“ธนารักษ์” ลุยขยับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ทั้งประเทศ เป็น 4% จากเดิม 2-3% ประเดิมคู่สัญญาที่ครบกำหนดก่อน ส่วนที่ราชพัสดุเพื่อเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยไม่มีการปรับขึ้นแน่นอน หวั่นผู้เช่าได้รับความเดือดร้อน แบกภาระเพิ่ม
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุในเชิงพาณิชย์ทั้งประเทศ โดยจะคิดตามผลตอบแทนต่อมูลค่าสินทรัพย์ (ROA) ซึ่งจะปรับให้ขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2-3% กว่า ทั้งนี้การปรับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุดังกล่าวจะดำเนินการกับผู้เช่าที่สัญญาเดิมครบกำหนดก่อน โดยสัญญาเช่าส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 10-30 ปี
โดยปัจจุบันกรมธนารักษ์มีที่ราชพัสดุ ทั้งสิ้น 12 ล้านไร่ ทำการให้เช่า จำนวน 4 แสนไร่ ในจำนวนนี้เป็นการเช่าเพื่อเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยประมาณ 80% ซึ่งในส่วนนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นค่าเช่าอย่างแน่นอน ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์ มีอยู่ประมาณ 5 หมื่นสัญญาทั่วประเทศ
"หากคิดรายได้ค่าเช่าที่ราชพัสดุทั้งหมดของกรมธนารักษ์ตามหลัก ROA จะอยู่ต่ำกว่า 1% เพราะส่วนใหญ่เป็นการให้เช่าเพื่อการเกษตรและที่อยู่อาศัย ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่มีนโยบายปรับขึ้น เพราะเงินที่ได้เพิ่มมาอยู่หลักร้อยล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่คุ้มเมื่อเทียบกับความเดือนร้อนที่ผู้เช่าจะได้รับเพราะมีภาระเพิ่มมากขึ้น" นายอำนวย กล่าว
นายอำนวย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้ปรับค่าเช่าเชิงพาณิชย์กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในการเช่าพื้นที่ราชพัสดุของสนามบินสุวรรณภูมิโดยคิดตาม ROA เช่นเดียวกัน และจะใช้วิธีการคำนวณในลักษณะเดียวกันกับสนามบินในประเทศที่เหลืออีก 6 แห่งเมื่อสัญญาสิ้นสุดลง นอกจากนี้ในอนาคตกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ ทอท. เข้าไปบริหารสนามบินจังหวัดต่าง ๆ ก็ต้องมีการคิดค่าเช่าแบบใหม่ในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ การคิดค่าเช่าที่ราชพัสดุของรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องพิจารณาเป็นรายกรณีเช่นกัน โดยในส่วนของการเช่าที่ราชพัสดุของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) หรือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งจะใช้วิธีคิดแบบ ROA เหมือน ทอท. ไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่การปรับขึ้นราคาค่าเช่า จะส่งผลกระทบกับผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้ไฟฟ้าได้
อย่างไรก็ดี จะมีการทยอยปรับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ในปีงบประมาณ 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปีงบประมาณก่อนหน้า สามารถจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 7 พันกว่าล้านบาท
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |