ไม่มีใครปฏิเสธว่าการออกกำลังเป็นประโยชน์ทุกสถาน แต่มีไม่น้อยใช่ไหมที่จู่ๆ ออกกำลังทุกวัน แต่ก็กลับถูกหามเข้าโรงพยาบาล นั่นเพราะบางทีเราลืมใส่ใจในรายละเอียดว่าตอนไหนที่เราควรออกกำลังกาย และเวลาไหนเราไม่ควรจะออกกำลัง เพื่อให้สุขภาพและประโยชน์สูงสุดจริงๆ มิเช่นนั้นก็คงไม่แตกต่างจากเครื่องจักรที่ทำงานเกินอัตราความสามารถ
เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อนได้ส่งข้อความเก่าแล้วกระมัง แต่ยังคงเป็นประโยชน์อยู่ ว่าด้วยคำเตือนของ หมอเสก อักษรานุเคราะห์ เกี่ยวกับการออกกำลังกายว่า ส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาออกกำลังคิดว่าอากาศสดชื่น มลพิษน้อย อากาศเย็น ร่างกายยังสดชื่น เพราะได้พักมาทั้งคืน แต่อาจเป็นการทำร้ายสุขภาพมากกว่า!!
เพราะเมื่อตื่นนอนจึงไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ในเลือด เหมือนกับรถยนต์น้ำมันแห้ง หากออกกำลังกาย ตับจะต้องดึงสารอาหารที่เปลี่ยนไปเก็บไว้ ให้กลับเป็นสารพลังงานในเลือดใหม่เกือบจะทันที
ตับจะต้องทำงานหนักเพิ่มแค่ไหน จะทนสภาพนี้ได้นานเท่าไร เพราะไม่ได้พักเลย เหมือนคนกินเหล้า แล้วไม่กินอาหาร ตับต้องไปดึงสารอาหารจากที่ต่างๆ มาให้แอลกอฮอล์เผาผลาญ นานๆ เข้า ในตับมีแต่ไขมัน คนนั้นอาจกลายเป็นโรคตับแข็งได้
ที่ถูกต้องจะต้องกินอาหารและรอ 2 ชม.ก่อนจึงจะไปออกกำลังกายได้ เช่น กินอาหารตี 5 พอ 7 โมงเช้าจึงจะออกกำลังกายได้
ฝรั่งมีแต่คำว่า morning walk ไม่เคยได้ยิน morning jogging เลย นั่นคือตอนเช้าออกกำลังกายเบาๆ ได้เท่านั้น เช่น เดินออกกำลัง โดยก่อนเดินก็จะกินอาหารเบาๆ เช่น แซนด์วิช 1 ชิ้นกับโอวัลติน 1 ถ้วย ซึ่งจะใช้เวลาย่อยอาหารสัก 1/2 - 1 ชม.ก็พอ คือกินเล็กน้อย ออกกำลังกายเบาๆ ก็ใช้พลังงานน้อย
ตื่นนอนเช้า ร่างกายยังไม่มีพลังงาน จำเป็นต้องกินอาหารก่อน แต่หลังกินอาหารอิ่ม ก็ยังไม่ควรไปออกกำลังกายทันที เพราะหลังกินอาหารช่วง 2 ชม.แรก จะมีเลือดมารอรับอาหารที่จะถูกย่อย ที่กระเพาะและลำไส้เป็นจำนวนมาก เพื่อพาไปแจกจ่ายยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
ถ้าออกกำลังกายหนักๆ ในตอนนี้ เช่น การวิ่งซึ่งต้องการเลือดมาเลี้ยงที่ขา 20 เท่าตัวของสภาวะปกติ เมื่อเลือดมารวมอยู่ที่กระเพาะเป็นจำนวนมาก บวกกับที่ขาอีก 20 เท่าดังกล่าว จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้หน้ามืด เป็นลม หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจตายเฉียบพลัน ถึงชีวิตได้
จึงห้ามออกกำลังหลังกินอาหารไม่ถึง 2 ชม.เด็ดขาด รอให้อาหารย่อยหมดแล้ว เลือดที่กระเพาะก็จะกระจายกลับไปหมด ถึงตอนนี้จะออกวิ่งก็จะปลอดภัย
วิ่งไม่ถูกวิธี ก็เหมือนกับนั่งกินเหล้าเลยนะ.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |