อว่าที่นายกฯของพรรคเพียงรายชื่อเดียว อีกทั้งยินดีให้ตนเป็นหัวหน้าพรรค โดยตนจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อนวันที่ 26 พ.ย.นี้
     นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยประสบความสำเร็จการทำงานกับองค์กรระดับโลก ทั้งโตโยต้า และ อสมท. อีกทั้งยังเคยรองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจมาแล้ว จึงอยากนำประสบการณ์มาช่วยพัฒนาประเทศ และถึงเวลาต้องสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ ยืนยันว่าไม่ใช่พรรคที่เป็นนอมินีของพรรคเพื่อไทยแน่นอนเราเป็นอิสระ เพราะพรรคมีความคิดและการตัดสินใจได้อย่างอิสระ ส่วนพรรคที่จะร่วมงานกัน ต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน เช่น เรื่องประชาธิปไตย หากนโยบายไม่ตรงกันคงไม่สามารถร่วมงานได้ 
    เมื่อถามว่า สามารถร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกมองว่าจะเป็นนายกฯ อีกครั้งได้หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า อย่าเอ่ยถึงบุคคลที่สาม ตนไม่ขอตอบ 
    ที่อาคาร TP&T ถนนวิภาวดีรังสิต มีการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคประชานิยม (ปย.) นำโดย พล.ต.อ.ยงยุทธ์ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรคประชานิยม, นายศิริชัย ลักษณโกเศศ นพ.สกนธ์ บุญมีอุดม รองหัวหน้าพรรค และ พล.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ เลขาธิการพรรค ร่วมกันจัดแถลงข่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"