12พ.ย.61-กสศ.เตรียมจัดงบอุดหนุนเด็กยากจนพิเศษ 6.2แสนคนชั้นป.1-ม.3 รอบแรก 1.6พันล้าน หรือคนละ800 บาท /เทอม เริ่ม 15ธ.ค.นี้ กำชับ โรงเรียนดำเนินการส่งชื่อเด็กเข้ามาได้ระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค. "บุญรักษ์"ชี้ลดเหลื่อมล้ำได้แน่ เพราะเด็กยากจนพิเศษจะได้รับการสนับสนุน 3ชั้น ถือเป็นการปฎิรูประบบการจัดสรรทรัพยากรและกลไกการจ่ายเงินอุดุหนุน
ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 5 ชั้น 9 - สพฐ. ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อดำเนินโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไขในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. และยังได้ประชุมชี้แจงการจัดทำข้อมูลระบบการคัดกรองนักเรียนยากจน ประจำภาคเรียนที่ 2/2561 แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูทั่วประเทศ ผ่านระบบประชุมวีดีโอทางไกล
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ปีการศึกษา 2561 กสศ. จะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษ 6.2 แสนคน ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายใต้การจัดสรร 800 บาทต่อคน/ต่อภาคเรียน โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 1.6 พันล้านบาท แบ่งการจัดสรรเงินออกเป็น 2 ส่วน เท่าๆ กัน คือ 1.เป็นเงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าครองชีพ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียน และค่าครองชีพระหว่างเรียน 2.เป็นเงินอุดหนุนแก่สถานศึกษาเพื่อกิจกรรมการพัฒนานักเรียนยากจนให้มีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ รวมถึงค่าอาหารที่ทางสถานศึกษาจัดหาให้เพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่มีงบประมาณสนับสนุนในปัจจุบัน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะจัดสรรงบให้แก่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ประมาณวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยรอบแรกจะมีการจัดสรรงบแก่นักเรียนยากจนพิเศษ 1,600 บาท ต่อคน/ต่อภาคเรียน เนื่องจากมีเงินตกเบิกของนักเรียนตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2561 ด้วย ซึ่งแต่ละโรงเรียนต้องส่งแผน และข้อมูลเรื่องการเบิกจ่าย เช่น เมื่อได้เงินไปแล้ว ภายใน 7 วันต้องส่งหลักฐานการเบิกจ่าย และต้องมีแผนในการดูแลเด็ก เป็นต้น สำหรับการเบิกจ่ายนั้นจะเป็นการจ่ายเป็นงวดๆ เพื่อให้มีหลักฐานว่าเด็กมาเรียนอย่างสม่ำเสมอ และครูได้เห็นเด็กตลอดทั้งภาคเรียน
“ทั้งนี้ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนและต้นเดือนธันวาคมนี้จะเป็นช่วงที่สถานศึกษาส่งรายชื่อนักเรียนที่เข้าเกณฑ์ยากจนพิเศษจากผลการคัดกรองเมื่อเทอม 1/2561 ให้แก่ กสศ. โดย สพฐ. และ กสศ. จะเปิดโอกาสให้สถานศึกษาปรับปรุงรายชื่อให้เป็นปัจจุบัน จากนั้นนักเรียนที่ขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษเพิ่มเติมจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยครูประจำชั้นจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลรายได้ และสถานะความยากจนของเด็กเป็นรายบุคคลระหว่างกระบวนการเยี่ยมบ้านในเทอม 2/2561 ร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ จากนั้นคณะกรรมการสถานศึกษาจะพิจารณารับรองความถูกต้องของข้อมูลรายชื่อและผลการคัดกรองทั้งหมดอีกครั้งก่อนส่งข้อมูลให้แก่ กสศ. ทั้งนี้ กสศ.ได้เปิดสายด่วน ให้บริการข้อมูล ให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน รวมถึงปัญหาเชิงเทคนิคในการใช้ระบบต่างๆ โดยสามารถติดต่อได้ที่ โทร 02-079-5475 กด 1 ทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 - 20.00 น. หรือที่ Facebook : www.facebook.com/cctthailand”ผู้จัดการ กสศ.กล่าว
โดยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. และ กสศ. ได้ร่วมกันพัฒนาโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. โดยได้มีจัดทำเกณฑ์การคัดกรองนักเรียนยากจนและกลไกตรวจสอบหลายระดับจากการวิจัย ทั้งยังมีการลงพื้นที่เก็บข้อมูลมาเป็นเวลา 3 ปี รวมถึงได้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูล และจัดทำแอพพลิเคชั่น เพื่อให้โรงเรียนและคุณครูได้กรอกข้อมูลผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการปฏิรูป 2 เรื่อง คือ 1.ปฏิรูประบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่ทำให้เงินอุดหนุนถูกจัดสรรไปช่วยเหลือนักเรียนตรงสภาพปัญหาและความจำเป็นรายบุคคล และ 2.ปฏิรูปกลไกการจ่ายเงินอุดหนุนของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญให้เกิดความเสมอภาคของนักเรียนและสพฐ.ได้ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพนักเรียนได้ในระยะยาว
นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลนักเรียนเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ได้ดำเนินการในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเรียนฟรี 15 ปี และ สพฐ.มีการจัดสรรงบอุดหนุนให้นักเรียนยากจนประมาณ 1.6 ล้านคน แบ่งเป็นนักเรียนยากจนระดับประถมศึกษา 500 บาทต่อคน/ภาคเรียน และมัธยมศึกษา 1,500 บาท ต่อคน/ต่อภาคเรียน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องหนังสือและอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้าและวัสดุเครื่องแต่งกายนักเรียน ค่าอาหารกลางวัน และค่าพาชนะในการเดินทาง อยู่แล้ว ดังนั้น การที่ทาง กสศ. ได้เข้ามาอุดหนุนเพิ่มเติมให้นักเรียนที่ยากจนพิเศษ 6.2 แสนคน ถือเป็นการเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และเศรษฐกิจได้ เป็นการเติมให้นักเรียนมีโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมหรือใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเด็กที่มีความยากจนพิเศษจะเหมือนได้รับการสนับสนุนทั้งหมด 3 ชั้น คือ โครงการเรียนฟรี งบฯ อุดหนุนเด็กยากจน และงบอุดหนุนเพิ่มเติมกรณียากจนพิเศษจาก กสศ. โดยตนจะชี้แจงการดำเนินงานจัดทำข้อมูลระบบการคัดกรองนักเรียนยากจน ประจำภาคเรียนที่ 2/2561 ให้สถานศึกษา ครู และเขตพื้นที่การศึกษาเข้าใจในขั้นตอนต่างๆ ทั้งการคัดกรอง ตรวจสอบรายชื่อการมีตัวตนของนักเรียน ก่อนการจัดสรรเงินอุดหนุน เพื่อการจัดสรรได้มีความแม่นยำให้นักเรียนที่เดือดร้อนได้รับการช่วยเหลือตรงปัญหา และให้โปร่งใส และยังได้มอบแนวทางแก่สำนักเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนให้มีกลไกล ในการตรวจสอบงบที่ได้รับนั้นถึงนักเรียนอย่างมีหลักฐานหรือไม่ และตรงกับวัตถุประสงค์ และผลที่เกิดขึ้นตรงที่คาดหวังหรือไม่ รวมถึงขอให้มีการจัดกลุ่มส่งเสริมการศึกษาระบบทะเบียน กำกับ ติดตามการบริหารจัดการ เพื่อสร้างความ มั่นใจโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |