เร่งช่วย 'น้องเตเต้' ลูกสาวเหยื่อน้ำกรด เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ขอนแก่น


เพิ่มเพื่อน    

หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ “น้องเตเต้” ลูกสาวเหยื่อสาดน้ำกรดจนเสียชีวิต ครอบครัวทำเรื่องย้ายกลับมาเรียนต่อที่ขอนแก่น เจ้าตัวยันนำความรู้จาก “ครูอ้วน” เดินตามความฝันในวันที่ไม่มีแม่ เพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัวต่อไป

13 พ.ย.61 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 10 ม.9 บ.แสงอรุณ ต.โนนทอง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สามีใช้น้ำกรดสาดเข้าที่ใบหน้าจนเสียชีวิตเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยยังคงพบว่าคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านต่างมาช่วยกันจัดเตรียมงานศพที่กำหนดสวดพระอภิธรรมในวันนี้เป็นคืนแรก

ขณะที่นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น และนายสุธี ศรสวรรค์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่เพื่อมาเคารพผู้เสียชีวิต และการพูดคุยกับคนในครอบครัวของ น.ส.ช่อลัดดา โดยพบกับนางทองอาจ ทาระวัน อายุ 59 ปี และ น้องเตเต้ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) บุตรสาวของผู้ตาย ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ซึ่งคณะของทางจังหวัดได้สอบถามสภาความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตในภาพรวม รวมทั้งการแจ้งถึงมาตรการการให้ความช่วยเหลือตามที่หน่วยงานราชการกำหนด

นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้มีการอนุมัติการให้ความช่วยเหลือแยกเป็นเงินช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 10,000 บาท เงินช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม 110,000 บาท นอกจากนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะทำเรื่องการศึกษาของน้องเตเต้ จาก กรุงเทพฯ มาที่ขอนแก่น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ตามระเบียบของทางราชการคือ การเรียนฟรีจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ขณะเดียวกัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะทำเรื่องครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อให้น้องเตเต้ ซึ่งอายุ 12 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.6 นั้นได้รับการช่วยเหลือแบบรายเดือนตามระเบียบที่กำหนด

"เราในฐานะคนขอนแก่นด้วยกัน และอยู่ในพื้นที่จังวัดเดียวกัน เมื่อถึงยามทุกข์ยากเราต้องให้กำลังใจกันและช่วยเหลือกัน คนที่อยู่ต้องมีกำลังแรงใจและต้องสู้ต่อไปอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง จากการลงพื้นที่วันนี้ครอบครัวนั้นต้องขาดเสาหลักของครอบครัวไป หน่วยงานภาครัฐจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะน้องเตเต้ บุตรสาวของผู้ตายที่มีความสามารถในการร้องเพลงและความสามารถในการแสดง โดยได้เข้าเรียนกับครูอ้วน น.ส.มณีนุช เสมรสุต จนคว้ารางวัลในเรื่องของการแสดงความสามารถในด้านต่างๆอย่างมากมาย

ในจุดนี้ต้องประสานกับทางโรงเรียนในการเข้าร่วมชมรมทูบีนัมเบอร์วัน เพื่อให้ความรู้ความสามารถของน้องเตเต้ ที่ได้รับการเรียนจากครูศิลปินชื่อดังของไทยนั้นมาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเพื่อนๆในโรงเรียน เพื่อให้น้องเตเต้ ที่วันนี้แม้จิตใจจะยังคงโศกเศร้า ร่างกายยังคงได้รับบาดเจ็บจากน้ำกรดที่เกิดจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้กลับมายิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นอนาคตของชาติที่สำคัญต่อไปในอนาคต”

ขณะที่นางทองอาจ ทาระวัน อายุ  59 ปี แม่ของ น.ส.ช่อลัดดา กล่าวว่า เรื่องคดีที่เกิดขึ้นเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะที่ขอสงสัยและการติดใจเอาความกรณีโรงพยาบาลพระราม 2 ที่ไม่รักษาลูกสาวนั้น เรื่องนี้คงต้องให้ผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางกฎหมายคือ ทนายความนั้นได้ดำเนินการในข้อกฎหมายต่างๆ เพราะพวกเราชาวบ้านตาดำๆอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกลนั้นไม่มีความรู้หรือเงินทองมากมายที่จะไปต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ซึ่งครอบครัวหวังว่าสักวันจะออกมาขอโทษครอบครัว มาขอโทษลูกสาวบ้าง เพราะหากโรงพยาบาลให้การรักษาหรือช่วยเหลืออะไรบ้าง ลูกสาวอาจจะมีชีวิตรอดหรืออย่างน้อยที่สุดคือการทำให้ลูกสาวนั้นมีลมหายใจเพื่อรอให้ครอบครัวนั้นได้เดินทางไปพบได้ทันเป็นครั้งสุดท้าย

"ศพของลูกนั้นจะทำพิธีณาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (14พ.ย.) ที่วัดแสงธรรมรังสี ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน เมื่อเสร็จสิ้นงานศพ ก็จะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อจัดการเรื่องต่างๆทั้งการย้ายน้องเตเต้ มาอยู่ที่ขอนแก่น การคืนห้องเช่า การเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของลูกสาวและหลานสาว เรียกได้ว่าเป็นการย้ายภูมิลำเนาหลานสาวให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ขอนแก่น ตามมีตามเกิดของครอบครัว เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่อยากให้มีใครให้เกิดขึ้นแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว แม้แม่จะทำใจได้บ้างแต่ก็สูญเสียลูกสาวที่เป็นที่รัก เป็นเสาหลักของครอบครัวไปอย่างกระทันหันแบบนี้โดยฝีมือของสามีลูกสาวเอง หัวอกคนเป็นแม่ยังคงทำใจไม่ได้จริงๆ”

ด้านน้องเตเต้ อายุ 12 ปี กล่าวเพียงสั้นๆว่าจะย้ายกับมาอยู่กับยายที่ขอนแก่น จากนี้ไปคงต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ด้วยการนำความรู้ความสามารถที่เรียนมาจากครูอ้วน เดินตามความฝันและเลี้ยงดูครอบครัวโดยเฉพาะคุณยายต่อไปอย่างเต็มความสามารถในวันที่ไม่มีแม่อีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงระหว่างการพูดคุยร่วมกันกับคณะของ รอง ผวจ.ขอนแก่นกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้น น้องเตเต้ อยู่ในอาการโศกเศร้าและน้ำตาซึมอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ตามร่างกายนั้นยังคงมีร่องรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากน้ำกรด ในช่วงที่นำร่างของแม่ส่งโรงพยาบาลพระราม 2 และโรงพยาบาลบาลมด ซึ่งรอง ผวจ.ขอนแก่นได้มีคำสั่งให้สาธารณสุข อ.แวงใหญ่ ส่งทีมแพทย์มาเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมทั้งการดูแลเรื่องการรักษาให้กับน้องเตเต้ ที่ยังคงได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่น้องเตเต้จะแสดงความสามารถที่เรียนมาจากครูอ้วน ด้วยการร้องเพลงหน้าหีบศพแม่ และเตรียมที่จะร้องเพลงในงานฌาปนกิจศพแม่เป็นครั้งสุดท้ายในวันพรุ่งนี้อีกด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"