เฌอปรางเอฟเฟกต์แรงกว่าที่คิด!ทีมงานอนาคตใหม่โบกมือลา ด่าลั่นพรรคที่ว่าใกล้เคียงเราที่สุดยังแย่


เพิ่มเพื่อน    

รูป:เฟซบุ๊ก Pipat Wattanapanit 

11 พ.ย.61- ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pipat Wattanapanit  ซึ่งทำงานอาสาสมัครพาร์ทไทม์ ให้กับพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความให้เหตุผลการลาออกจากการเป็นอาสามัครให้กับพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า

"ที่จิลต้องฟาดอ่ะ ไม่ใช่กับคนทั้งประเทศตอนเลือกตั้งนะจิล แต่เป็นกับคนในพรรคเองนี่แหละ"

อาจารย์ปิยบุตร เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พูดกับจิลเป็นการส่วนตัวในวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จิลเข้าไปทำงานเป็นอาสาสมัครพาร์ทไทม์ เพื่อจัดการข้อมูลอยู่ Back Office มาตลอดหนึ่งเดือนเต็มในช่วงที่มีเวลาว่าง จิลเพิ่งมาค้นพบว่าคำพูดของอาจารย์ป๊อกจริงมากที่สุดเอาก็วันนี้

"เออว่ะ สมาชิกพรรคมันไม่ได้ลอยมาจากอากาศ สมาชิกพรรค 7000 คนแม่งก็สุ่มตัวอย่างมาจากประชากรทั่วประเทศนั่นแหละ มึงคิดว่าจะกลุ่มตัวอย่างที่ได้มา มึงพึ่งพาคนพวกนี้ได้ซักกี่คน"

พรรคอนาคตใหม่ ขายความคิดที่ว่า เราจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีการกระจายอำนาจมากที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าคนที่จะเอาเข้ามา เขาไม่ได้มีวัฒนธรรมประชาธิปไตยตั้งแต่แรก จิลต้องเผชิญกับสมาชิกพรรคที่บอกว่า "ใช้เข็มขัดรัด อันละ 25 บาทสิ เพื่อแก้ปัญหาข่มขืน" ลามไปจนถึงคนที่ยอมจ่ายค่าสมัครสมาชิกพรรค 5000 บาท แต่เอกสารกำกับที่ส่งมาออนไลน์ไม่มีเซ็นรับรองสำเนาใดใด คือถ้าคนทำงานหลังบ้านซักนิด สำเนาบัตรประชาชน กับสำเนาทะเบียนบ้านของคุณคือเอาไปดาวน์รถสบายไปแล้ว จิลต้องเจอกับคนที่เจ็บปวดจากรัฐบาลเก่ง แต่ไม่มีสมอง อยู่ร่วมกับคนที่มีเงินจ่ายค่าสมาชิกพรรคได้เป็นหลักพัน หลักห้าพันแต่ก็มีแค่เงินอย่างเดียว ไม่มีสมองเหมือนกัน

คนพวกนี้ดาหน้าเข้ามาในพรรคช่วงที่สมัครสมาชิกและเปิดรับ สส. เราไม่รู้เลยว่าคนพวกนี้มีหลักการยังไง จุดยืนยังไง ความโบ้ ความบ้งมันก็ก่อร่างสร้างตัว หลบหลืบมุมอยู่ในเครือข่ายโน้นที ปีกนี้ที ค่อยเป็นมะเร็งกัดกินมาเรื่อย ในขณะที่พี่เอกหัวหน้าพรรคก็พูดอยู่นั่นแหละ ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ จะจัด Primary Vote ให้ได้

พรรคเชื่อเหลือเกินว่า พรรคจะโตไวพอที่จะจัดทำ Primary Vote เพื่อให้สมาชิกพรรคทุกคนได้มีสิทธิลงคะแนนเลือก สส. ทั้งเขต และปาร์ตี้ลิสต์ของตัวเองในทุกพื้นที่ แต่ขณะเดียวกัน คนที่ได้เป็นคณะกรรมการคัดเลือก สส. ดันพูดกลางที่ประชุมวิสามัญพรรคว่า "ถึงฉันจะเป็นผู้หญิง แต่จิตใจฉันก็แข็งแกร่งเหมือนผู้ชายนะคะ".... ???

จิลไม่รู้จะโทษใครดี กับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา ถ้าพูดว่าตัวเองเสรีนิยมเกินไป ซ้ายเกินไป ก็จะกลายเป็นว่า ฉันนี่นะ เป็นประชากรที่มีคุณภาพสามแสนเสียง ไม่เหมือนพวกตาสี ตาสา ที่ไม่รู้เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพอะไรเลย โลกเค้าไปถึงไหนกันแล้วเหอะ ถ้าพูดอย่างนี้ ก็ไม่วายตัวเองจะกลายร่างเป็น ดร.เสรี แต่พอตัวเองตั้งใจจะงัดในเชิงวัฒนธรรม ไม่ใช่ว่าจะทำแต่หาเสียงอย่างเดียว ก็ต้องสร้างสังคมประชาธิปไตยด้วย ต้อง Educate ด้วย มันก็เจอเรื่องที่ชวนบั่นทอนอยู่ได้ในแต่ละวัน

แต่แล้ว มันก็มาฟิวส์ขาดจนได้ เอาตอนเรื่องดราม่า ปวิน กับ คริส โปตะนัน นี่แหละ เราไม่เข้าใจว่าคนระดับ "คนจดจัดตั้งพรรค" จะลงมาเล่นเรื่องยิบย่อยนี้ทำไม อยู่เฉยๆไม่เป็นเหรอ เป็นถึงผู้จดจัดตั้งพรรค เดินตามพี่เอกต้อยๆ เป็น Four Horse Men แต่ไม่รู้จักการเล่น Political Performance ว่าจะทำยังไงกับ Social Media แล้วเป็นไงล่ะ เรื่องนั้นก็ขอไม่พูดละกัน

สำหรับตอนนี้ จิลมีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ ที่จะขอออกจากอนาคตใหม่

ข้อแรก จิลรับไม่ได้กับ Turn Over Rate ที่เหวี่ยงขนาดนี้ คนโบ้ๆออกจากพรรคไปไม่เท่าไหร่ แต่คนใหม่ๆที่พรรครับเข้ามาคือไม่แคร์จุดยืนอะไรเลย นอกจาก Reputation กับ Advantage จนทิ้งหลักการทุกอย่างสิ้น เหลือเพียงแค่ไปจับมือกับพลังประชารัฐแล้วมั้ง ทุกอย่างกลับสู่กระดานการเมืองเก่า การเมืองแบบยึดติดบุคคล ไม่มีใครพูดเชิงประเด็น พอถึงการคัดเลือกทุกอย่างลงไปเป็น Primary Vote ทุกคนก็กลับเข้ากระดานเดิม พรรคพวก เส้นสายอำนาจ แต่ไม่มีใครพูดเชิงประเด็น ไม่มีใครพูดเรื่องเพศ การศึกษา เทคโนโลยี เยาวชน คือไม่มี อันนี้จิลอาจจะผิดเอง ที่คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสกว่าคนอื่น คือง่ายๆว่าถ้าพี่ช่อจะบอกว่าการไปรับงานเผด็จการรับได้ เป็นสิทธิที่จะละเมิดสิทธิคนอื่นได้ จิลก็บายอ่ะ ขอไม่ทำงานร่วมด้วย

ข้อสอง จิลไม่เคยคิดจะลง สส. หรือคณะกรรมการอะไรทั้งนั้น ที่อยู่เพราะทำงานเชิงประเด็นแล้วสนุก NGN เครือข่ายคนรุ่นใหม่มีพื้นที่ให้ทำ ให้แลกเปลี่ยน เสวนาจนนำมาซึ่งโครงนโยบาย คือเราสนุกตรงนี้ แต่พอถึงจุดนึง พอใกล้เลือกตั้งแล้ว จิลคิดมานานแล้วว่ายังไงเสียก็ต้องถอย เพราะเราจะไม่ลง สส. เรายังอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ และเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่คิดมาตั้งแต่ก่อนจะสมัครสมาชิกพรรคด้วยซ้ำ คนใกล้ตัว แม้แต่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นเพื่อนกันก็รู้หมด ว่าจิลคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะเล่นการเมืองไทย เพราะจิลยืนสาย Non-PC มาตลอด ท้ายที่สุด การเหวี่ยงวีนด่ากราดของจิล เดี๋ยวมันก็มาเป็นภัยกับพรรคไม่วันใดก็วันหนึ่ง ยังไงเราก็ต้องออก เพราะงั้นจิลเลยเลือกสมัครสมาชิกพรรคแบบรายปี 100 บาท โดยหักมาจากเงินค่าจ้างพาร์ทไทม์และค่าวิทยากรที่จิลไปทำให้พรรคเอง เรื่องเงินจิลเลยไม่เสียอะไรเลยโดยหลักการ เพราะอัฐยาย ซื้อขนมยาย อีกอย่างจิลมีคิวหนังถึง 3 เรื่องต้องทำในช่วงปลายปี พูดกับเครือข่าย NGN มาสองอาทิตย์แล้วเรื่องการอยากลดบทบาท คืออยากดึงปลั๊กตัวเองมานานแล้ว

ข้อสาม ใช่ ประเด็นคริส ปวินนั่นแหละ ปวินด่ากราดได้ เพราะอยู่นอกเกมส์ แต่คำถามคือ พี่คริสเกี่ยวไร เป็นไรมากป้ะ คือตัวเองมาเล่นการเมืองแล้ว ต้องลงไปเหยียบหัวปวินให้ตัวเองดูแพงในสายตาโอตะ กับเหล่าประชาชนฐานเสียงที่สมาทาน PC เหรอ คือจะอ้วกเหอะ ขนาดจิลที่ว่าด่ากราดมาเป็นปีปี พอถึงจุดที่เข้าไปทำงานกับพรรค ใครที่ติดตามจะรู้ว่าจิลเบาลงมาก รู้จังหวะเข้าออกมาก คือตัวเองโตแล้วป้ะ อยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคบ่อยกว่าจิลอีก ไม่ศึกษา ไม่ตักเตือนกันเรื่องนี้เลยอ่อ แล้วท้ายที่สุด จะบอกว่าอะไร แคร์ปวินเพราะนางถือ 150000 Follower งี้อ่อ ถ้าคิดแบบนั้น คุณก็ไม่ได้ทำการเมืองเชิงประเด็นสิ คิดแบบระบบศาสดากับสาวกงี้อ่อ ต้องไปพัก แต่อ๋อใช่ คุณเป็นคณะกรรมการจดจัดตั้งพรรค จิลเพิ่งมาตาสว่าง ว่าตัวเองคงไม่สามารถเสนอชื่อถอดถอนคุณออกจากพรรคได้ เป็นหลุมพรางที่พรรควางหลอกเอาไว้ได้เนียนดีค่ะ แต่ก็โชคดีที่จิลเสียค่าโง่เรื่องนี้ไปด้วยเงินเพียง 100 เดียว แถมเป็นเงินของพรรคเองด้วย กลับกัน ต้องขอบคุณค่าวิทยากรที่พรรคจ่ายให้จิลด้วยนะคะ เพราะคุ้มมากเลย แถมฉลาดขึ้นอีกเป็นกอง

เมื่อสามเหตุผลประกอบกันดังนี้แล้ว จิลจึงตัดสินใจลาออกค่ะ แต่...

สำหรับงาน Hyperloop จิลเอง ก็มีของในมือที่กะเอาไว้ต่อรองกับคณะกรรมการพรรคเหมือนกัน แต่จิลคิดว่าถ้าทำแบบนั้นจิลคงร้ายเกินไป กอบโกยจากพรรคเขาไม่พอ ยังจะถอนทรัพยากรเขาออกมาอีก ก็ไม่ได้ร้ายขนาดนั้น เพราะงั้น จิลจะปล่อยให้นักศึกษาทีมเพื่อนของจิลที่จิลรู้จัก เข้าไปศึกษางาน Hyperloop กับพรรคต่อไปตามระยะเวลาที่พรรคจัดจ้าง และให้ทุกอย่างเป็นไปตามการตัดสินของนักศึกษาเหล่านั้นเองว่าหลังจากนี้ เขาจะร่วมศึกษากับทางพรรคเรื่อง Hyperloop ยังไงต่อไปหรือไม่ จิลบังคับความคิดใครไม่ได้ และในความเป็นจริง พรรคก็เพียงแค่ออกตัวว่าจะศึกษาไอ้ตัวเทคโนโลยีตัวนี้ ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็เออ ขอให้สำเร็จละกัน แต่ถ้าคุณคริส ยังนั่งอยู่ในทีม Hyperloop จิลไม่อยู่แน่

และจิลไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้จิลเสียอะไรเลย อย่างที่บอก จิลแทบไม่เสียอะไรเลยจริงๆ จิลเข้าไปทำงานก็ได้เงิน เงินก็เอาไปสมัครค่าสมาชิก ได้รู้ระบบการเมืองของพรรคที่เพิ่งตั้งใหม่ ที่ถ้าหากไปทำพรรคใหญ่ๆคงไม่มีโอกาส หรือจะกลัวว่าฝ่ายตรงข้าม หรือคนที่เหม็นจิลจะแบบ ว้าย แพ้ มึงแพ้ ก็จะแบบหัวเราะ แพ้อะไรคะ ไม่มีค่ะ 

พรรคจะทำงานเป็นเส้นตรงแนวดิ่งซักหน่อย เพื่อทำให้งานทุกอย่างเป็นระบบก็เสือกเล่นหลากหลาย เล่นกระจายอำนาจ แต่พอกระจายอำนาจไปจริงๆ ก็เสือกเจอคนที่แนวคิดแกว่ง จะให้นี่ไปฟาดกับคน คนแบบนี้กี่คน ทำไปแล้วก็ไม่วายจะต้องไปงัดกับวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่รายท้องที่อีก เออ แล้วทำไมต้องเป็นหน้าที่สมาชิกพรรครายปี 100 บาทด้วยวะ

คนที่ทำได้เสือกไม่อยากทำ คนที่อยากทำเสือกทำไม่ได้

จิลว่าจิลเป็นคน Non-PC มากนะ เวลาจิลด่ากราด ฟาดประเด็นอะไร ยอดไลค์ ยอดแชร์ไม่เคยต่ำกว่าพัน แต่จิลไม่เข้าใจจริงๆว่าไอ้อีพวกที่ PC มากๆ แต่หาสาแหรก หาจุดยืนไม่ได้ มายืนซีนหล่อไปวันวัน มันช่วยให้อะไรดีขึ้นไปมากกว่าฐานเสียงเหรอ

คุณไม่ยอมให้พรรคโตตามแบบที่ควรจะเป็น คุณใส่ปุ๋ยเร่ง คุณอาจจะเรียกมันว่าการโตแบบก้าวกระโดด เรียกมันว่าวิวัฒนาการ แต่จิลขอเรียกมันว่า "กลายพันธุ์" ค่ะ

จิลกำลังดำเนินการเคลียร์งานทุกอย่างออกจากตัวเอง แล้วกลับไปเป็นอีจิลคนเดิมแบบที่อยากเป็นแล้ว และกำลังลาออกตามระบบระเบียบการ ซึ่งก็ไม่เห็นยาก จิลถือใบลาออกตั้งแต่วันแรกที่สมัครแล้ว จิลทำงานอยู่ Back Office ตั้งแต่แรก

วิธีการอาจารย์ป๊อกที่พยายามเอาใจจิลเพราะเพิ่งมาเห็นว่าจิลเป็นเพศหลากหลาย จิลบอกเลยว่าไม่ได้ผล จิลทำงานกับประเด็น ไม่ใช่การยกยอเอาอกเอาใจ แถมจิลไม่ได้เข้าพรรคไปที่ประเด็นเรื่องเพศด้วยซ้ำ จิลไปทำเรื่องอาร์ต+เทคโนโลยี ถ้าซื้อจิลไม่ได้กับตรงนี้ ก็อย่าหวังว่าจะได้จิลไปทำงานด้วยอีก ยิ่งคุณยกยอความชายเป็นใหญ่กันขนาดนี้ ก็ไม่ต้องมาพูดกัน

"ถ้าให้ผมไปพูดเรื่องเพศที่สามจังหวัด ผมพูดไม่ได้เลย"

จิลก็จะรอดูอยู่นะคะ ว่าเมื่อไหร่อาจารย์จะพูด แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่

โอกาสสุดท้ายของพวกคุณคือถ้านโยบายคนรุ่นใหม่ที่จิลมีส่วนร่วมไม่ผ่าน Primary Vote แล้วไม่คลอดออกมาหาเสียงล่ะก็ คุณก็จะไม่ได้หนึ่งเสียงจากจิล แค่นั้นเอง

จิล

ปล. สำหรับเครือข่าย NGN จิลมีความสัมพันธ์อันดีกับคณะกรรมการ NGN ทุกคนค่ะ และทุกคนรับทราบถึงเหตุผล ยอมรับได้ รวมถึงมีการคุยกันว่าหาก NGN ออกมาเป็นมูลนิธิยืนหนึ่งเมื่อไหร่ จิลกลับไปร่วมงานด้วยแน่นอน 

ปล2. ตอนนี้จิลสบายใจมากๆเลย เพราะตอนเข้าคูหา จิลจะได้ตอบตัวเองได้แม่นๆแล้ว ว่าเออ ฉันได้ลงมาสู้เต็มที่แล้วในกติกา ฉันทำงาน ฉันมีผลงาน แต่ระบบเมืองไทย  พรรคที่ว่าใกล้เคียงเราที่สุดยังเหี้ย มันก็ช่วยไม่ได้ ฉันทำเป็นหลับตาข้างนึงเหมือนค่ามีนประเทศไปก็ได้ แล้วไปให้พ้นๆซะ

ปล3. สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้น จิลขอด่าทุกคนที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และจิลยินดีที่จะขอโทษ หากใครจะบอกสมน้ำหน้า หน้าแห้งเลยสิ ขอบอกเลยว่าไม่ค่ะ จิลไม่เคยเอา Reputation ของตัวเองไปผูกกับพรรค จิลมีซีนได้ด้วยตัวเองมานานแล้ว พรรคเป็นแค่เสี้ยว เสี้ยวเล็กๆของตัวเองมาก ถึงเฟสบุ๊คมันจะรีรูปขึ้นมาใหม่ มันก็ไม่ได้เป็นตราบาปอะไรเลยค่ะ ตอนนี้จิลได้ทำเต็มที่เท่าที่จิลจะนึกออกแล้ว ก็เหลือแต่ทุกๆคนแล้วล่ะ จะเอาไง.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"