คืบหน้าลงโทษเกินเหตุ!เด็กผวาไม่กล้ามาเรียน ผอ.ให้ครูโหดเปลี่ยนไปสอนชั้น ป.5


เพิ่มเพื่อน    

12 พ.ย.61- ความคืบหน้ากรณีที่นางเฟื้องกมล   อนนตรี   อายุ 30 ปี  แม่ของ ด.ช.เท่ห์  อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนอนุบาลพุทไธสง  จ.บุรีรัมย์  ออกมาร้องขอความเป็นธรรม  หลังลูกชายถูกนายพยูง   (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 35 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ ทำโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ  ทั้งให้กระโดดตบกลางแดดที่ร้อนจัด 50 ครั้ง   และใช้ไม้เรียวพันด้วยเทปกาวตีก้นอีกอีก 10 ครั้งจนเป็นรอยเขียวช้ำ สาเหตุเพียงเพราะลูกชายท่องสูตรคูณไม่ได้  เหตุเกิดช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา  

ล่าสุดบรรยากาศที่โรงเรียนพบว่า ด.ช.เท่ห์  นักเรียนชั้น ป.6 ที่ถูกครูตีไม่ได้เดินทางมาเรียนแต่อย่างใด  เมื่อสอบถามทางโรงเรียนทราบว่าทางผู้ปกครองได้แจ้งมาว่าขอลาเป็นเวลา 1 สัปดาห์  เนื่องจากห่วงเรื่องสภาพจิตใจและน้องยังรู้สึกเจ็บบริเวณก้นที่ถูกตี   ส่วนครูที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ไม้เรียวตีน้องจนเป็นรอยเขียวช้ำนั้นยังคงมาทำการเรียนการสอนตามปกติ  แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งให้ปรับตารางการเรียนการสอน  จากปกติจะเคยสอนภาษาอังกฤษชั้น ป.6 ให้เปลี่ยนไปสอน ชั้น ป.5 ก่อนชั่วคราว  เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองและไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอน   ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนครูในโรงเรียนให้ข้อมูลว่าหลังจากเกิดเรื่อง  พบว่าครูคนดังกล่าวก็มีอาการเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ทั้งยังบอกกับครูหลายคนว่าไม่ได้ตั้งใจจะลงโทษเด็กรุนแรง

 ขณะที่น้องเอ (นามสมมติ)  เพื่อนสนิทที่เรียนห้อง 6/4 ด้วยกันกับน้องเท่ห์  เล่าว่า  หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จทุกวันครูจะให้ท่องสูตรคูณก่อนจะขึ้นเรียนภาคบ่าย  วันเกิดเหตุก็ให้ท่องสูตรคูณตามปกติแต่ระหว่างที่ท่องอยู่เท่ห์ หันไปชวนเพื่อนคนอื่นคุยครูจึงสั่งทำโทษโดยการให้เท่ห์ ไปยืนกระโดดตบที่สนามตะกร้อหน้าอาคารเรียน 50 ครั้ง แต่เท่ห์กระโดดได้แค่ 30 ครั้งก็วิ่งขึ้นห้อง พอครูรู้ว่าเท่ห์ กระโดดตบไม่ถึง 50 ครั้งแต่ขึ้นมาห้องก่อน  ครูจึงเรียกเท่ห์มายืนตรงหน้าห้อง 6/1  แล้วใช้ไม้เรียวพันเทปกาวตีก้น 10 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นก็มีเพื่อนทั้งห้องเดียวกันและห้องอื่นเห็นหลายคน  พอโดนครูตีเสร็จก็เห็นเท่ห์กลับมาร้องไห้ที่ห้อง 

ด้านนายปิยะ   พุทธเพาะ   ผอ.โรงเรียนอนุบาลพุทไธสง ระบุว่า   ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น  โดยวันนี้ได้เชิญผู้ปกครองเข้ามาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ที่โรงเรียน  และจะมีการเรียกครูสอบตามขั้นตอนด้วยเช่นกัน  ซึ่งเบื้องต้นก็ยังให้ครูมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแต่ให้ปรับตารางการสอนไปสอนชั้น ป.5 แทน  เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  

นายปิยะ กล่าวต่อว่า แต่จากการพูดคุยเบื้องต้นครูก็ยอมรับว่าได้ตีเด็กจริง แต่ก็ด้วยความหวังดีกับเด็กไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรง  ซึ่งก็พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการสอบตามขั้นตอน ส่วนเด็กที่ยังไม่ได้มาเรียนหนังสือในวันนี้ ก็ได้รับการประสานจากผู้ปกครองว่า  ขอลาหยุดเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพราะยังห่วงเรื่องสภาพจิตใจอยู่  ส่วนกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริงก็จะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้   และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้านดาบตำรวจสมร  ไปนาวดี  นิติกรชำนาญการพิเศษปฏิบัติหน้าที่ ผอ.กลุ่มกฎหมายและคดี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4  กล่าวว่า  หลังจากเกิดเรื่องทาง ผอ.สพป.เขต 4 ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดก็กำชับให้ตนเองมาติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด  ซึ่งเบื้องต้นก็อยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริงของทางโรงเรียน  หลังจากนั้นก็ต้องรอผลสรุปการสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีมูลตามที่ร้องเรียนหรือไม่   หากพบมีมูลว่ากระทำรุนแรงจริงก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนตามขั้นตอน และนำเสนอผู้บังคับบัญชาทราบกระบวนการ  เพื่อพิจารณาลงโทษตามความผิดต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"